บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Initiate)
TP upside (downside) +44.0%
IPO Price (THB) 46.00
12M Target (THB) 66.25
What’s new?
- เป็นผู้ให้บริการด้านความงามครบวงจร มีรายได้หลัก 79 มาจากศัลยกรรม มีแพทย์จํานวน 41 คน ให้บริการศัลยกรรมได้ทุกส่วนของร่างกาย พร้อมกับให้บริการด้านผิวพรรณและปัญหาเส้นผมและศีรษะแบบครบวงจร
- หลัง IPO จะเพิ่มห้องผ่าตัดอีก 10 ห้อง ทำให้จํานวนชั่วโมงในการให้บริการได้เพิ่มขึ้น 143% เสมือนได้โรงพยาบาลใหม่ที่ใหญ่ขึ้น แต่ลงทุนน้อยกว่าการขยายสาขา เพราะ MASTER มีชื่อเสียงมากพอที่จะดึงลูกค้ามาใช้บริการต่างจากคลินิกความงามทั่วไป ที่ต้องมีสาขามากเพื่อไม่ให้เสียลูกค้าให้คู่แข่ง
Our view
- แพทย์มีชื่อเสียงจํานวนมากจากการฝึกอบรมที่ใช้เวลาในระยะเวลาอันสั้น ด้วยการอบรมภายในของโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ลูกค้าเชื่อมั่นในแพทย์และโรงพยาบาลร่วมกัน เพราะมีการให้ความรู้ใหม่ให้แพทย์ได้พัฒนาอยู่เสมอ มีรายได้สูงและมั่นคง มีลูกค้าเข้ามาสม่ำเสมอ ทําให้เติบโตอย่างมั่นคงไปด้วยกันทั้งแพทย์และโรงพยาบาล
- เราคาดกำไรปี 2565 ที่ 429 ลบ. (+40.1% YoY) และเติบโตเฉลี่ย 24.0% CAGR 5 ปี (2565F-2570F)
MASTER STYLE เห็นผลชาตินี้ … ที่ Masterpiece
สวย หล่อครบ จบที่นี่
MASTER เป็นผู้ให้บริการด้านความงามครบวงจรมีรายได้หลักงวด 9M65 จากการให้บริการด้านศัลยกรรมในสัดส่วน 79.6% รองลงมาเป็นด้านผิวพรรณสัดส่วน 6.7% การให้บริการด้านผมและศีรษะ 6.8% และการดูแลหลังจากศัลยกรรมีสัดส่วน 4.4% จดทะเบียนในตลาด MAI ด้วยทุนจดทะเบียน 240 ล้านบาท ขายต่อประชาชนทั่วไป 65 ล้านหุ้น เป็นหุ้นใหม่ 50 ล้านหุ้น และหุ้นเก่า 15 ล้านหุ้น การขายหุ้นเก่าเพื่อเป็นการตอบแทนครอบครัวที่เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้โรงพยาบาลมาสเตอร์พืชประสบความสำเร็จตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการออกจากบริษัทแต่อย่างใด MASTER ให้บริการศัลยกรรมในทุกสัดส่วนทั่วร่างกาย โดยมีทีมแพทย์ที่มีชื่อเสียง ณ สิ้น 30 ก.ย. 2565 ทั้งสิ้น 41 คน ซึ่งหากแพทย์มีประสบการณ์มากขึ้นจะทำให้จำนวนชั่วโมงผ่าตัดต่อเคสลดลงได้อีก เพิ่มกำลังการผลิตได้ แม้จํานวนห้องผ่าตัดเท่าเดิม และยังมีการให้บริการความงามด้านผิวพรรณพร้อมให้บริการต่อเนื่อง สําหรับลูกค้าที่ทําศัลยกรรมแล้วและต้องการบริการเพิ่มเติม หรือลูกค้าที่เชื่อมั่นในโรงพยาบาลก็จะเลือกมาใช้บริการด้านผิวพรรณกับโรงพยาบาลก็ได้เช่นกัน
หลัง IPO เหมือนได้โรงพยาบาลใหม่ในราคาประหยัด
การ IPO ครั้งนี้จะนำไปขยายห้องผ่าตัดอีก 10 ห้อง เป็น 17 ห้อง คาดแล้วเสร็จในเดือน พ.ค. 2566 จะเห็นว่าจำนวนห้องเพิ่มกว่าเท่าตัว และจำนวนชั่วโมงในการให้บริการได้เพิ่มขึ้น 143% เป็น 93,075 ชั่วโมง/ปี ที่การทำงาน 15 ชั่วโมงต่อวัน เสมือนได้โรงพยาบาลใหม่แห่งที่ 2 ด้วยเงินลงทุนที่น้อยกว่าการสร้างโรงพยาบาลใหม่ทั้งหลัง และการมีสถานประกอบการอยู่ที่เดียวกันทำให้ทำการ Lean process ได้ง่าย ลดต้นทุนได้ง่ายกว่า ด้วยธุรกิจศัลยกรรมและชื่อเสียงของโรงพยาบาล ทำให้ลูกค้าติดสถานที่และติดแพทย์ที่มั่นใจในการใช้บริการ ทำให้ดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการกับโรงพยาบาล ต่างจากธุรกิจความงามอื่นที่มีคู่แข่งสูงใช้ Soft skill น้อยกว่า ลูกค้ารู้สึกแตกต่างกันไม่มากถ้าจะเปลี่ยนไปใช้ที่อื่น ทำให้ MASTER ไม่ต้องมีจํานวนสาขาจำนวนมาก แต่ถ้าเป็นความงามทั่วไปจำเป็นต้องมีสาขาจำนวนมาก เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ในหลายพื้นที่แทนที่จะเสียไปให้คู่แข่ง ปัจจุบันห้องผ่าตัด 7 ห้องมีอัตราการใช้งานเต็มกำลังแล้ว การขยายห้องผ่าตัดเพิ่มทำให้รับลูกค้าได้เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรเติบโต ส่วนราคาต่อเคสมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความชำนาญและชื่อเสียงของแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้นเป็นตัวเร่งการเติบโตของกำไร
ธุรกิจเงินสด + Recurring … ไม่ถูก Disrupt ง่าย
นอกเหนือจะเป็นธุรกิจที่ดึงลูกค้ามาใช้บริการไม่ว่าโรงพยาบาลจะอยู่ที่ใดก็ตามแล้ว ยังเป็นธุรกิจที่รับเงินสดทุกการให้บริการ จึงมีสภาพคล่องสูงไม่มีปัญหาหนี้สูญ เห็นได้จากการที่บริษัทไม่มีหนี้สินทางการเงินเลย นอกจากนี้ธุรกิจศัลยกรรมหากทำให้ลูกค้ามั่นใจได้แล้ว มักจะใช้บริการศัลยกรรมในส่วนอื่นเพิ่มเติมอีก หรือแนะนำให้คนใกล้ชิดมาทำต่อ จึงเป็นธุรกิจที่เหมือนจะทำแล้วจบแต่ไม่จบ เสมือนว่าลูกค้า 1 คน จะสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอให้กับบริษัทได้ต่อเนื่องด้วยเช่นกัน การทำศัลยกรรมเหมือนเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนบุคลิกของคนหนึ่งคนไปตลอดกาล และปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีใดมาทดแทนศัลยกรรมเพื่อความงามได้ จึงถือว่าเป็นธุรกิจที่ถูก Disrupt ได้ยาก เราคาดกำไรปกติปี 2566 ที่ 429 ลบ. (+40.1% YoY) และคาดเติบโตเฉลี่ยต่อปี 5 ปีข้างหน้าที่ 24.0% CAGR (2565F-2570F) โดยสมมติฐานอัตราการใช้ห้องผ่าตัดที่ 65% ในปี 2570 เราประเมินราคาเหมาะสมสิ้นปี 2566 ของ MASTER ด้วยวิธี PER ได้ราคาเหมาะสมสิ้นปี 2566 ที่ 66.25 บาท เริ่มต้นคำแนะนำ ซื้อ