สรุปภาวะตลาด

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยรวมตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มขนส่ง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนแรงขายมาจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่เข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,685.44 จุด +4.40 จุด +0.26% มูลค่าการซื้อขาย 61,395 ลบ. ต่างชาติ +1,516.24 ลบ. TFEX +2,086 สัญญา ตราสารหน้ี +990.72 ลบ.

ปัจจัยบวก +

+ ททท.ประเมินสถานการณ์ท่องเท่ียวไทยในเทศกาลตรุษจีน วันที่ 19-27 ม.ค. คาดสร้างรายได้รวม 21,296 ล้านบาท ฟื้นตัว 48% จากปี 2562 โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย 588,900 คน สร้างรายได้สะพัด 16,696 ล้านบาท ฟื้นตัวกลับมา 44% ของช่วงเดียวกันในปี 2562 และคนไทยเดินทางท่องเท่ียวในประเทศ 1.38 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 4,600 ล้านบาท และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 59% ทำให้บรรยากาศท่องเที่ยวมีความคึกคักมากกว่าปีก่อนหน้า

+ สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.4%MoM ในเดือนพ.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ใน เดือนต.ค.

+ IEA ออกรายงานระบุว่า การที่จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 จะหนุนอุปสงค์น้ำมันโลกพุ่งแตะระดับ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในปีนี้ ขณะที่มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะลดอุปทานในตลาด

ปัจจัยลบ –

– ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 613.89 จุด -1.81% โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ต่างก็ดิ่งลงเกือบ 2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันการที่เจ้าหน้าท่ีเฟด สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป

– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 70 เซนต์ -0.9% ปิดที่ 79.48 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่าการเปิดประเทศของจีนจะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมัน

– สหรัฐเปิดเผยว่า PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตเพิ่มขึ้น6.2%YoY ในเดือนธ.ค.ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.8% และเฟดเปิดเผยว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐ ลดลง 0.7% ในเดือนธ.ค. หลังจากปรับตัวลง 0.6% ใน เดือนพ.ย.

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประกอบกับ WTI ที่ปรับลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,675-1,690 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ช้อปดีมีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
  • การท่องเท่ียวเติบโตต่อเนื่องและจีนเปิดประเทศ : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
  • หุ้นโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากรายได้ปรับขึ้นตามค่า FT แต่ต้นทุนเริ่มคงที่ : GPSC BGRIM RATCH
  • หุ้นยั่งยืนด้านพลังงานหมุนเวียน : EA TSE SSP SUPER PRIME
  • หุ้นได้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้า : EA GPSC BCP OR DELTA
  • หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
  • หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BBL COM7 CPALL

หุ้นรายงานพิเศษ

SAF (mai/ Industrial)

(ราคา IPO 1.93 บาท ราคาเหมาะสม Consensus n/a บาท)

  • บมจ. เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล ประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าเกรดพิเศษ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงบริการชุบแข็งด้วยระบบสูญญากาศ บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทย จากกลุ่มบริษัท Dorrenberg ประเทศเยอรมนี งวด 9M65 มีสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นเหล็กกล้าพิเศษสำหรับงานแม่พิมพ์ 70% งานเครื่องจักรกล 20% บริการชุบแข็งด้วยระบบสุญญากาศ 4% และรายได้อื่น 0.30% สัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ให้แก่ลูกค้ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ 42-48% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง 38-41% กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร 3-7% และกลุ่มอื่นๆ สัดส่วน 8-11%
  • ปี 64 มีรายได้จากการขายและบริการ 214 ล้านบาท +19% มีปริมาณการขายเหล็กกล้าเกรดพิเศษสำหรับแม่พิมพ์เพิ่มขึ้น จากลูกค้าในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์เป็นหลัก รองลงมาเป็นลูกค้าในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากการเติบโตของการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนที่สูงขึ้น ประกอบกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 และราคาขายเหล็กเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น จากความต้องการเหล็กที่เพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก งวด 9M65 มีรายได้รวม 169 ล้านบาท +5%YoY จากการขายเหล็กกล้าเกรดพิเศษสำหรับแม่พิมพ์เพิ่มขึ้น และราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นชดเชยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ลูกค้าลดหรือเลื่อนแผนบำรุงรักษาเครื่องจักร โดยมีกำไรสุทธิ 10.02 ล้านบาท +11%YoY จากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นถึง 30% การปรับเพิ่มตามราคาเหล็กกล้าในตลาดโลก และการควบคุมต้นทุนในการจัดจำหน่าย
  • SAF มีทุนชำระหลังเสนอขาย 150 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 220 ล้าน หุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้น มูลค่าระดมทุน 154.4 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 579 ล้านบาท เงินที่ได้จากการระดมทุนนำไปใช้ในการลงทุนสร้างคลังสินค้าและโรงงานแห่งใหม่ ลงทุนเครื่องเตาชุบแบบไนไตรดิ้ง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
  • ราคา IPO คิดเป็น historical P/E ratio ที่ประมาณ 34.96 เท่า เปรียบเทียบกับ P/E ของ บมจ.สหมิตรเครื่องกล (SMIT) มี ที่ 9.31 เท่า ตลาด mai 57.50 เท่า และหมวดสินค้าอุตสาหกรรม 28.55 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) BJC (Bloomberg consensus 40.38 บาท) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวว่า บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (Big C) ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ปัจจุบันถือหุ้นใหญ่โดยบมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ธุรกิจในกลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้เลือก Bank of America Corp. และ UBS Group AG เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) คาดระดมทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 33,093 ล้านบาท (ที่มา การเงินธนาคารออนไลน์)

(+) GLOBAL (Bloomberg Consensus 24.00 บาท) แย้มไตรมาส 1/2566 รับไฮซีซันหนุนยอดขาย SSSG โต บวกกำลังซื้อดีขึ้น คาดรายได้รวมปี 2566 โต 10% ลุยขยาย 7 สาขา ด้วยงบลงทุนราว 2.5 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าลดต้นทุนไฟฟ้าด้วยการติดโซลาร์รูฟไปกว่า 70 เมกะวัตต์ ลดภาระค่าไฟฟ้าปีละกว่า 300-400 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SELIC (Bloomberg consensus – บาท) เปิดกระเป๋ารับเงินขายเฮลธ์แคร์เข้าปีนี้ 400-500 ล้านบาท พร้อมใส่เกียร์เร่งเครื่องผลิตเต็มสูบ คาดดันผลงานปี 2566 โตก้าวกระโดดชน 2 พันล้านบาท จับตามาร์จิ้นฟู ชี้เปิดประเทศหนุนกาว สติกเกอร์ขายดี ลุยเจาะตลาดอาหารเครื่องดื่ม ตามกระแสเทรนด์รักษ์โลก เล็งพัฒนาสินค้าใหม่ลงสู่ตลาด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PIMO (Bloomberg consensus 4.58 บาท) โชว์ฟอร์มเด่น คว้าออเดอร์ใหม่ออสเตรเลีย มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท แย้มแผนสยายปีกตลาดซาอุ คาดชัดเจนไตรมาส 2/2566 มูลค่าราว 100- 200 ล้านบาท ปักธงยอดขายปี 2566 ยืนเหนือ 1.3 พันล้านบาท รับปัจจัยบวกสภาวะโลกร้อนความ ต้องการมอเตอร์พุ่ง จ่อทุ่มงบ 100 ล้านบาท ขยายไลน์ผลิต ขณะที่ BLDC โตก้าวกระโดด (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • ภายใน 21 ม.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินปี 65
  • สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
    • สํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
    • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
  • 25 ม.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 1/2566
    • กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
  • 31 ม.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
  • 6 ก.พ. กระทรวงพาณิชย์ รายงาน CPI เดือนม.ค.

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 19 ม.ค. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จาก เฟดฟิลาเดลเฟีย สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 20 ม.ค. ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR)
    • สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.
  • 23 ม.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม
    • สหรัฐ รายงานดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.จาก Conference Board
  • 24 ม.ค. อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ ขั้นต้นเดือนม.ค. จากเอสแอนด์พี โกลบอล
    • สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค.
  • 31 ม.ค. – 1 ก.พ. กำหนดการประชุมธนาคาร กลางสหรัฐเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
- Advertisement -