บล.เอเซีย พลัส:

พื้นฐานยังไม่เปลี่ยน

แนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 ไม่น่าจะต่างจาก 3Q65 อย่างมีนัยสําคัญ ประเด็นหลักยังเป็นเรื่องข้อจํากัดในการจัดหา Feedstock ป้อนเข้าโรงกลั่นยางมะตอย ทําให้การขายสินค้าส่วนใหญ่เป็นการซื้อยางมะตอยจากโรงกลั่นอื่นมาขายต่อ อาศัยข้อได้เปรียบที่ TASCO มีเรือขนส่งและคลังยางมะตอยขนาดใหญ่ จึงแสวงโอกาสทํากําไรได้จากราคายางมะตอยที่ต่างกันในแต่ละภูมิภาค สําหรับปี 2566 แผนธุรกิจไม่ต่างจากปี 2565 ท้ังเป้าปริมาณการขายยางมะตอยและการนําเข้า Feed Stock

ฝ่ายวิจัยยังคงให้น้ําหนักกับเรื่องการจัดหา Crude ซึ่งเป็น Feed Stock หลักในการผลิตยางมะตอย โดยเฉพาะ Crude จากเวเนซูเอลาที่ยังไม่มีความแน่นอนว่า TASCO จะกลับไปซื้อได้เมื่อใด ประเมินราคาเหมาะสมอิง Historical PBV-1SD ได้ 18.60 บาท มี Upside ไม่มาก แนะนํา Switch ไป VNG (FV@ B 9.20) ที่มีแนวโน้มผลประกอบการสดใสมากกว่าจากการเข้าสู่ช่วงเก็บเก่ียวผลตอบแทนการลงทุน

ที่มา: สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส

แนวโน้มกำไรปกติ 4Q65 ดีขึ้นจากปริมาณขาย และต้นทุนที่ปรับลง

ภาพรวมผลประกอบการในงวด 4Q65 ของ TASCO ไม่น่าจะแตกต่างจากงวด 3Q65 อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าไตรมาสนี้จะไม่มีตัวช่วยจาก FX Gain จำนวนมากเหมือนงวด 3Q65 ที่มี FX Gain สูงถึง 159 ล้านบาท แต่ได้ปัจจัยหนุนหลักจากปริมาณการขายยางมะตอยที่เพิ่มขึ้นทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศเห็นการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐมากขึ้น ตั้งแต่เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ในเดือน ต.ค 65 เช่นเดียวกับ ตลาดต่างประเทศ ที่ TASCO มีความสามารถในการจัดหายางมะตอยจากโรงกลั่นอื่นมาขายต่อได้มากขึ้น อาศัยข้อได้เปรียบจากการมีเรือขนส่งและคลังยางมะตอยขนาดใหญ่ จึงแสวงหาโอกาสในการทำกำไรได้จากความแตกต่างกันของราคายางมะตอยในแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะยางมะตอยจากเกาหลีใต้ที่มีราคาต่ำกว่าราคายางมะตอยในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบ 150 USD/ton ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ปริมาณขายยางมะตอยงวด 4Q65 จะทำได้ราว 3.2 แสนตัน เพิ่มขึ้น 14%QoQ ด้านราคาขายแม้ว่าราคายางมะตอยในตลาดต่างประเทศจะเป็นช่วงขาลง เพราะเป็นฤดูหนาวของจีน โดยราคายางมะตอยตลาดสิงคโปร์ (Argus) เฉลี่ยงวด 4Q65 อยู่ที่ 528 USD/ton ลดลง 6% จากงวด 3Q65 ที่มีราคาเฉลี่ยที่ 563 USD/ton แต่ตลาดหลักๆ ที่ TASCO เข้าไปขาย ทั้งตลาดในประเทศและตลาดเวียดนาม มี Demand ค่อนข้างแข็งแกร่ง จึงมีราคาขายลดลงไม่มาก นอกจากนี้ยางมะตอยในส่วนที่ TASCO กลั่นได้เองจากโรงกลั่นยางมะตอยในมาเลเซีย มีต้นทุนการผลิตที่ถูกลง เนื่องจาก TASCO มีการนำเข้า Feedstock คือ Residue เข้ามา ในช่วงเดือน พ.ค-ก.ย และ พ.ย 65 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Crude มีราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจยางมะตอยในงวด 4Q65 น่าจะปรับตัวสูงขึ้นกว่างวด 3Q65 ที่ทำได้ 10.4% โดยฝ่ายวิจัยประเมิน Gross margin ธุรกิจยางมะตอยไตรมาสนี้ที่ 11% สำหรับธุรกิจก่อสร้าง คาดรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นไม่แตกต่างจากงวด 3Q65 มากนัก โดยคาดรายได้ 820 ล้านบาท และ Gross margin 3.7% ภายใต้สมมุติฐานข้างต้น ฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรสุทธิงวด 4Q65 อยู่ที่ 482 ล้านบาท ลดลง 5%QoQ

ทิศทางธุรกิจปี 2566 ยังเผชิญความเสี่ยงเรื่องเดิมๆ

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญในปี 2566 ยังคงเป็นเรื่องการจัดหา Feed Stock เพื่อป้อนเข้าสู่โรงกลั่นยางมะตอย ที่ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนว่า TASCO จะกลับไปซื้อ Crude จากเวเนซูเอลา ซึ่งเป็นแหล่งที่ดีที่สุดในการนำมาผลิตยางมะตอยได้เมื่อใด หลังสหรัฐประกาศ Sanction เวเนซูเอลา ทำให้ TASCO ไม่สามารถซื้อ Crude จากเวเนซูเอลา ได้ตั้งแต่เดือน พ.ย 63 ภายใต้สถานการณ์ที่ราคา Crude ปรับตัวสูงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ TASCO ไม่สามารถซื้อ Crude จากแหล่งอื่นๆ มาผลิตเป็นยางมะตอยเพราะไม่คุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจ จึงต้องหันไปนำเข้า Residue ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ได้จากโรงกลั่น เพื่อนำมาผสมกับ Crude เดิมที่มีอยู่วัตถุประสงค์เพื่อยืดระยะเวลาการใช้วัตถุดิบที่มีอย่างจำกัดออกไปให้นานที่สุด โดยปี 2565 TASCO นำเข้า Residue ได้ตามแผน 4 Shipment (Shipment ละ 6-8 แสนบาร์เรล) และตั้งเป้าจะนำเข้า Feedstock จำนวน 4 Shipment ในปี 2566 โดยมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการเจรจากับผู้ผลิต Crude แหล่งใหม่ๆ ที่สามารถนำมาใช้ผลิตยางมะตอยได้โดยตรง เพื่อทดแทน Crude จากเวเนซูเอลา สำหรับวัตถุดิบที่มีอยู่ในปัจจุบันของ TASCO ทั้ง Crude และ Residue เพียงพอสำหรับการกลั่นเป็นยางมะตอยได้ถึงเดือน เม.ย. 66 เท่านั้น ดังนั้นการขายยางมะตอยที่เกิดขึ้นในปีนี้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นการซื้อยางมะตอยจากโรงกลั่นอื่นในภูมิภาคมาขายต่อ ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าวจะมีอัตรากำไรต่ำกว่าการกลั่นยางมะตอยเองถึง 20-25%

ยังให้นํ้าหนักต่อความเสี่ยงเรื่องวัตถุดิบ แนะนํา SWITCH

ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นเล็กน้อยจาก 1,676 ล้านบาท เป็น 1,795 ล้านบาท สะท้อนมุมมองเชิงบวกที่มีมากขึ้นต่องบ 4Q65 แต่ยังคงประมาณการกำไรปี 2566 ไว้เท่าเดิมที่ 1,790 ล้านบาท โดยให้น้ำหนักกับความเสี่ยงทางธุรกิจในอนาคตที่มีมากขึ้น ภายใต้ปัจจัยเสี่ยงด้านวัตถุดิบ ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมถึง PBV 1.74 เท่า (Historical PBV -1S.D.) ให้ราคาเหมาะสมที่ 18.60 บาท มี Upside ไม่มาก แนะนำ Switch ไป VNG (FV@Bt9.20) ที่มีแนวโน้มผลประกอบการสดใสมากกว่าจากการเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลตอบแทนการลงทุน

การดำเนินการด้าน ESG ของ TASCO

กลุ่มทิปโก้แอสฟัลท์ประกอบธุรกิจหลายด้าน ได้แก่ ธุรกิจโรงกลั่น ธุรกิจผลิตยางมะตอย ในประเทศ ธุรกิจผลิตยางมะตอยในต่างประเทศ ธุรกิจผลิตยางมะตอยระหว่างประเทศ ธุรกิจเรือขนส่ง และธุรกิจก่อสร้าง ได้มีการกำหนดเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กร พัฒนาอย่างยั่งยืนไว้ในเป้าหมายกลยุทธ์ขององค์กร โดยกำหนดโครงสร้างการกำกับ ดูแลตั้งแต่ระดับคณะกรรมการบริษัทไปจนถึงพนักงานทุกคน และได้ระบุบทบาทความรับผิดชอบ ความถี่ เพื่อให้สามารถตรวจสอบผลการปฏิบัติงานด้านความยั่งยืนได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพในการติดตามการดำเนินงาน โดยมีการกำหนดประเด็นความยั่งยืนที่สำคัญจากปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในและภายนอก ผ่านการสอบถามความคิดเห็นจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียภายใน/ภายนอกองค์กร และจัดลำดับความสำคัญเพื่อนำมาใช้ในลำดับการวางแผนละดำเนินการตั้งรับ รวมถึงบริหารจัดการประเด็นสำคัญอย่างมีประสิทธิภาพและทันเวลา ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม รวมถึงด้านธรรมาภิบาลและการพัฒนาบุคลากร โดยมีหัวข้อหลัก 9 ประเด็น และหัวข้อรอง 12 ประเด็น พร้อมตัวอย่างแผนปฏิบัติการดังนี้

มิติด้านเศรษฐกิจ : ใช้หลักความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ( Innovation Leader) เพื่อความเป็นเลิศด้านผิวถนนซึ่งเป็น Core Business ของบริษัท โดยการสร้างและส่งเสริมวัฒนธรรมนวัตกรรมภายในองค์กร และการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า จะนำมาซึ่งผลประกอบการที่ดีขึ้นของบริษัท อาทิ การจัดประกวดโครงการนวัตกรรมภายในบริษัท การกำหนดสัดส่วนตลาดสินค้าใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งจำนวนรายการและยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปี

มิติด้านสิ่งแวดล้อม : ใช้หลักการบริหารแบบประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco- Efficiency) ครอบคลุมด้านการบริหารจัดการมลพิษและการหกรั่วไหล การบริหารจัดการของเสีย และการบริหารจัดการพลังงาน โดยมีการกำหนดเป้าหมายระยะสั้น และระยะยาวเพื่อวัดผลอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์ ออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ฝุ่นระลอง รวมระดับเสียง ปริมาณน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัด และนํากลับมาใช้ใหม่

มิติด้านความปลอดภัย : ยึดหลักการตระหนักด้านความปลอดภัย ครอบคลุมสุขภาพ และความปลอดภัยของพนักงาน สุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า และความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าทางถนน ด้วยการเสริมสร้างจิตสำนึกและปลูกฝังวัฒนธรรม ด้านความปลอดภัยผ่านการฝึกอบรมพนักงาน จัดสภาวะแวดล้อมในการทำงานที่ ปลอดภัย จัดหาอุปกรณ์ป้องกันด้านสุขอนามัย และมีการระบุจุดเสี่ยงและจุดบังคับจอดในเส้นทางขนส่งสินค้าที่มีความสำคัญให้พนักงานส่งสินค้าสามารถวางแผนการเดินทาง การหยุดพัก และการเตรียมความพร้อมของรถและพนักงานขับรถ เป็นต้น

ประเด็นความเสี่ยง

1. ราคาน้ำมันดิบและราคายางมะตอยที่ผันผวน จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออัตรากำไรของ TASCO แม้จะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากราคายางมะตอยไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบ สัญญาป้องกันความเสี่ยงจึงไม่สามารถปกป้องความเสี่ยงได้ทั้งหมด

2. ความสามารถในการจัดหาน้ำมันดิบเพื่อป้อนให้โรงกลั่นยางมะตอยอย่างสม่ำเสมอ ในราคาที่ยังสามารถทำกำไรจากธุรกิจยางมะตอยได้ หลังสหรัฐสั่ง Sanction ห้ามซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลาตั้งแต่ พ.ย 63

ท่ีมา: สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส

- Advertisement -