Our View? “แกว่งตัวต่อไป”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,678 / 1,670 และ แนวต้านที่บริเวณ 1,690 /1,695 เรามองตลาดยังคงขาดปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนการปรับตัวขึ้นได้ดี โดยตลาดในแต่ละประเทศคาดจะให้ความสนใจหลักไปกับการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาดจดทะเบียนนั้นๆ อีกทั้งคาดตลาดจะรอดูการเปิดเผยตัวเลขประมาณการ GDP 4Q’65 เบื้องต้นของสหรัฐในวันที่ 26 ม.ค. นี้ คาดจะออกมาที่ระดับ 2.6% QoQ ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า รวมทั้งตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ธ.ค. ในวันที่ 27 ม.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คาดจะออกมาที่ระดับ 5.00% YoY และ 0.0% MoM สะท้อนทิศทางอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ ชะลอตัวลงต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยเสริมคาดการณ์ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงระดับ 0.25% ในวันที่ 1 ก.พ. นี้ คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ สอดคล้องกับทิศทาง Dollar Index ยังคงอยู่ในภาพการแกว่งตัวออกด้านข้างอิงทางลงต่อเนื่อง โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินยูโร ตามการส่งสัญญาณยังคงสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ และคงไว้สูงเป็นเวลานานเท่าที่ว่าเป็นเพื่อกดดันเงินเฟ้อ กดดันค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่เสริมค่าเงินในภูมิภาคแข็งค่าได้ต่อและเป็นแรงหนุนกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มี.ค. เมื่อคืนนี้ เริ่มวกตัวลงแล้วปิดที่ระดับ 80.13 ดอลลาร์/บาร์เรล –1.49 ดอลลาร์ (−1.83%) โดยได้รับแรงกดดันจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว คาดจะกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่ม พลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดได้บ้างเล็กน้อย
สำหรับปัจจัยในประเทศ เรามีมุมมองเชิงลบอ่อนๆ ต่อการที่เมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการส่งออกเดือน ธ.ค. ของไทย ออกมา -14.6% มากกว่าที่ตลาดคาด จากปัจจัยฐานสูงในปี’64 รวมทั้ง เศรษฐกิจคู่ค้าที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกของไทยยังถือว่ายังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับ ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี คาดอาจกระตุ้นแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มส่งออกได้บ้าง แต่มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ขณะที่วันนี้แนะนำติดตามการประชุม กนง. ของธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) คาดที่ประชุมจะมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% สู่ระดับ 1.50% โดยแนะนำให้ติดตามการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจไทย และทิศทางการปรับใช้นโยบายทางการเงินในการประชุมรอบที่เหลือของปี คาดมี โอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบื้นได้อีกราว 2-3 ครั้ง สะท้อนทิศทางเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ชัดเจนมากขึ้น เป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคารที่คาด NIM จะฟื้นตัวขึ้นได้ดีต่อเนื่อง อีกทั้งเรามองตลาดรับรู้การรายงานผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ออกมาน้อยกว่าคาดไปบ้างแล้วในระดับหนึ่ง มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่ออ่อนตัว (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) จากคาดการณ์ผลกำไร อาจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดทิศทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องในปีนี้จะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคาร ปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง ขณะที่เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากการ กลับมาของนักท่องเที่ยวจีน เป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง คาดยังเป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA, CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI, PLANB, TKN และ SCC
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “ERW”
กลยุทธ์ เก็งกำไร แนวรับ 4.70 / 4.60 Target 5.00 / 5.25 Stop <4.56