บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +13.3%
Close Jan 19, 2023 Price 154.50
12M Target 175.00
BANGKOK BANK (BBL) แม้กำไรต่ำคาด แต่มีพัฒนาการน่าสนใจหลายอย่าง
Earnings Results
- BBL รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 จำนวน 7,569 ลบ. โต 19.8%YoY หลังการตั้งสำรองลดต่ำลง และ NIM ปรับตัวดีขึ้น แต่ลดลง 1.1%QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 8.1% และ 9.9% ตามลำดับ
- แรงกดดันหลักๆ มาจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ลดลง 37.0%QoQ หลังมีบันทึกผลขาดทุนจากการตีมูลค่าเงินลงทุนผ่านงบกำไรขาดทุนจำนวน 1,955 ลบ. พลิกจากที่บันทึกกำไร 2,329 ลบ. ใน 3Q65 รวมทั้งรายได้เงินปันผลที่ลดลง 39.3%QoQ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 12.1%QoQ จากค่าใช้จ่ายโบนัสพนักงาน และค่าใช้จ่ายพัฒนาระบบ IT อย่างไรก็ดี ปัจจัยลบดังกล่าวบางส่วนถูกชดเชยด้วยรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่เร่งตัวขึ้น 14.9%QoQ แม้สินเชื่อรวมจะปรับตัวลง 4.9%QoQ หลังมีลูกหนี้บริษัทรายใหญ่จ่ายชำระคืนหนี้ในช่วงปลายปี แต่ NIM ขยับขึ้น 30 bps แตะระดับ 2.8% เทียบกับ 2.5% ใน 3Q65 หลัง Asset Yield ปรับขึ้นได้เร็วกว่าต้นทุนดอกเบี้ย สอดคล้องกับการขึ้นดอกเบี้ย M-Rate
- การตั้งสำรองลดลง 20.0%QoQ หลังภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศปรับตัวดีขึ้น และคุณภาพของลูกหนี้แข็งแรงขึ้น สะท้อนจากตัวเลข NPL ที่ลดลงเหลือ 3.6% จาก 3.8% ใน 3Q65 โดยลูกหนี้ในกลุ่ม SME เริ่มมีความสามารถในการชำระหนี้สูงขึ้น ส่วน Coverage Ratio สูงขึ้นเป็น 260.8% จาก 240.1% ใน 3Q65
Our Take
- เรามีมุมมองบวกต่อผลดำเนินงานใน 4Q65 แม้จะออกมาต่ำคาด จากการบันทึกผลขาดทุนของเงินลงทุน แต่คาดจะเริ่มมีทิศทางดีขึ้นตั้งแต่ 1Q66 อีกทั้งเริ่มเห็นพัฒนาการเชิงบวกในหลายส่วน โดยเฉพาะ NIM ที่เร่งตัวขึ้น, การตั้งสำรองที่ผ่อนคลายลง และหนี้เสียที่ปรับตัวลง คาดช่วยให้ผลดำเนินงานของ BBL ในปี 2566 มีโอกาสที่จะสูงกว่าประมาณการเดิมของเราที่ 33,850 ลบ. ทำให้เราอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเพิ่มประมาณการ หลังการประชุมนักวิเคราะห์ที่คาดจะมีการเปิดเผยรายละเอียดของเป้าหมายทางการเงินของบริษัท
- ทั้งนี้ในเบื้องต้นเราคาดผลดำเนินงานของ BBL ในปี 2566 จะได้แรงหนุนจากภาพรวมของเศรษฐกิจที่มีพัฒนาการขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุนให้ภาคเอกชนกลับมาเร่งโครงการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ ซึ่ง BBL เป็นธนาคารที่โดดเด่นในการให้บริการลูกค้ากลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ นอกจากนี้ คาดการตั้งสำรองจะมีแนวโน้มที่ผ่อนคลายลงจากปี 2565 เนื่องจากลูกหนี้ในพอร์ตเริ่มมีความสามารถในการชำระหนี้สูงขึ้น และบริษัทมี Coverage Ratio สูงกว่าอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังคาดเห็นพัฒนาการใหม่ๆ ของ Permata ที่มีแผนรุกขยายธุรกิจรายย่อยและ SME มากขึ้นในปีนี้
- เราชอบ BBL จากทั้งผลดำเนินงานในปี 2566 ที่คาดปรับขึ้นต่อ รวมทั้งพอร์ตสินเชื่อที่แข็งแรงกว่าธนาคารใหญ่รายอื่น ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PBV ต่ำเพียง 0.6x และมี Upside 13.3% จากมูลค่าพื้นฐานเดิมปี 2566 ที่ 175 บาท อีกทั้งคาดให้เงินปันผลจากกำไร 2H65 อีกราวหุ้นละ 3 บาท คิดเป็น Div. Yield 1.9% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”