บล.ฟิลลิป:

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร – KKP ย้งตั้งเป้าเติบโตสูงในปี 66

Key Point

ถึงแม้ว่าปี 65 KKP จะเป็นธนาคารที่มีสินเชื่อเติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม ปี 66 ทาง KKP ก็ยังตั้งเป้าการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง โดยจะยังเน้นสินเชื่อที่มี หลักประกัน และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่ได้ความสัมพันธ์มาจากธุรกิจตลาด ทุน นอกจากการเติบโตที่ยังคาดว่าจะโดดเด่นต่อ KKP ยังมีจุดเด่นทางด้าน ธุรกิจตลาดทุนด้วย ทั้งธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจจัดการกองทุน และธุรกิจการ ล่งทน ยังคงราคาพื้นฐานไว้ที่ 86 บาท และยังแนะนำ “ซื้อ”

ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 13% ในปี 66

ในปี 65 KKP เป็นธนาคารที่มีสินเชื่อเติบโตโดดเด่นที่สุด โดยโตถึง 21.4% โดยสินเชื่อ Lombard เป็นสินเชื่อที่เติบโตสูงที่สุดถึง 27.9% สินเชื่อรายย่อยเติบโต 23.6% สินเชื่อบรรษัทเติบโต 20% และสินเชื่อธุรกิจเติบโต 12.9% ในขณะที่สินเชื่อสายบริหารหนี้เป็นสินเชื่อประเภทเดียวที่หดตัวลง โดยหดตัวลง 2.9% ส่วนในปี 66 ยังตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตต่ออีก 13% โดยยังคงเน้นสินเชื่อที่มีหลักประกัน โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนที่ผลตอบแทนดี และมีความเสี่ยงต่ำกว่า โดยจะปล่อยจากฐานลูกค้าที่เคยเป็นลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อที่ KKP เคยปล่อยก่อน เนื่องจากมีข้อมูลประวัติการชำระหนี้ นอกจากนี้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยังน่าจะโตต่อได้ โดยจะอาศัยความสัมพันธ์จากธุรกิจตลาดทุน

ปรับอัตราดอกเบี้ยไปบ้างแล้ว แต่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในปีนี้น่าจะลดลง

KKP ได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อไปแล้ว เพื่อรองรับต้นทุนดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตั้งแต่ 3Q65 และมีการปรับอีกครั้งในเดือน ม.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม ด้วยการจำกัดเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อของ สบค. รวมไปถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อ จะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลดลง โดยทาง KKP ตั้งเป้าไว้ที่ 5% จากปีก่อนอยู่ที่ 5.4%

NPL ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และอาจมีการตั้งสำรองสูงขึ้นในปีนี้

ใน 4Q65 NPL ของ KKP เพิ่มสูงขึ้นเป็น 3.3% จาก 3% ใน 3Q65 โดยเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลัก และทำให้ KKP มีการตั้งสำรองจำนวนมาก รวมไปถึงการตั้ง Management overlay เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคตอีก โดยทาง KKP มองว่าในช่วงต้นปี 66 NPL อาจจะยังเพิ่มขึ้นต่อ แต่การเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อใหม่ รวมไปถึงการติดตาม NPL ที่เข้มงวดจะส่งผลให้ NPL ลดลงได้ในครึ่งหลังของปี 66 โดยตั้งเป้าจะลด NPL ลงเหลือ 3.1%

คงประมาณการกำไร ปันผลยังโดดเด่น

ทางฝ่ายคาดว่าปี 66 KKP จะมีกำไร 8.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น 15.7% y-y โดยสินเชื่อที่ยังเติบโต และการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้น่าจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นต่อ คาดปี 66 จะมีการจ่ายปันผล 6.20 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 8.8% ส่วนปี 65 คาดว่าจ่าย 5.30 บาท/หุ้น โดยมีการจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 1.75 บาท/หุ้น

ความเสี่ยง

1. ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย

2. ความเสี่ยงด้านเครดิต

3 การเปลี่ยนแปลงของกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน

- Advertisement -