บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +15.1%

Close Jan 16, 2023 Price (THB) 5.30

12M Target (THB) 6.10

What’s new?

  • คาดกำไรสุทธิ 4Q55 ทำสถิติสูงสุดใหม่ จากโครงการที่ล่าช้ามา และงานใหม่ที่เริ่มรู้จาก Backlog 4.5 พันล้านบาท
  • STI มีแผนจะขยายงานออกแบบ และงานที่ปรึกษาโครงการด้านสังคม + สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งเป็นงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง และสอดคล้องกับ SDGs + ESG Theme ที่ภาครัฐและเอกชนกำลังให้ความสําคัญ

Our view

  • คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% YoY และคาดกำไรสุทธิปี 2556 ที่ 175 ล้านบาท โตเร่งขึ้น 18.7% YoY โดยยังมีรวม Upside การเติบโตในระยะยาวจากด้าน SDGs + ESG
  • แนะนำ ซื้อ ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมปี 2566 เป็น 6.10 บาท อิง PER 21 เท่า จากเดิมที่ 5.80 บาท มี Upside ราว 15.1% และผลตอบแทนจากเงินปันผล 4-5% ต่อปี

STONEHENGE INTER ธุรกิจเดิมกำลังเร่งตัว ระยะยาวได้แรงหนุนจาก ESG

คาดกำไร 4Q65 ทำสถิติสูงสุดใหม่

เราคาดผลประกอบการ 4Q65 ของ STI จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 50.3 ล้านบาท โตเร่งตัวขึ้น 44.4% QoQ +22.9% YoY จาก 1) การรับรู้รายได้จากโครงการที่ชะลอตัวมาจาก 9M65 2) เริ่มรับรู้รายได้จากงานใหม่ที่ได้รับใน 2Q65-3Q65 ได้แก่ งานที่ปรึกษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง มูลค่างานราว 400 ล้านบาท และงานที่ปรึกษาโครงการรถไฟรางคู่สายเหนือเด่นชัย-เชียงราย และสายอีสานบ้านไผ่-นครพนม รวม 2 โครงการ มูลค่าราว 800 ล้านบาท และ 3) อัตราการทำกำไรจะดีขึ้น เนื่องจากมีการรับรู้โครงการอัตรากำไรขั้นต้นสูง และต้นทุนบางส่วนถูกรับรู้ไปแล้วจากโครงการที่ชะลอตัวก่อนหน้านี้

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 1Q66 เราคาดทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้โครงการรถไฟฟ้ารางคู่เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก ขณะที่แนวโน้มช่วงที่เหลือของปี จะรับรู้รายได้จาก Backlog ที่ยังทรงตัวในระดับสูงราว 4.5 พันล้านบาท และคาดจะเห็นการเร่งอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และสายสีแดงส่วนต่อขยายใน 1Q66 รวมมูลค่า 2 โครงการราว 700 ล้านบาท

มุ่งสู่ผู้นำในการให้คำปรึกษาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบัน STI ให้ความสำคัญด้าน ESG มากขึ้น และเราคาดว่าจะเป็นบริษัทที่ได้ประโยชน์จาก ESG Theme ในระยะยาว โดยบริษัทเริ่มรับงานให้คำปรึกษาและออกแบบอาคารเพื่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบอาคารให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, การควบคุมงานก่อสร้าง, และการลดของเสียในโครงการต่างๆ ซึ่งงานออกแบบที่เกี่ยวข้องกับ ESG เป็นงานที่มีอัตรากำไรสูงกว่างานที่ปรึกษาโครงการทั่วไป โดย STI มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนงานออกแบบเป็น 30% ของงานทั้งหมด จากที่มีสัดส่วนราว 20% ในปัจจุบัน โดยมีแนวทางการดำเนินธุรกิจในแต่ละด้านดังนี้

    • ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม บริษัทฯ มีการออกแบบโครงการที่คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการ ควบคุมงานก่อสร้างของผู้รับเหมา เพื่อลดปัญหาของฝุ่น เสียง และการจราจร ที่กระทบต่อพื้นที่โดยรอบ โครงการก่อสร้าง อีกทั้ง ยังพัฒนาธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยร่วมมือกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนา โครงการ เพื่อสนับสนุนการลดคาร์บอนทั้งของภาครัฐและเอกชน ซึ่งถือเป็น Upside ต่อการเติบโตในระยะ ยาวควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญด้าน Sustainable Development Goals – SDGs ของภาครัฐ และด้าน ESG ของภาคเอกชน
    • ด้านบรรษัทภิบาล บริษัทฯมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยเน้นเข้าประมูลและ เลือกรับโครงการที่มีความโปร่งใสในการบริหารจัดการ เพื่อลดความเสี่ยงด้านคอร์รัปชั่น

คงประมาณการกำไรสุทธิปี 65 และปี 66

เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 148 ล้านบาท (+2.2% YoY) และคาดกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 175 ล้าน โตเร่งขึ้น 18.7% YoY จากการรับรู้รายได้ของโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ล่าช้าจากปี 2565 และงานใหม่ที่คาดว่าจะเร่งประมูลใน 1Q66 ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง รวมถึงคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากงานให้คำปรึกษาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ราคาปัจจุบันซื้อบน PER2566 ที่ 18.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 25 เท่า และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมในต่างประเทศที่ 30 เท่า อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ คาดการณ์ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสม่ำเสมอที่ราว 4-5% ต่อปี แนะนำ “ซื้อ” และปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2566 ที่ 6.10 บาท อิง PER Multiplier ที่ 21 เท่า จากเดิมที่ 20 เท่า สะท้อนมุมมองด้าน ESG ที่เป็นบวกมากขึ้น เนื่องจากบริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนงานปรึกษาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเราประเมิน Yuanta ESG Rating ที่ระดับ AAA

- Advertisement -