จับตาการประชุม กนง. – PCE สหรัฐฯ

ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,677.25 จุด ลดลง 11.23 จุด (-0.67%) มูลค่าการซื้อขาย 76,365.61 ล้านบาท จากผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะ 3 แบงก์ใหญ่อย่าง BBL KBANK SCB กำไรออกมาต่ำกว่าคาดมาก ทําให้ Sentiment ภาพรวมดูไม่ค่อยดี และยังส่งผลกระทบทางจิตวิทยามายังกลุ่มไฟแนนซ์ด้วย

แนวโน้มตลาดวันนี้… ขานรับปัจจัยบวกจากภาครัฐจีนอนุญาตกรุ๊ปทัวร์ออกเที่ยว 20 ประเทศ รวมถึงไทย ตั้งแต่ 6 ก.พ. และข้อมูลจาก Trip.com (Ctrip) รายงานภาพรวมยอดการจองการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน ขยายตัวแรงถึง 1,026%YoY โดยมีไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับที่ 1 ส่งผลดีต่อธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยว (โรงแรม สายการบิน บริษัททัวร์รถเช่า สปา และเวลเนส การแพทย์ รวมถึงเอื้อให้การโอนคอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติขยายตัวมากขึ้น) และเศรษฐกิจไทยปี 66 มีแนวโน้มขยายตัวราว 3.5-3.8% โดดเด่นเมื่อเทียบกับทั้งตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ ทั้งนี้ยังต้องติดตามการประชุม กนง. ที่เราคาดว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1.50% จากแรงหนุนนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาขยายตัว แต่ ทั้งนี้ต้องติดตามมุมมองของ กนง. ต่อแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินในอนาคตอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเราคาดว่าจะเข้าใกล้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่มีโอกาสชะลอการเร่งตัวขึ้น จากภาพการส่งออกที่คาดว่าจะชะลอตัวลงแรงใน เดือนธ.ค. ส่วนปัจจัยต่างประเทศตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการ (จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และเกาหลีใต้) อาจเห็นวอลุ่มซื้อขาย นลท. ต่างชาติเบาบาง และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ ที่อาจจะให้ สัญญาณของการชะลอตัว และอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ

สัปดาห์นี้ติดตาม 1) การประชุม กนง. 25 ม.ค. 2) GDP 4Q65 ของสหรัฐ คาดขยายตัว 2.8%YoY ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนที่ +3.2%YoY 26 ม.ค. 3) Core PCE ธ.ค. สหรัฐฯ ตลาดคาดเพิ่มขึ้นเป็น 0.3%MoM 27 ม.ค.

กลยุทธ์การลงทุน… ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway แนะนำ Trading ในกรอบ 1672-1694 โดย Selective buy

    • กลุ่ม China reopening AOT AAV AMATA BAFS CPALL SNNP SPA EKH ANAN SISB
    • กลุ่มพลังงาน PTTEP BCP SPRC IRPC BANPU
    • Sector rotation ประเมิน Fund flow จากแรงขายในกลุ่มธนาคาร-การเงินในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าจะไหลเข้ากลุ่มค้าปลีก จากภาพเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโต เราชอบ CPALL CRC HMPRO หากรับความเสี่ยงได้สูงอาจสะสมกลุ่มธนาคาร-การเงินด้วยกลยุทธ์ซื้อเมื่ออ่อนตัว

เคาะไป คุยไป BANPU

  • แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายสิ้นปี 66 เท่ากับ 18.30 บาท อิง forward PBV 0.85 เท่า เรามีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในอนาคต เนื่องจากเรามองว่า BANPU มีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจโรงไฟฟ้า โดยปัจจุบันบริษัทมีเงินสดกว่า 7 หมื่นล้านบาท ที่รองรับแผนการขยายธุรกิจ ซึ่งจะหนุนให้กำไรของบริษัทจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในระยะยาว เพราะสัดส่วนรายได้และกำไรธุรกิจถ่านหินจะลดลง และแทนที่โดยรายได้และกำไรจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจโรงไฟฟ้า ที่คาดว่าต่อไปจะกลายเป็นธุรกิจหลักของ BANPU โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ธุรกิจก๊าซธรรมชาติปี 2565 อยู่ที่ 24% เทียบกับปี 2561 อยู่ที่ 4% เรามองว่าค่าเฉลี่ยราคาขายถ่านหินยังคงอยู่ในระดับสูง และจะทำให้ธุรกิจถ่านหินยังมีก่าไรต่อได้
  • ปรับเพิ่มประมาณการกำไรตลอดช่วงปี 2565-2567 มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1) ปรับเพิ่มราคาขายและปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติ อิงค่าเฉลี่ยปริมาณขายสามปีที่ 311 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อปี และค่าเฉลี่ยราคาขายที่ US$5.0/Mcf (เดิม 277 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อปี และ US$3.8/Mcf) 2) ปรับเพิ่มการรับรู้รายได้ของโครงการ Temple หลังจากที่ปริมาณการขายไฟและราคาขายยังคงพุ่งสูงต่อเนื่อง

Global Markets

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรหลังร่วงลง 3 วันติดต่อกัน และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นมากกว่า 2% จากเน็ตฟลิกซ์รายงานงบออกมาดี รวมถึง หุ้นอัลฟาเบทปรับตัวขึ้นหลังกูเกิลประกาศปรับลดพนักงาน

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดประเทศ

(+) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปรับตัวขึ้นจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันดิบจากจีน หลังการยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19

(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้นขานรับการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย

- Advertisement -