บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +54.9%
Close Jan 26, 2022 Price (THB) 6.65
12M Target (THB) 9.70
Previous Target (THB) 10.30
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 4Q65 ที่ 491 ลบ. (-20.7% QoQ, -10.5% YoY) ปริมาณขายเพิ่มขึ้น QoQ และ YoY แต่ราคาขายลดลง 10% กดดันรายได้และ GPM ทําให้กำไรปกติลดลง
- 1Q66 คาดกำไรฟื้นตัวจากการเพิ่มขึ้นของทั้งปริมาณขาย และราคาขาย ขณะที่ 2Q66 มีโอกาสทำ New high จากสัญญาณของราคายาง SICOM ใน 1Q66 ที่ฟื้นตัวแรง
Our view
- เราคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ NER
- เราปรับเพิ่มจำนวนหุ้นเพื่อสะท้อนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากการใช้สิทธิใน Warrant ทําให้ EPS ลดลงเล็กน้อยเป็น 1.19 บาท อิง PER 8.16 เท่า ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 66 ที่ 9.70 บาท คงคำแนะนำ ชื้อ
- ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PER66 ที่ 5.6 เท่า และคาดเงินปันผลงวด 2H65 ที่ 0:35 บาท Yield 5%
NORTH EAST RUBBER ปี 2565 ไม่ง่าย แต่ปี 2566 ได้ไม่ยากนะ
คาดกําไร 4Q65 หดตัวจากราคาขาย
ราคายางแท่งตลาดกลาง กทม. รายงานโดย กยท. ใน 4Q65 เฉลี่ยอยู่ที่ 49.3 บาท/กก. (-9.1%QoQ, -14.5%YoY) เราคาดรายได้ใน 4Q65 ของ NER ที่ 6,779 ลบ. (-6.1%QoQ, +12.6%YoY) คาดปริมาณ ขายที่ราว 1.29 แสนตันเพิ่มขึ้น 4.3% QoQ และ 20.7% YoY จาก Demand ที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจีนยังไม่เปิดประเทศ แต่คาดราคาขายเฉลี่ยลดลง 10.0% QoQ และ 6.7% YoY ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง คาดที่ 12.4% ลดลงจาก 13.4% ใน 3Q65 และ 14.4% ใน 4Q64 คาดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 50 ลบ. คาดกำไรสุทธิที่ 441 ลบ. และคาดกำไรปกติที่ 491 ลบ. (-20.7% QoQ, -10.5% YoY) คาดเงินปันผลงวด 2H66 ที่ 0.35 บาท/หุ้น ให้ผลตอบแทน 5% ประกาศงบวันที่ 17 ก.พ.
1Q66 กลับมาสดใส ลดประมาณการปี 65 คงประมาณการปี 66
ผลของราคาขายใน 4Q65 ที่ลดลงมากกว่าที่คาด ทำให้กำไรปกติ 4Q65 ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2565 ลง 5% เป็น 1,921 ลบ. (6.2% YoY) และคาดกำไรสุทธิที่ 1,821 ลบ. ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวที่เกิดขึ้นใน 4Q65 จากการลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก กระทบราคายางพารา SICOM ใน 3Q65 ลดลง ขณะที่ราคายางเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงกลาง-ปลาย 4Q65 ทำให้การส่งมอบใน 1Q66 จะมีราคาขายที่ฟื้นตัว ขณะที่ 1Q66 ราคายางพารา SICOM ส่งสัญญาณฟื้นตัวแรงจากการเปิดประเทศเร็วกว่าคาดของจีน ทำให้การบริโภคยางพาราโลกฟื้นตัว ขณะที่ปริมาณยางพาราในตลาดเท่าเดิม เป็นนัยยะว่าผลประกอบการในช่วง 1H66 ของ NER จะกลับมาเติบโตทั้ง QoQ และ YoY ในทุกไตรมาส และอยู่ระหว่างเจรจาปิจดีกับลูกค้าใหม่หลายรายทั้งจีนและอินเดีย ทำให้มีโอกาสที่ NER จะเริ่มพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตได้ในปีนี้เช่นกัน ซึ่งจะเป็น Upside ต่อประมาณการ เรายังคงประมาณการปริมาณขายปี 2566 ที่ 4.8 แสนตัน ยังต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ 5.0 แสนตัน และยังไปรวมรายได้ธุรกิจแผ่นรองนอนสัตว์ไว้ในประมาณการ
PER อยู่ที่ 5.6 เท่า Dividend yield 7% … คงคำแนะนำ ซื้อ
ผลของการปรับประมาณการกำไรปี 2565 ลง และยังคงประมาณการกำไรปี 2566 ไว้ที่ 2,200 ลบ. ทำให้กำไรปี 2566 เติบโตสูงขึ้นเป็น 14.5% YoY และผลของการปรับเพิ่มจํานวนหุ้นจากการใช้สิทธิ์ใน Warrant ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 1,773 ล้านหุ้น เป็น 1,848 ล้านหุ้น ทำให้ EPS2566 ลดลงเล็กน้อยเป็น 1.19 บาท อิง PER ในการประเมินมูลค่าเดิมที่ 8.16 เท่า ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ลดลง 9.70 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER2566 ต่ำเพียง 5 เท่า และคาดเงินปันผลทั้งปี 2566 ที่ 0.48 บาท ให้ผลตอบแทน 7%