ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ปรับฐานบ้าง แต่ภาพรวมหุ้นไทยยังดูแข็งอยู่

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ แกว่งตัวลง… หลังจากเมื่อวานนี้หุ้นไทยเทรดไซด์เวย์ทั้งวัน (ตามคาด)… และเรามองว่ามีโอกาสสูงที่ตลาดจะปรับฐานในวันนี้ เนื่องจาก i) ผลประกอบการไตรมาส 4/2565 ของหุ้นธนาคารฯ ออกมาไม่ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัว KBANK* ซึ่งรายงานงบฯ ต่ำกว่า Consensus คาดการณ์ถึง 70% น่าจะทำให้จิตวิทยาโดยรวมของกลุ่มธนาคารฯ เป็นลบในช่วงสั้น (ดูเพิ่มในบทวิเคราะห์วันนี้) ii) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงต่อเมื่อคืนนี้ เพราะตลาดกลับมากังวลต่อแนวนโยบายการเงินของ ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากตัวเลขยอดขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงสู่ 1.90 แสนคน (ตลาดคาด 2.14 แสนคน) และผู้ว่าการเฟดหลายคนยังออกมาเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่เฟดจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยไปอีกระยะหนึ่ง… อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อฟันด์โฟลว์ตลาดหุ้นไทย ตามภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ผนวกกับประเด็นปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ น่าจะส่งผลให้สกุลเงินดอลล่าร์ฯ อ่อนค่าต่อไป เราจึงคงมุมมองว่า SET Index มีทิศทางหลักเป็นแกว่งขึ้น ทางลงมีจำกัด…. สำหรับในสัปดาห์หน้า (23-27 ม.ค.) ปัจจัยเศรษฐกิจไทยจะมีน้ำหนักกับตลาดหุ้นมากขึ้น ควรติดตาม i) ผลการประชุม กนง. ในวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ คาดว่า กนง. จะ ปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ 1.50% และ ii) ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ เดือน ธ.ค. 2565 ของกรมศุลกากร (ยังไม่มีกำหนดการรายงานที่ชัดเจน)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร GLOBAL*, BBGI, SHR

  • GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 24.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.6 บาท / แนวต้าน 21.1 – 21.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนวต้าน 22.3 บาท (Stop loss 20.2 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นพักฐานจากการขายทำกำไร ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯคาดอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same store sales growth: SSSG) จะฟื้นตัวเป็นบวกต่อเนื่องใน 4Q65 และเราคาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 1H66 ได้แรงหนุนจาก i) อุตสาหกรรมอสังหาฯ ที่ฟื้นตัว ii) การ Renovate ของผู้ประกอบการฯ เพื่อรองรับการท่องเที่ยว iii) สาขาในต่างประเทศรับอานิสงค์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน 3) Forward PE 26 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ราว 28 เท่า
  • BBGI (เป้าพื้นฐาน 8.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.8 บาท / แนวต้าน 7.15 – 7.35 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 7.8 บาท (Stop loss 6.65 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุด โดยคาดจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q65 (คาดกำไรโต YoY, Turnaround QoQ) และปี 2566 คาดกำไรฟื้นตัว >700% YoY เป็น 583 ล้านบาท ผลจากการเปิดประเทศหนุนปริมาณการใช้น้ำมันไบโอดีเซลและเอทานอล 3) Forward PE ปีนี้ คาดลดลงเหลือ 17.5 เท่า ขณะที่ PBV 0.95 เท่า ยังต่ำกว่า 1 เท่า
  • SHR (เป้าพื้นฐาน 6.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.32 บาท / แนวต้าน 4.5 – 4.6 บาท (Stop loss 4.26 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ คาดผลการดำเนินงานจะทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามอัตราการเข้าพักโรงแรมที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดกำไรปกติ 4Q65 = 120 ล้านบาท (+285% YoY) และคาดปี 2566 จะพลิกกลับมามีกำไรครั้งแรกได้ราว 450 ล้านบาท… วันนี้ฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการปี 2566 ขึ้นจากเดิม คาดไว้ที่ 270 ล้านบาท 3) PBV ต่ำเพียง 0.92 เท่า ขณะที่คาดปีนี้ Turnaround

หุ้นมีข่าว

(+) ศักดิ์สยาม” เร่ง 5 แสนล. รับเหมาโกยแบ็กล็อก (ทันหุ้น) รัฐมนตรีคมนาคมทิ้งทวน 3 เดือนสุดท้าย จัดหนักเร่งโปรเจ็กต์รับเหมา 5 แสนล้านบาท ประเดิมส่งรถไฟสีแดงรังสิต-ธรรมศาสตร์ เข้า ครม. ต้นกุมภาพันธ์ ด้านนักวิเคราะห์ชี้รับเหมารับหลายเด้งทั้งแบ็กล็อกที่จะฟู ต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์ลด แรงงานกลับมา ชู SEAFCO-PYLON-CK*-STEC*

(0) ไทยคมลุ้นคำสั่งศาล! ไม่รับคุ้มครองหุ้นวิ่ง (ข่าวหุ้น) “ไทยคม” ลุ้นศาลปกครองวันนี้! หลัง “ศรีสุวรรณ” ฟ้องยกเลิกผลประมูลวงโคจรดาวเทียม “บล.กสิกรไทย” ประเมินหากศาลฯ ไม่คุ้มครองชั่วคราว หุ้น THCOM มีโอกาสเด้งแรง แต่หากคุ้มครอง เชื่อบริษัทมีแผนสำรองหันไปใช้วงโคจรต่างประเทศแทน ด้านบอร์ดกสทช.ประกาศรับรองผลประมูล 3 วงโคจรแล้ว

(+) TIDLOR* รุกธุรกิจเช่าซื้อ ถือหุ้น “สมใจ” สัดส่วน 10% (ข่าวหุ้น) บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR*) รุกขยายฐานเช่าซื้อจักรยานยนต์ เข้าลงทุนใน “สมใจ” ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ สัดส่วนถือหุ้นไม่เกิน 10% ต่อยอดการเติบโตของสินเชื่อ ฟากโบรกฯ มอง TIDLOR* ผลงานยังขยายตัวดี แนะนำซื้อ เป้าสูง 38 บาท

(+) MINT* เกมรุก 1.5 หมื่นล. บุกรร.-อาหาร-ไลฟ์สไตล์ (ทันหุ้น) MINT* ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2566 เติบโต 20% มั่นใจอีบิทดาและกำไรสุทธิเติบโตมากกว่ารายได้ หนุนจากการปรับขึ้นค่าห้องพัก ด้านธุรกิจอาหารเน้นปรับเมนูกระตุ้นการซื้อซ้ำ ด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์โตดี พร้อมตั้งงบลงทุนระยะ 3 ปีราว 1-1.5 หมื่นล้านบาท ลงทุนโรงแรม ทั้งการขยายและปรับปรุง ขยายสาขาร้านอาหาร รวมถึงการเข้าควบรวมกิจการในอนาคต แถมเล็งออกหุ้นกู้วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 6.1% ต่อปี

(+ ZEN) โออาร์เล็งซื้อหุ้น ZEN 25% แตกไลน์ 11 แบรนด์อาหาร ผู้บริหารรับคุยจริง ส่งซิกจ่อคิวรออีก 3 ราย (ข่าวหุ้นธุรกิจ) Comments: เรามีมุมมองเชิงบวกสำหรับ ZEN ต่อดีลซื้อหุ้น ZEN ของ OR ที่ 25% หรือจำนวน 75 ล้านหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม ได้แก่ บริษัท เอจีบี ซิบลิ้งส์ โฮลดิ้ง จำกัด (ตามเนื้อหาข่าว) โดยเรามองว่า OR มีศักยภาพและประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจอาหาร เช่น Ohkajhu และ Kouen Shushi รวมทั้งเพิ่มโอกาสและประโยชน์ในการขยายสาขาร้านอาหารในกลุ่มของ ZEN ไปยังพื้นที่ของ OR เช่น ร้านเขียง ทั้งนี้เราขอรอดูแผนการดำเนินงานโดยละเอียด มองเป็น Upside risk ต่อผลการดำเนินงานของ ZEN เรายังคงคำแนะนำถือสำหรับ ZEN ที่ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงปี 2566 ที่ 18.00 บาท ในส่วน ของ OR การเข้าซื้อกิจการครั้งล่าสุดจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของ OR โดยเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ และสร้างโอกาสสำหรับการเติบโตในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้เรายังคงคําแนะนํา “ซื้อ” OR ที่ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงปี 2566 ที่ 33.50 บาท

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • แนะนำ “Let profit run” โดยกําหนด Trailing stop: TISCO* (Trailing stop 101.5 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 32 บาท / แนวต้าน 33-34 บาท (Trailing stop 31.5 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 186 บาท) แนวรับ 154 บาท / แนวต้าน 157-159 (Trailing stop 154 บาท)
  • LEO (เป้า Consensus 14.1 บาท) แนวรับ 12.6 บาท / แนวต้าน 13.1-13.5 บาท (Stop loss 12.4 บาท)
  • ASK (เป้าพื้นฐาน 57 บาท) แนวรับ 34 บาท / แนวต้าน 35.0-36.5 บาท (Stop loss 34 บาท)
  • ADVANC (เป้า IAA Consensus 235 บาท) แนวรับ 200 บาท / แนวต้าน 204-207 บาท (Stop loss 199 บาท)
  • AMA (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) แนวรับ 5.65 บาท / แนวต้าน 5.85-6.2 บาท (Stop loss 5.6 บาท)
  • BDMS* (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 30 บาท / แนวต้าน 31.0-32.0 บาท (Stop loss 29.5 บาท)
  • OR* (เป้าพื้นฐาน 33.5 บาท) แนวรับ 23.6 บาท / แนวต้าน 24.0-24.2 บาท (Stop loss 23.5 บาท)
  • BJC* (เป้า Consensus 38.7 บาท) แนวรับ 36.0 บาท / แนวต้าน 37.5-40.0 บาท (Stop loss 35.5 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่มโรงแรม น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯปรับสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ขึ้นเป็น 28 ล้านคน (เดิมคาด 25 ล้านคน) และปรับประมาณการฯ ปี 2565 – 66 ขึ้น สะท้อนการปรับสมมติฐานใหม่ ทั้งนี้คาดแนวโน้มกำไร 4Q65 ในภาพรวมจะฟื้นตัวเด่นสุดตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยคาดกำไรของ CENTEL*, ERW*, SPA จะเด่นตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย ขณะที่ MINT*, SHR* คาดกำไรชะลอลง QoQ เพราะโรงแรมที่ยุโรปเข้า Low season หุ้นเด่นเลือก ERW*, SHR* … แนะนำอ่านรายละเอียดการ ปรับประมาณการฯ และราคาเป้าหมายของหุ้นแต่ละตัวในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้เพิ่มเติม

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -