บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action TRADING (Maintain)
TP upside (downside) +7.9%
Close Jan 18, 2023 Price (THB) 4.54
12M Target (THB) 4.90
Previous Target (THB) 4.90
What’s new?
- คาด 4Q65 รายงานกำไรปกติเป็นครั้งแรก ตั้งแต่เกิด COVID-19 ที่ 125 ล้านบาท หนุนจากภาพฟื้นตัวของโรงแรมทุก Segment ทั้งในตลาดไทยและฟิลิปปินส์
- ประมาณการปี 2566 เราคาด Occ. Rate กลุ่มที่ 70% เทียบกับปี 2562 ที่ทำได้ 77% ขณะที่ ADR กลุ่มเราสมมติให้ต่ำกว่าปี 2562 ราว 20% คาดกำไรปกติที่ 375 ล้านบาท หรือ 88% เทียบกำไรปกติปี 2562
Our view
- เราปรับประมาณการปี 2565 ขึ้นเป็นขาดทุนปกติลดลงที่ 357 ล้านบาท จากการฟื้นตัวช่วง 2H65 ที่ทำได้เร็วกว่าคาด แต่ยังคงประมาณการปี 2566
- เราคงคําแนะนำ TRADING อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 4.90 บาทต่อหุ้น แม้ระยะสั้นราคาหุ้นมี Upside จํากัด แต่หากนักท่องเที่ยวจีนมาเร็วและแรง ประมาณการของเราอาจมี Upside Risk จาก Rate ที่ดีกว่าคาด
THE ERAWAN GROUP คาด 4Q65 กลับมาทำกำไรปกติครั้งแรกตั้งแต่เกิด COVID-19
คาดผลประกอบการ 4Q65 ดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY
คาดกำไรปกติ 4Q65 ที่ 125 ล้านบาท ดีขึ้น QoQ และ YoY เทียบกับขาดทุนปกติ 12 ล้านบาทใน 3Q65 และขาดทุนปกติ 347 ล้านบาทใน 4Q64 สรุปสาระสำคัญดังนี้ (1) โรงแรมในไทยไม่รวม Hop Inn คาด RevPar เฉลี่ยที่ 2,360 บาท/คืน (+38% QoQ, +375% YoY) คาด Occ. Rate ที่ 80% เติบโตเด่นเทียบกับ 67% ใน 3Q65 ขณะที่ ADR คาด +16% QoQ หนุนจาก High Season ของไทย ทำให้การฟื้นตัวของโรงแรมเด่นในทุก Segment (2) โรงแรม Hop Inn ในไทยคาด RevPar ที่ 545 บาท/คืน (+18% QoQ, +49% YoY) คาด Occ. Rate สูงถึง 85% ในแง่ของ ADR ที่ทรงตัวต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2561 กลับมาเติบโตจากโรงแรมในกรุงเทพที่เปิดใหม่ 3 แห่งได้ระดับ ADR ที่สูงกว่าเดิมได้ หนุนภาพรวม ADR ของกลุ่ม (3) โรงแรม Hop Inn ในฟิลิปปินส์ คาด RevPar ที่ 822 บาท/คืน (+33% QoQ, +94% YoY) จากคาด Occ. Rate ที่ 75% ดีขึ้นเทียบกับ 59% ใน 3Q65 ตามภาพการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในฟิลิปปินส์ (4) คาด GPM ใน 4Q65 อยู่ที่ 54.9% เทียบกับ 52.7% ใน 3Q65 หนุนจาก Economies of scale ที่ดีขึ้น และ (5) คาด SG&A ที่ 447 ล้านบาท (+24% QoQ, +58% YoY) ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามรายได้ แต่เราคาด ADR จะปรับขึ้นได้เด่นกว่าชดเชยให้ SG&A/Sales ลดเหลือ 27% ใกล้เคียงช่วง Pre COVID-19 แล้ว
ปรับประมาณการปี 2565 มี Upside แต่ยังคงประมาณการปี 2566
หากผลประกอบการ 4Q65 เป็นไปตามคาด จะทำให้ประมาณการปี 2565 ของเรามี Upside Risk จากการฟื้นตัวช่วง 2H65 ที่ทำได้เร็วกว่าที่เราคาด ทั้งในแง่ของรายได้และ GPM ทำให้เราปรับประมาณการปี 2565 ขึ้นเป็นคาดขาดทุนปกติ 357 ล้านบาท จากเดิมคาดขาดทุนปกติ 599 ล้านบาท แม้การฟื้นตัวของ ERW ในปี 2565 จะทำได้ดีกว่าที่เราประเมินไว้ แต่สำหรับปี 2566 ในเบื้องต้นเราคงประมาณการไว้ก่อน อย่างไรก็ดี เรามีโอกาสพิจารณาปรับประมาณการขึ้น หาก 1) จำนวนนักท่องเที่ยวจีนกลับมาได้เร็วกว่าคาด ต้องจับตาการเพิ่มจำนวนไฟลท์บินที่ยังเป็นข้อจำกัดให้นักท่องเที่ยวจีนยังค่อยๆเร่งตัว หรือ 2) กลยุทธ์การเพิ่ม ADR ทำได้ดี กำไรปกติอาจกลับไปใกล้เคียงปี 2562 ได้เร็วกว่าที่คาดไว้
หุ้น Sideway มาสักระยะ…จับตา Catalyst ที่ทำให้หุ้นมีโอกาสไปต่อ
จุดเด่นที่แข็งแกร่งของ ERW คือรายได้หลักมาจากกลุ่มโรงแรมระดับบนในกรุงเทพฯ เริ่มสะท้อนมาในผลประกอบการที่ฟื้นตัวได้เด่นกว่าการกลับมาของจำนวนนักท่องเที่ยวแล้ว แม้ใน 4Q65 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาราว 50% แต่ผลประกอบการที่เราคาดกลับมา 70% เมื่อเทียบกับปี 2562 แล้ว ส่วนหนึ่งเราคาดจากนักท่องเที่ยวที่กลับมาในช่วงแรกเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายต่อคนสูง ทำให้กลยุทธ์การขึ้น ADR ทำได้ต่อเนื่อง และการคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นในช่วงที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทําให้ภาพรวมการทำกำไรของบริษัทดีขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นแกว่งตัวแค่ในกรอบ +/- 4.50 บาท เนื่องจาก Valuation เริ่มตึงตัว แต่เรามองว่าหุ้นยังมีความน่าสนใจจาก 1) งบที่ฟื้นตัวเด่น และเร็วกว่าคาดอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสที่จะทำให้เราและตลาดต้องปรับประมาณการขึ้น และ 2) นักลงทุนควรจับตาช่วงวันหยุดยาวของจีนวันที่ 21-27 ม.ค.66 ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนมีโอกาสเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้ตลาดเข้าเก็งกำไรกลุ่มท่องเที่ยว และ ERW เป็นตัวเลือกเด่นที่ได้ประโยชน์โดยตรง เนื่องจากมีจีนเป็นกลุ่มลูกค้าหลักสัดส่วนราว 12%-15% ของรายได้ในปีปกติ
คงคําแนะนําเป็น “TRADING” อิงราคาเหมาะสมที่ 4.90 บาท
เราคงคำแนะนำ “TRADING” ซึ่งราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 4.90 บาทต่อหุ้น (อิง EV/EBITDA ที่ 16x) แม้ Upside เทียบราคาเหมาะสมของเราในปัจจุบันจะจำกัด แต่เรามองว่า ERW เป็นตัวแทนที่ดีสำหรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะในปี 2566 ที่ผลประกอบการจะเติบโต YoY ได้เด่นกว่ากลุ่มเพราะฐานที่ต่ำกว่า ทำให้คาดหุ้นยังมี Sentiment ได้ต่อเนื่อง
ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะต่างชาติอาจต่ำกว่าคาดการณ์, การระบาด COVID- 19 รอบใหม่, เศรษฐกิจถดถอยรุนแรงทั่วโลก และการแข่งขันด้านราคาในระยะถัดไป