สัปดาห์นี้ติดตาม FED และ OPEC+

กรอบ SET INDEX 1665-1700

Market Outlook

สัปดาห์นี้ตลาดจะไปจับตาประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะทราบผลอย่างเป็นทางการช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย ข้อมูลจาก CME Fed Watch ระบุว่าให้น้ำหนักมากถึง 98.4% ที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ขณะที่อีก 1.6% ระบุว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม หากมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ก็จะทำให้ดอกเบี้ย Fed ขึ้นมาทดสอบ 4.75% ซึ่งเป็นระดับดอกเบี้ยที่จะเริ่มสูงกว่าเงินเฟ้อ (PCE) ทั้งนี้หากน่า Fed Rate-PCE ย้อนหลัง 53 ปี พบว่าค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.5% หรือหมายความว่าโดยสถิติแล้ว Fed Rate มักจะสูงกว่า PCE เพียง 1.5% ซึ่งปี 2023 Bloomberg ประเมินว่า PCE สหรัฐฯ เฉลี่ยจะอยู่ที่ 3.4%YoY หากนำ 1.5 ที่เป็นค่าเฉลี่ยบวกกลับเข้าไปดอกเบี้ย Fed ก็อาจไม่จําเป็นต้องสูงกว่า 5% (โดยสถิติ) สอดคล้องกับที่ CME Fed Watch คาดการณ์ว่าดอกเบี้ย Fed จะทำจุดสูงสุดราว 5% ในขณะที่ CPI กับ PCE ค่าเฉลี่ยมักจะห่างกันเพียง 0.6% ดังนั้นก็พอจะประมาณการได้ว่า CPI เฉลี่ยทั้งปี 2023 จะลงมาอยู่แถว 4% +/- ซึ่งค่าเฉลี่ย Fed-CPI จะอยู่ราว 0.9% ดังนั้นหาก CPI อยู่ที่ 4% ดอกเบี้ย Fed ก็ควรจะไม่เกินไปกว่า 5% อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในอดีตบ่งชี้ชัดว่าหลังจากดอกเบี้ยลง ตลาดหุ้นมักจะปรับลง

ส่วนสัปดาห์นี้นอกเหนือจะประชุม Fed ติดตาม (1) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯ ในวันอังคาร Bloomberg ประเมินไว้ที่ 109 (2) ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และชาติพันธมิตร (OPEC+) ในวันพุธ มีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมจะคงนโยบายเช่นเดิม เพราะมองถึงอุปสงค์ที่สูงขึ้นจากจีนเปิดประเทศ ขณะที่ในวันเดียวกันจะมีการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของสหรัฐฯ Bloomberg ประเมินไว้ว่าจะลดลงต่อเนื่องทดสอบ 48 จากเดือนก่อนที่ 48.4 (3) ภาคแรงงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์ Bloomberg ประเมินการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 1.93 แสนตำแหน่งและอัตราการว่างงานที่ 3.6% (4) ผลประกอบการ 4Q22 ของบริษัทฯ ใน SET Bloomberg ประเมินว่าจะมี DTAC รายงาน โดยประเมินกรอบ SET INDEX สัปดาห์นี้ที่ 1665-1700

เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังแนะให้ถือครองเงินสดระดับสูงจากความเสี่ยงข้างหน้าของเศรษฐกิจถดถอย ส่วนหุ้นแนะนำเป็น Defensive อาทิ กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, INTUCH) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH, BDMS, CHG) กลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, HMPRO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA, SHR) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF, RATCH) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK)

หุ้นแนะนําซื้อวันนี้

KBANK ราคาพื้นฐาน 170.00 บาท

เพิ่มมูลค่าพื้นฐานขึ้นจาก 165.00 บาท เป็น 170.00 บาท แม้มีมุมมองเป็นกลางต่อบรรยากาศการประชุมนักวิเคราะห์ แต่เล็งเห็นโอกาสที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญจะลดลงหลังการระบายงบดุลสิ้นสุดลงในปี 2023 คาดค่าใช้จ่ายสํารองหนี้สูญจะค่อยๆ ลดลงเป็น 200/180/160bps ในปี 2023- 2025 ตามลำดับ เราจึงมองว่ากําไรสุทธิของ KBANK จะพลิกเป็นบวกระดับ 16% ในปี 2023

CK ราคาพื้นฐาน 27.75 บาท

ด้วยจานใหม่ที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายปีอีก 2 งานรวมกันกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาได้ทันที ทำให้เราประเมินรายได้ในปี 2023 จะกลับสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้งมาอยู่ที่ 22,142 ล้านบาท (+24% YoY) และคาดกำไรสุทธิที่ 1,247 ล้านบาท (+15% YoY)

- Advertisement -