Daily Focus: Selective and Earnings Play

2023SET Target: 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวได้ดีพอสมควร ปิดบวก 6.79 จุด ณ สิ้นวัน อย่างไรก็ตาม เป็นผลจาก DELTA ที่บวกราว 3 จุด ขณะที่ธนาคารอย่าง KTB BBL รวมถึง Big Cap อย่าง PTT มีแรงซื้อกลับ สถาบันในประเทศยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 1.1 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 472 ลบ. (และพลิกมา Long Index Futures 1.26 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways Up ในกรอบ 1,670-1,695 จุด โดยได้อานิสงส์จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกจากฝั่งสหรัฐฯ โดยยังคาดหวังเชิงบวกต่อแนวโน้มการชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED เหลือ 0.25% สู่ระดับ 4.50- 4.75% โดยให้ความน่าจะเป็นถึง 98.6% อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายอาจยังไม่หนาแน่นนัก เนื่องจากหลายตลาดยังปิดทำการจากเทศกาลตรุษจีน ปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้คือตัวเลขส่งออกไทยเดือน ธ.ค. ตลาดคาด -11.5% y-y ส่วนพรุ่งนี้เป็นคิวของการประชุมกนง.โดยตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1.50% ด้านผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนฝั่ง Real Sector จะเริ่มทยอยประกาศออกมานำโดยหุ้นขนาดใหญ่ ก่อนจะออกมาหนาแน่นในช่วงกลางเดือน ก.พ. โดยรวมคาดโต q-q หนุนจากกลุ่มพลังงานเป็นหลัก รวมถึงกลุ่ม Domestic/Reopening ที่ฟื้นตัวตามภาพเศรษฐกิจ จึงมองจังหวะพักตัวเป็นโอกาสทยอยสะสม ระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 4Q22 แข็งแรง

กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้น 4Q22 แข็งแกร่ง // ระยะกลาง-ยาวสะสม Domestic และ Reopening Play ช่วงพักตัว

หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : AAV, BCP, CENTEL, M, MAKRO

หุ้นเด่นวันนี้ : ASW

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10 บาท
  • คาดกำไร 4Q22 +94% q-q และ +72% y-y และเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี หนุนจากการเริ่มส่งมอบคอนโดใหม่ 2 โครงการ หลักๆ คือ Kave Ava ที่เป็นโครงการใหญ่ และ Margin สูง
  • โมเมนตัมกาไรปกติปี 2023 จะเร่งตัวขึ้นต่อจากการโอนคอนโดเพิ่มอีก 9 โครงการ บวกกับแผนเปิดตัวใหม่ที่รุกตลาดแนวราบมากขึ้น ราคาหุ้นเทรด PER เพียง 6.3 เท่า และให้ Dividend Yield เกือบ 7% ต่อปี
  • แนวรับ 7.90 บาท แนวต้าน 8.40//8.60 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนเบาบาง เนื่องจากหลายตลาดปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ส่วนประเทศในอาเซียนที่เปิดอย่างไทยและฟิลิปปินส์กระแสเงินทุนไหลเข้าบางๆ ประเทศละ US$8-14 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้คาดยังอยู่ในทิศทางไหลเข้าจาก Sentiment บวกของฝั่งสหรัฐฯ นักลงทุนยังตอบรับความคาดหวังเชิงบวกต่อแนวโน้มการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของ FED

ประเด็นสําคัญวันนี้

(+) SHR คาดกำไร 4Q22 ที่ 148 ลบ. flat q-q แต่พลิกจากขาดทุนใน 4Q21 หนุนจาก High Season ของธุรกิจโรงแรมในไทยและมัลดีฟท์ ส่งผลให้ RevPar คาดปรับตัวขึ้นแรง ขณะที่ฝั่งอังกฤษแม้เป็น Low season แต่คาด RevPar ยังสูงกว่าก่อน COVID-19 ราว 20% เราคาดผลการดำเนินงานปี 2022 ของ SHR จะพลิกมีกำไรได้เล็กน้อย 55 ลบ. และเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยยะเป็น 458 ลบ.ในปี 2023 รวมถึงได้ประโยชน์จากค่าไฟในยุโรปที่ปรับลงแรง รวมถึงจีนเปิดประเทศเป็นบวกต่อธุรกิจโรงแรมในไทยและมัลดีฟท์ต่อเนื่อง ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 5.30 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(-) TU คาดกำไร 4Q22 ไม่สดใส คาด -54% q-q, -40% y-y จาก Low Season บาท แข็งค่าเร็วและคาดมี FX loss ราว -300 ลบ. ขณะที่ Red Lobster จะขาดทุนต่อราว -300 ลบ. ใกล้เคียง 3Q22 แต่ขาดทุนมากขึ้นจาก -147 ลบ.ใน 4Q21 จบปี 2022 คาดกำไรสุทธิ -12% y-y ส่วนกำไรปกติคาด +3% y-y แนวโน้มปี 2023 ยังท้าทายแม้ต้นทุนค่าขนส่งที่ปรับลง และราคาวัตถุดิบผ่านพีคแล้วทั้งทูน่าและแซลมอน แต่มีความเสี่ยงจาก ค่าเงินบาทที่แข็งค่า และความกังวงต่อภาวะ Recession ในยุโรปและสหรัฐ เราคาดกำไรปกติปี 2023 flat y-y ประเมินราคาเป้าหมาย 24 บาท แนะนำ “ซื้อลงทุนระยะยาว” จาก Valuation ที่ไม่สูงและกำไรจะผ่านจุดต่ำสุดใน 4Q22

(-) SCGP จะประกาศกำไร 4Q22 วันนี้ ตลาดคาดที่ 1,175 ลบ. หดตัว−22% q-q, 11% y-y ถูกกระทบจากราคาขายที่ปรับลง ส่วนด้านต้นทุนยังมีสต๊อกกเก่าที่ราคาสูง กดดัน Margin ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 2022 -17% y-y ก่อนฟื้นตัวราว +28% y-y ในปี 2023 จาก Margin ฟื้นตัว ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus อยู่ที่ 60.82 บาท

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 254.07 จุด หรือ +0.76% ปิดที่ 33,629.56 จุด ได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงการคาดการณ์ว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนรอติดตามตัวเลข PMI ของยูโรโซนเดือนม.ค. ที่จะเปิดเผยในวันอังคาร

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ โดยตลาดส่วนใหญ่ยังคงปิดเนื่องในวันตรุษจีน

(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 32.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลงเล็กน้อย 2 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 81.62 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการขายทำกำไรหลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในระหว่างวัน ในขณะที่เช้านี้ย่อตัวลงเล็กน้อยที่ระดับ 81.60 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.02%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,928.60 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการคาดการณ์ว่า FED จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 1,932.5 ดอลลาร์/ ออนซ์ หรือ +0.20%

SPDR Gold Trust ถือครองทองค่า 917.05 / -1.16

- Advertisement -