มองภาพรวมตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่
กรอบ SET INDEX 1675-1688
Market Outlook
วันนี้ประเมิน SET INDEX แกว่งออกข้างในกรอบ 1675-1688 ภาพรวมยังขาดปัจจัยใหม่ๆ โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างรอดูผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 4Q22 ที่จะประกาศออกมาหลังจากนี้ ซึ่งวานนี้ TISCO ได้ประกาศกำไรสุทธิ 4Q22 ที่ 1.8 พันล้านบาท (+1% YoY, +2% QoQ) สอดคล้องกับเราและตลาดประเมิน NPL ทรงตัวได้ที่ 2.1% เท่ากับ 3Q22 พร้อมกับ Coverage Ratio ที่สูงถึง 258.8% โดยเราปรับกำไรปี 2023-2024 ขึ้น 2-4% สะท้อนการปรับเพิ่มสมมติฐานการโตสินเชื่อเป็น 7.5% และ 6.6% สำหรับปี 2023 และ 2024 ตามลำดับ (เดิมทีคาดสินเชื่อปี 2024 ขยายตัวเพียง 5%) ทั้งนี้ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารได้ปรับขึ้นมาแล้วราว 8% จากจุดต่ำสุดเดิมก็เชื่อว่ารับรู้กับผลประกอบการที่จะออกมาดีไปพอสมควรแล้ว ดังนั้นหากหาไรกลุ่มธนาคารที่จะประกาศออกมาหลังจากนี้มิได้สูงกว่าตลาดคาดไว้ อาจเผชิญแรง Sell On Fact มากกว่าจะปรับขึ้นต่อ ขณะเดียวกันปัจจัยบวกต่างๆก็รับรู้ไปในราคาแล้วพอสมควร อาทิ การผ่อนคลายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed), การเปิดประเทศของจีนจึงคงมุมมองเช่นเดิมว่า SET INDEX มี Upside ที่จำกัด และยังกังวลถึงความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ จะกลับมาเป็นปัจจัยกดดันในช่วงถัดไป ตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้ติดตามดัชนีการผลิตของรัฐนิวยอร์ก Bloomberg ประเมินไว้ที่ -8.7 ซึ่งตัวเลขที่ต่ำกว่า 0 กำลังสะท้อนถึงการหดตัวของภาคผลิตในนิวยอร์ก ส่วนในประเทศรอติดตามผลประกอบการกลุ่มธนาคารสัปดาห์นี้คาดว่าจะประกาศจนแล้วเสร็จของกลุ่ม
เชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเพียงแค่ Trading เช่นเดิม เพราะมองถึง Upside ที่จำกัด ส่วนหุ้นเน้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ สื่อสาร (ADVANC) กลุ่มค้าปลีก (BJC, HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) สนามบิน (AOT) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF, RATCH)
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
AOT ราคาพื้นฐาน 78.00 บาท
ราคาหุ้นปรับลงมาจนเริ่มดูมี Upside ในการ Trading และUpside เริ่มเปิดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายโดยปัจจัยบวก เชิงปัจจัยพื้นฐานยังมาจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามา โดยเฉพาะช่วงตรุษจีนที่จะเริ่ม ในช่วงวันที่ 22 เดือนม.ค. 2022 โดยคาดปี 2023 จะกลับมามีกำไรครั้งแรกรอบ 3 ปี
BJC ราคาพื้นฐาน 40.00 บาท
คาดกำไรไตรมาส 4/22 แตะจุดสูงสุดของปีจาก (1) กำไรโมเดิร์นเทรดที่ฟื้นตัวดีจากยอดขายในย่านท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น และการมอบส่วนลดค่าเช่าที่น้อยลง และ (2) กำไรธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ฟื้นตัวขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง
