บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Upgrade)
TP upside (downside) +17.8%
Close Jan 24, 2023 Price 53.50
12M Target 63.00
SCG PACKAGING (SCGP) ผ่านจุดต่ำสุด…เข้าสู่รอบการฟื้นตัว
Earnings Results
- SCGP รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 450 ล้านบาท (-76% QoQ, -79% YoY) แต่หากหักรายการพิเศษออก กำไรปกติ 4Q65 อยู่ที่ 628 ล้านบาทลดลง -59% QoQ และ -54% YoY ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด โดยมีสาเหตุหลักมาจากปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้กำไรปกติและกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 5,768 ล้านบาท (-23% YoY) และ 5,801 ล้านบาท (-30% YoY) ตามลำดับ
- กำไรปกติ 4Q65 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ YoY และ QoQ เพราะถูกกดดันจาก 1) ปริมาณขายที่ลดลงของธุรกิจ Packaging Paper และ Fibrous Chain ที่ลดลง YoY และ QoQ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในจีนเร่งตัวขึ้น และทำให้มีการประกาศใช้มาตรการ Lockdown ในหลายพื้นที่ส่งผลให้ระดับการบริโภคในจีนลดลง (กดดันอุปสงค์สำหรับบรรจุภัณฑ์ทุกประเภท) 2) อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงมาอยู่ในระดับ 14.6% (-240bps QoQ, -10bps YoY) เป็นผลจากราคาขาย Packaging Paper ปรับตัวลดลงเร็วกว่าต้นทุน (ผลจากกการ Lockdown ในจีน)
- SCGP ประกาศเงินปันผลงวด 2H65 จำนวน 0.35 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 0.7% ขึ้น XD วันที่ 4 เม.ย. 2566
Our Take
- เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 1Q66 มีแนวโน้มลดลง YoY จากฐานที่สูงในปีก่อน เพราะอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ 4Q65 (ต่ำกว่าระดับ 17.2% ใน 1Q65) อย่างไรก็ตาม คาดเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว QoQ จากปริมาณขายที่เริ่มฟื้นตัวหลังจีนผ่อนคลายนโยบาย Zero-COVID และมีการเปิดประเทศ (หนุนปริมาณความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคเอเชีย)
- คงประมาณการปี 2566 ที่ 8,326 ล้านบาท เติบโตเด่น +44% YoY ได้แรงหนุนจากระดับการบริโภคที่ฟื้นตัวหลังจีนเปิดประเทศ และต้นทุนพลังงานที่มีแนวโน้มปรับตัวลง YoY โดยคาดการฟื้นตัวของกำไรของ SCGP จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากภาคการผลิตของจีนจะต้องใช้เวลาในการ Ramp-up กำลังผลิตราว 1-2 ไตรมาส (คาดเริ่มเห็นปริมาณขายฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2H66)
- บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2556 ที่ 1.60 แสนล้านบาท (จาก 1.46 แสนล้านในปี 2565) โดยการเติบโตจะมาจากการขยายธุรกิจในอินโดนีเซียและเวียดนาม รวมถึงการทำ M&P และการขยายกลุ่มลูกค้าไปยังประเทศ (กลุ่มประเทศเอเชียใต้) และกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ๆ (เช่น อุตสาหกรรมยา) เป็นหลัก ทั้งนี้ SCGP มีแผน CAPEX ปี 2566 ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท
- คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 63.00 บาท/หุ้น โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงราว -7% YTD ส่งผลให้หุ้นกลับมามี Upside อีกครั้ง ในระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสถูกกดดันจากงบ 4Q65 อ่อนแอ แต่เรามองว่าที่ราคาปัจจุบันหุ้นเริ่มมี Downside จำกัด เนื่องจาก 1) ผลประกอบการที่ผ่านจุดต่ำสุดของรอบ (จีนกลับมาเปิดประเทศที่ให้ปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มฟื้นตัว) 2) ต้นทุนพลังงานที่ผ่านจุดสูงสุด และ 3) เศรษฐกิจจีนมี โอกาสฟื้นตัวเร็วกว่าที่เราและตลาดคาด หลังยอดเงินฝากสะสมในธนาคารของครัวเรือนจีน ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ราว 17.8 ล้านหยวน (ราว 2.6 ล้านล้านดอลลาร์) จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”