บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action SELL (Downgrade)

TP upside (downside) -15.5%

Close Jan 17, 2023 Price (THB) 21.30

12M Target (THB) 18.00

Previous Target (THB) U.R.

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q65 ของ STA ที่ 285 พบ. (-67.6% QoQ, -83.6%YoY) ทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี จากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงทั้งธุรกิจยางธรรมชาติ และธุรกิจถุงมือยาง
  • แนวโน้มกำไร 1Q66 คาดฟื้นตัว QoQ จากปริมาณขายที่เติบโต แต่กำไรคาดจะยังชะลอตัว YoY ต่อจากราคาขาย และค่าเงินบาทเทียบ USD ที่แข็งค่า โดยยังต้องติดตามสถานการณ์ราคายางพาราและถุงมือยางอย่างต่อเนื่อง

Our view

  • เรามีมุมมองเป็นลบต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 2560 ที่คาดจะชะลอลง YoY โดยเราได้ปรับประมาณการกำไรปี 2565-06 ลง 20% และ 34% ตามลำดับ สะท้อนราคาขายเฉลี่ยที่ปรับลงมากกว่าคาด และปรับสมมติฐานค่าเงินบาทเทียบ USD
  • ผลของการปรับประมาณการลงทำให้ได้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ใหม่ที่ 18.00 บาท และปรับคำแนะนําลงเป็น SELL เชิงกลยุทธ์มอง TEGH และ NER เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

SRI TRANG-AGRO INDUSTRY ยังค้องรอปัจจัยบวกใหม่

คาดกำไรปกติ 4Q65 ทำระดับต่ำสุดรอบ 3 ปี

เราคาดกำไรปกติ 4Q65 ของ STA ที่ 285 ลบ. (-67.6% QoQ, -83.6% YoY) ทำระดับต่ำที่สุดในรอบ 12 ไตรมาส จากผลประกอบการธุรกิจถุงมือยาง (STGT) คาดจะยังชะลอตัว QoQ ต่ออยู่ที่ 10 ลบ. (-91.8%QoQ, -99.5%YoY) แม้ปริมาณขายจะเพิ่มเป็นราว 6,500 ล้านชิ้น (+1.9% QoQ) แต่จากราคาขายเฉลี่ยถุงมือยางที่คาดยังอ่อนตัวต่อเหลือ 0.66 บาท/ชิ้น (-13% QoQ) ทำให้ GPM ของ STGT ลงต่อเป็น 11.0% จาก 11.6% ใน 3Q65 ขณะที่ธุรกิจยางธรรมชาติคาดปริมาณขายทรงตัว QoQ ที่ 4.0 แสนตัน แต่ราคาขายปรับลงราว 18%QoQ เป็น 50.4 บาท/กก. ตามทิศทางราคายางในตลาด SICOM ที่ปรับลงและค่าเงินบาทเทียบ USD ที่แข็งค่ามากขึ้น และแม้ต้นทุนยางก้อนถ้วยจะปรับลงเช่นกัน แต่เราคาดจะชดเชยได้เพียงบางส่วน ทำให้เราคาด GPM ของธุรกิจ NR จะชะลอลงเป็น 11.8% จาก 13.6% ใน 3Q65 โดยรวมทำให้เราคาด GPM ของ STA ที่ 11.7% ลดลงต่อเนื่องจาก 13.3% ใน 3Q65 หากเป็นไปทำตามที่เราคาดจะทำให้กำไรทั้งปี 2565 ต่ำกว่าประมาณการเดิมของเราอยู่ 20% เราจึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 2565 เป็น 3,540 ลบ. (-79.4% YoY)

แนวโน้ม 1Q66 คาดกำไรฟื้น QoQ แต่ยังชะลอต่อ YoY

เราคาดแนวโน้มกำไร 1Q66 จะฟื้นตัว QoQ จากการรับรู้กำลังการผลิตใหม่ หนุนปริมาณขายทั้งยางพาราและถุงมือยางให้เติบโต และมีออเดอร์ยางพาราบางส่วนที่ถูกเลื่อนมาจาก 4Q65 อย่างไรก็ตาม เราคาดแนวโน้มราคาขายเฉลี่ยของถุงมือยางและยางพารายังมีแนวโน้มเป็นขาลงต่อ และทำให้กำไรของ STA จะยังชะลอ YoY โดยยังต้องติดตามสถานการณ์ราคาขายเฉลี่ยของยางธรรมชาติและถุงมือยางอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การที่จีนเปิดประเทศคาดจะช่วยหนุนแนวโน้มราคายางพารา และปริมาณขายให้สูงขึ้น คาดจะเริ่มรับรู้ผลตั้งแต่ 2Q66 เป็นต้นไป แต่คาดอาจกระทบ Supply ถุงมือยางสังเคราะห์ในตลาดให้สูงขึ้นกดดันราคาถุงมือยางต่อ

ปรับประมาณการปี 2566 ลง

จากแนวโน้มราคาขายเฉลี่ยยางพาราและถุงมือยางที่ยังลดลงต่อเนื่องนานกว่าเดิมที่เราประเมินไว้ และปรับสมมติฐานค่าเงินบาทเทียบ USD จาก 34 บาท/USD เป็น 32.5 บาท/USD เราจึงปรับประมาณการกำไรปกติของ STA ปี 2566 ลง 34% เป็น 2.63 พันลบ. (-25.7%YoY)

ปรับลดราคาเหมาะสม และปรับคำแนะนำลงเป็น ขาย

ผลของการปรับประมาณการลง ทำให้ราคาเป้าหมายของ STA ถูกปรับลงเป็น 18.00 บาท จากเดิมที่ 22.00 บาท (อิงวิธี SOTP) มี Downside risk 15.5% ขณะที่ผลตอบแทนจากเงินปันผลคาดจะลดลง จากเดิมตามแนวโน้มกำไรที่ลดลงเหลือเพียงราว 4% ต่อปี ไม่จูงใจให้เข้าลงทุนจากแนวโน้มกำไรที่คาดจะชะลอต่อ จึงปรับลดคำแนะนำจาก TRADING เป็น ขาย เชิงกลยุทธ์มอง TEGH และ NER เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าสําหรับกลุ่มธุรกิจยางธรรมชาติ

- Advertisement -