รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีแกว่งตัวต่อ
Market wrap & Outlook
- วานนี้ดัชนี Sideways หุ้นใหญ่กดดันตลาด JMT BDMS CPALL COM7 SCGP OR CPF TIDLOR ส่วนหุ้นบลูชิพบวกพยุงตลาด DELTA AWC BJC CBG BEM MINT BBL และหุ้นกลาง-เล็กบวกแรง MASTER (IPO น้องใหม่) STI SKY MTW SISB ARIP DITTO SC
- วันนี้คาดดัชนีแกว่งตัวต่อ แต่ยังจะอยู่ในกรอบที่เราประเมินไว้ 1670-1700 และประเด็นหลักในการลงทุนช่วง Earnings preview นี้ ตลาดจะเกาะอยู่ที่การเก็งผลประกอบการ และหุ้นใหญ่ที่รายงานผลประกอบการออกมาแย่กว่าคาดคัทถูกทิ้งต่อเนื่องตามรอยงบกลุ่มธนาคาร ตั้งแต่ SCGP SCC ลามไปถึงที่คาดว่าจะออกมาแย่กว่าตลาดประเมินก่อนหน้า เช่น OR COM7 ที่ นวค. จะส่งสัญญาณ Earnings warning ออกมาก็ถูกเทไปด้วยในระยะสั้น ส่วนจังหวะการเข้าซื้อกลับ กลยุทธ์แนะอาจต้องรอจนย่อลงมาแล้วได้ปันผลจูงใจกว่านี้ แต่ระหว่างรอการพักฐาน หุ้นกลาง-เล็ก ที่ราคาอยู่ข้างล่าง จะถูกหยิบขึ้นมาเล่นรอบเก็งกำไรแทน โดยเฉพาะหุ้น Tech. กลุ่มที่จะส่งมอบกำไรเติบโตได้ดีต่อเนื่อง/กำไรฟื้นตัวแกร่ง และอยู่ในธีมที่ตลาดสนใจ บวกมี Story บวกหนุน
What to watch
- ธปท.ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.5% ตามคาด ส่วนค่าเงินมองบาทแข็งค่าเพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวดี แต่ก็ ย้ำว่าจะมีการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด (ยังไม่มีมาตรการออกมา)
- งบที่จะประกาศสัปดาห์หน้า PTTEP (จันทร์ที่ 30) DTAC (อังคารที่ 31)
- จีนเปิดทัวร์เร็วเกินคาด อนุมัติจัดกรุ๊ปทัวร์เที่ยว ตปท.ได้เริ่ม 6 กพ.นี้เป็นต้นไป ดูผลกระทบเชิงบวกของการฟื้นตัวผ่านรายได้และกำไร บจ.ที่เราศึกษา ในรายงานพื้นฐานวันนี้
หุ้นแนะนำวันนี้
- HUMAN YGG หุ้นเทคฯ กลาง-เล็ก ที่คาดส่งมอบกำไรได้ดีใน 4Q22 สวนทางหุ้นบลูชิพหลายตัวที่ช่วงนี้ส่งสัญญาณกำไรที่ทำตลาดผิดหวัง
- PSL คาด Shipping Demand กลับมาหลังจีนเปิดประเทศ หนุน BDI ฟื้นตัว
Global Investing Brief: Tesla ดีด 6% ช่วง after hours หลังเผยงบดีกว่าคาด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักปิดผสม โดย DJIA ทรงตัวบวก 0.03% ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ลบ 0.02% และ 0.2% ตามลำดับ กดดันจาก Microsoft (MSFT) ลบ 0.6% หลังเผยคาดการณ์รายได้ F3Q66 ต่ำกว่าตลาดคาด ด้าน Tesla (TSLA) บวก 5.5% ช่วง after hours หลังเผยงบ 4Q65 รายได้โต 33%YoY สู่ $24.3bn ดีกว่าตลาดคาดที่ $24.2bn และกำไรต่อหุ้นที่ $1.2 ดีกว่าตลาดคาดที่ $1.1 ทั้งนี้ บริษัทไม่มีการเผยคาดการณ์รายได้ในปีนี้ แต่เผยว่ากำลังวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตต่อปีที่ 50% โดยเรามองบวกต่อการปรับลดราคารถยนต์ของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนปริมาณการขายและหนุนต่อรายได้ในปี 66 ขณะที่ Elon Musk เผยว่าปัจจุบันมีคำสั่งซื้อสูงกว่ากำลังผลิตเกือบ 2 เท่า
- AT&T (T) บวก 6.6% หลังเผยงบ 4Q65 รายได้โต 0.7%YoY สู่ $31.3bn เป็นไปตามตลาดคาด และกำไรต่อหุ้นโต 9%YoY สู่ $0.61 ดีกว่าตลาดคาดที่ $57 โดยรายได้ธุรกิจสื่อสารโต 2%YoY สู่ $21.5bn หนุนจากจำนวนผู้ใช้รายเดือน (Postpaid) ที่เพิ่มขึ้น 656,000 ราย สูงกว่าตลาดคาดที่ 645,000 ราย ขณะที่ธุรกิจบริการโต 5.2%YoY สู่ $1.5bn นอกจากนี้เรามองว่าสถานะหนี้สินของบริษัทอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้บริษัทมีการจ่ายปันผลในอัตราที่สูงขึ้น หลังบริษัทให้คาดการณ์กระแสเงินสดในปีนี้อยู่ที่ $16bn เพิ่มขึ้นจาก $14bn ในปีก่อน ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ $21.07
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- ตลาดหุ้นฮ่องกงหยุดทำการเมื่อวานนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน และจะกลับมาเปิดอีกครั้งในวันนี้
- SCMP รายงานว่าจำนวนผู้โดยสารขาเข้ารายวันที่เดินทางจากจีนสู่ฮ่องกงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากจีนเปิดพรหมแดน โดยเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 66 มีจำนวน 14,892 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 63 หนุนการบริโภคฟื้นตัว โดยคาดการณ์จาก Bloomberg Cons. เผยว่าจะ GDP ฮ่องกงจะพลิกกลับมาโต 2.8%YoY ในปีนี้ จากหดตัว 3%YoY ในปี 65
- BYD ที่มีสัดส่วน 1% ในดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของ DR CN01 กำลังเจรจากับบริษัท Ford เพื่อซื้อโรงงานผลิตรถ EV ใน Saarlouis ประเทศเยอรมนี หลัง Ford เตรียมยุติการผลิตในปี 68 โดยเราคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อ BYD หากมีการบรรลุดีลดังกล่าว เนื่องจากมองว่าจะช่วยเสริมแกร่งการขยายตลาดสู่ยุโรป หลังบริษัทมีแผนขยายตลาดไปสู่ยุโรป เช่น เยอรมนี สวีเดน ฝรั่งเศส ในปีนี้
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- ตลาดหุ้นเวียดนามหยุดทำการเมื่อวานนี้ ถึงวันพฤหัสบดีที่ 26 ม.ค. 66 เนื่องในเทศกาลตรุษญวน
- HT1 หุ้นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ในเวียดนามเผยงบ 4Q65 รายได้โต 14%YoY สู่ VND2.3tn และกำไรโต 6%YoY สู่ VND58bn ส่งผลให้ปี 65 รายได้โต 26%YoY สู่ VND8.9tn และกำไรหดตัว 29%YoY สู่ VND262bn กดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นใน 2H65 ที่ลดลงสู่ 8.7% จาก 11.3% ใน 1H65 หลังราคาถ่านหินซึ่งเป็นต้นทุนปรับสูงขึ้น ทั้งนี้ เรามองว่ากำไรจะโตเด่นในปีนี้ หลังจีนซึ่งเป็นประเทศการส่งออกหลัก (สัดส่วน 32% ของการส่งออกทั้งหมด) เปิดประเทศ ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการปูนซีเมนต์ โดยโบรกเวียดนามคาดว่ากำไรจะโต 27%YoY ในปีนี้ และให้ TP ที่ VND13,800
Highlight
Amazon (AMZN) เปิดตัวบริการจัดส่งยาถึงบ้าน “RxPass” ในสหรัฐฯ เพียงจ่ายค่าบริการเพิ่มอีก $5 จากค่าสมาชิก Prime โดยยาที่มีสามารถครอบคลุมได้มากกว่า 80 อาการ เช่น ความดัน ผมร่วง วิตกกังวล เป็นต้น โดยบริษัทประเมินว่าจะมีลูกค้าทั้งหมด 150 ล้านคน ทำให้เราคาดว่าจะเป็น upside ต่อรายได้สมาชิกที่มีสัดส่วน 7% นับเป็นการต่อยอดธุรกิจสุขภาพ หลังบริษัทเข้าซื้อร้านยาออนไลน์ PillPack ไปเมื่อปี 61 โดยนักลงทุนสามารถติดตามประเด็นลงทุนเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Amazon ได้ในรายงาน Global Stocks Model Portfolio – “เพิ่ม Amazon คาดธุรกิจคลาวด์โตดี สมาชิก Prime แกร่ง” เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 66