บล.บัวหลวง:

Pruksa Holding (PSH TB/PSH.BK)

PSH – รองรับการเติบโตระยะยาวผ่านการขาย 51% ของ Inno Precast ให้กับ GEL

PSH ประกาศการลงทุนใหม่ในธุรกิจพรีคาสท์ (Inno Precast) กับ บมจ. เจนเนอรัล เอ็นจิเนียริง (GEL) โดยหลังจากดีลนี้ Inno Precast จะเป็นโรงงานสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เรามองว่าดีลนี้เป็นกลยุทธ์ระยะยาวของ PSH แต่ระยะสั้นจะยังไม่ได้เห็นผลบวกชัด เรายังคงคำแนะนำ “ถือ”

การแลกหุ้นระหว่าง PSH และ GEL; Inno Precast

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา PSH ประกาศการลงทุนใหม่ในธุรกิจพรีคาส โดยการแลกหุ้นเพิ่มทุน 18.26% (1.572.7 ล้านหุ้น โดยมีราคา 0.37 บาท/หุ้น) ใน บมจ. เจนเนอรัล เอ็นจิเนียริ่ง (GEL) และขายธุรกิจพรีคาสท์ 51% ของ PSH (อินโน พรีคาสท์ โดยบริษัทถือหุ้น 49%) ให้กับ GEL ซึ่ง PSH คาดว่าดีลนี้จะเสร็จสิ้นในเดือนพ.ค. 2566 และ PSH จะรับรู้กำไรทางบัญชีจํานวน 700 ล้านบาทหลังจากดีลนี้

GEL และ Inno Precast คือใคร?

GEL เป็นผู้เชี่ยวชาญและให้บริการครบวงจรในด้านโครงสร้างพื้นฐานและวัสดุก่อสร้างโครงสร้าง เช่น คอนกรีตสำเร็จรูป ซีเมนต์พิเศษ เคมีภัณฑ์ ก่อสร้าง เป็นต้น รายได้จากพรีคาสท์ของ GEL ในปี 2565 อยู่ที่ 2.7 พันล้าน บาท ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่ม โดยมีกำลังการผลิต 0.8 ล้านตร.ม./ ปี. ในปี 2565 Inno Precast รายงานรายได้รวม 1.95 พันล้านบาท โดยมีกำลังการผลิต 4.4 ล้านตร.ม./ปี และรายงานกำไรสุทธิ 150 ล้านบาท โดยการเพิ่ม ประสิทธิภาพของ GEL และ Inno Precast รายได้พรีคาสท์ในปี 2565 จะสูงถึง 4.6 พันล้านบาท ด้วยกำลังการผลิต 5.2 ล้านตร.ม./ปี ซึ่งเป็นโรงงานเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

การร่วมมือระหว่าง PSH และ GEL

ในปี 2565 ธุรกิจพรีคาสท์ของ PSH ดำเนินการโดยใช้อัตราการการผลิตเพียง 53% ของโรงงาน และ GEL ดำเนินการเต็มกำลังการผลิต ส่งผลให้ GEL มีรายการรอการผลิตและการจ้างพรีคาสท์จากภายนอก ความร่วมมือนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้ง PSH และ GEL โดย PSH จะประหยัดค่าวัสดุก่อสร้างได้ถึง 100-300 ล้านบาท/ปี และ PSH จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากสัดส่วนการถือหุ้น 49% ใน Inno Precast (จากส่วนแบ่งกำไร) ซึ่งเราคาดว่าจะเห็นปริมาณที่มากขึ้นในปี 2567 GEL จะขยายกำลังการผลิตจาก 0.8 ตร.ม./ปี เป็น 5.2 ตร.ม./ปี ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและอัตรากำไรของ GEL และส่งผลให้การประหยัดจากขนาดปรับตัวดีขึ้น และรายได้ที่อาจสูงขึ้นจากลูกค้าบุคคลที่สาม

การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพียงเล็กน้อยเพื่อหนุนหุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้นต่อไป

เรามองว่าเป็นดีลที่ดีสำหรับ PSH และ GEL แต่ผลประโยชน์จากการทำงานร่วมกันนั้นอยู่ในระยะยาว (อย่างน้อยในปี 2567) นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/65 PSH ประกาศยอดจองซื้อ 2.5 พันล้านบาท (2.9 พันล้านบาทจากโครงการแนวราบและเคลียร์โครงการยอดจองซื้อของปี 2022 ที่ 450 ล้านบาท) ซึ่งรายงานยอดจองซื้อรวม 1.7 หมื่นล้านบาท 45% ต่ำกว่าเป้าปี 2565 ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท เราปรับลดประมาณการกำไรหลักลง 14% มาอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาทในปี 2566 เพื่อสะท้อนถึงยอดจองซื้อที่อ่อนแอ การเปิดตัวโครงการใหม่ที่ต่ำกว่าเป้าหมายในปี 2565 และสะท้อนคาดการณ์เชิงอนุรักษ์นิยมของดีล ซึ่งอาจทําให้ PSH มีอัพไซด์จากส่วนแบ่งกำไร ประมาณการกำไรหลักในปี 2566 ของเราต่ำกว่าตลาด 10% เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมายที่ 12.50 มาก จาก PER 10.5 เก่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 0.5 ส่วนเชี่ยงเบนมาตรฐาน)

- Advertisement -