บล.บัวหลวง: 

Thai Union Group (TU TB/TU.BK)

TU – กำไรไตรมาส 4/65 ที่คาดว่าลดลงเป็นปัจจัยลบระยะสั้น

ถึงแม้ว่ากําไรไตรมาส 4/65 จะมีแนวโน้มลดลงและนำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไรสำหรับปี 2565 และปี 2566 และราคาเป้าหมายของ TU ลงจากเดิมเล็กน้อย แต่เรายังคงคําแนะนํา “ซื้อเก็งกำไร” โดยอัพไซด์จากประมาณการกำไรในปี 2566 จะมาจากขาดทุนของเรด ล็อบสเตอร์ (RL) ที่มีแนวโน้มลดลงมากกว่าที่คาด และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลงจากค่าขนส่งที่ปรับลดลง

คาดยอดขายเติบโตเล็กน้อย YoY ในไตรมาส 4/65

เราคาดยอดขายที่ 4 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/2565 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4% YOY (ได้รับปัจจัยบวกจากเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง และราคาขายที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง) แต่ลดลง 2% QoQ (เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น และฐานยอดขายที่สูงมากในไตรมาส 3/65 ของทั้งธุรกิจอาหารทะเล แปรรูป และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและสินค้ามูลค่าเพิ่ม) การเติบโตของยอดขายในไตรมาส 4/65 คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง YoY (เทียบกับอัตราการเติบโต 15% YoY ในไตรมาส 3/65) และถึงแม้ว่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว (จาก 38.33 บาท/ดอลลาร์ ในวันที่ 14 ต.ค. ไปเป็น 33.1 บาท/ดอลลาร์ ในวันที่ 19 ม.ค.) แต่ค่าเงินบาท/ ดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ยอยู่ที่ 36.33 บาท/ดอลลาร์ ในไตรมาส 4/65 หรือคิดเป็นอ่อนค่าลง 9% YoY แต่แข็งค่าขึ้นเพียงแค่ 0.2% QoQ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 34.61 บาท/ดอลลาร์ (เทียบกับ 37.85 บาท/ดอลลาร์ ณ สิ้นไตรมาส 3/65)

ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปหนุนยอดขายไตรมาส 4/65

เราคาดยอดขายธุรกิจอาหารแปรรูปในไตรมาส 4/65 ยังคงเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 7% YoY (โดยมาจากปัจจัยหนุนหลักได้แก่ ราคาขายที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นแม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม) แต่ลดลง 5% QoQ (เนื่องจากไตรมาสสามเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป และฐานที่สูงมากในไตรมาส 3/65) เราคาดยอดขายอาหารทะเลแช่แข็งในไตรมาส 4/65 มีแนวโน้มลดลง 5% YoY (เนื่องจากราคาตลาดสําหรับผลิตภัณฑ์ล็อบสเตอร์และปูในประเทศสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงสู่ระดับปกติ) แต่เพิ่มขึ้น 7% QoQ (เนื่องจากไตรมาสสี่เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง) ยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงและสินค้ามูลค่าเพิ่มคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% YoY (จากคําสั่งชื้อที่มั่นคงในระยะยาว) แต่ลดลง 10% QoQ (เนื่องจากค่าขนส่งที่ปรับลดลง ส่งผลให้ราคาขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงปรับลดลง)

คาดอัตรากําไรขั้นต้นในไตรมาส 4/65 ลดลงทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดอัตรากําไรขั้นต้นที่ 17.3% ในไตรมาส 4/65 ลดลงจากฐานที่สูงมากที่ 18.6% ในไตรมาส 4/64 และ 18.2% ในไตรมาส 3/65 โดยอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยจาก 22.7% ในไตรมาส 4/64 เหลือ 22.5% ในไตรมาส 4/65 ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งมีแนวโน้มลดลงจาก 11.7% ในไตรมาส 4/64 เหลือ 6.8% ในไตรมาส 4/65 และอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและสินค้ามูลค่าเพิ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY จาก 24.4% ในไตรมาส 4/64 ไปอยู่ที่ 27% ในไตรมาส 4/65 (แต่ลดลง QoQ จากฐานที่สูงมากที่ 28.7% ในไตรมาส 3/65) สำหรับธุรกิจ เรด ล็อบสเตอร์ (RL) เราคาดส่วนแบ่งขาดทุนจาก RL ที่ 330 ล้านบาท (ไม่รวมการปรับมาตรฐานทางบัญชีสำหรับสัญญาเช่า) ในไตรมาส 4/65 หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 124% YoY (เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น) และทรงตัว QoQ (ช่วงโลว์ซีซั่นถูกกลบด้วยผลกระทบทางบวกเต็มไตรมาสจากการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นอีก 9% ในเดือน ส.ค.) ส่วนแบ่งขาดทุนของธุรกิจเรด ล็อบสเตอร์ในไตรมาส 4/65 มีแนวโน้มสูงกว่าประมาณการส่วนแบ่งขาดทุน RL ก่อนหน้าของเราที่ 300 ล้านบาท

ส่องกล้องไตรมาส 4/65-กำไรหลักลดลงทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 1.23 พันล้านบาท ลดลง 36% YoY และ 51% QoQ หากไม่รวมรายงาน ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปรับมูลค่ายุติธรรมของหุ้นบุริมสิทธิของ RL กำไรหลักในไตรมาสนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.73 พันล้านบาท ลดลง 8% YoY และ 15% QoQ ซึ่งต่ำกว่าประมาณการกำไรหลักก่อนหน้าที่เราคาดไว้ที่ 1.93 พันล้านบาท กำไรหลักที่ลดลง YoY เป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป และธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งที่ลดลง ภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นและส่วนแบ่งขาดทุนจากเรด ล็อบสเตอร์ที่เพิ่มขึ้น กลบค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง (จากต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลง) และยอดขายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย  และเนื่องจากกำไรไตรมาส 4/65 ที่มีแนวโน้มออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ และการปรับยอดขายสำหรับปี 2566 ลงจากเดิม เราจึงทำการปรับลดประมาณการกำไรหลักสำหรับปี 2565 ลงอีก 3% (เหลือ 7.23 พันล้านบาท) และสำหรับปี 2566 ลงอีก 3% (เหลือ 7.41 พันล้านบาท) ราคาเป้าหมายซึ่งประเมินด้วยวิธี sum-of-the-parts ปรับลดลงอีก 6% (เหลือ 22.50 บาท)

- Advertisement -