ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index ปิดลดลง 0.08 จุด (0.00%) ปิดที่ระดับ 1,681 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.4 หมื่นล้านบาท นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอ Fed meeting เน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการเมือง
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,675 / 1,670 จุด ตามทิศทาง Fund flow ต่างชาติที่ชะลอตัวเพื่อรอผลการประชุมสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ FOMC คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% , ECB และ BoE คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.50 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงจากข่าวรัสเซียยังสามารถส่งออกน้ำมันในปริมาณมากได้จะกดดันดัชนี จึงแนะนำ Selective Buy เช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- หุ้นที่คาดงบ 4Q22F เติบโต BEM BTS AOT CENTEL ERW AAV BA CPALL CRC CBG PLANB VGI SIRI ORI SNNP SPA AU SISB HUMAN BE8
- GPSC BGRIM GULF ROJNA อานิสงส์ราคาพลังงานลดลง ,การปรับขึ้นค่า Ft และเงินบาทแข็งค่า
หุ้นแนะนำวันนี้
- SIRI (ปิด 1.81 ซื้อเป้า 2 บาท) เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 1.75 เป็น 2 บาท และคาดกำไรสุทธิ 4Q22 ทำ New high ที่ 1.8 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 42%qoq และ 425%yoy
- PR9 (ปิด 19.90 ซื้อเป้า IAA Consensus 22 บาท) โด่งดังและเชี่ยวชาญจากศูนย์โรคไต รายได้และกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง และมี Upside จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยจากจีนโดยเฉพาะศูนย์ IVF ที่บริษัทเริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2020
บทวิเคราะห์วันนี้: OSP, PLANB, SIRI, Strategy
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+/-) PTTEP ประกาศงบ 4Q22 กำไรสุทธิหดตัว QoQ แต่ดีกว่าที่เราและตลาดคาดไว้: PTTEP มีกำไรสุทธิ 4Q22 ที่ 1.56 หมื่นล้านบาทลดลง 35%qoq แต่เพิ่มขึ้น 47%yoy และดีกว่าที่เราและตลาดคาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 1.1-1.3 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิที่ลดลง qoq หลักๆ มาจากขาดทุนรายการพิเศษ
(-) ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงจากข่าวรัสเซียส่งออกน้ำมันดิบเพิ่ม: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.78$ (-2.23%) ปิดที่ระดับ 77.9$/bbl 1) กังวลซัพพลายยังล้นตลาดหลังรัสเซียส่งออกน้ำมันดิบแม้ถูกค่ำบาตร 2) กังวลธนาคารกลางทั่วโลกยังเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยกระทบ ศก. และกดดันดีมานด์
(+) เลือกตั้งชัดเจนมากขึ้น กกต. ประกาศเขตเลือกตั้งแล้ว: คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกำหนดเขตเลือกตั้งเป็น 400 เขต พิจารณาจากจำนวนราษฎรทั่วประเทศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 จำนวน 66 ล้านคน จึงมีจำนวนราษฎรโดยเฉลี่ยประมาณ 165,226 คน ต่อจำนวน ส.ส. หนึ่งคน
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(+/-) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มองว่าปี 2566 นี้จะเป็นปีที่ภาคการท่องเที่ยวมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด และกลับมาเป็นเครื่องจักรสําคัญในการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้ง โดย สทท. เชื่อมั่นว่าจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 1 เท่าจากปี 65 โดยตั้งเป้าหมายจํานวนนักท่องเท่ียวต่างชาติทะลุ 30 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 3 ล้านล้านบาท
สหรัฐ
(-) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลง 261 จุดในวันจันทร์ (30 ม.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นบริษัทรายใหญ่ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์น้ี
ยุโรป
(-) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวขึ้น หลังข้อมูลขั้นต้นบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของสเปนปรับตัวขึ้นมากเกินคาด 5.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในม.ค.
เอเชีย
(+/-) บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จํากัด (JD Central) แพลตฟอร์ม JD CENTRAL ชื่อดังประกาศยุติการให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.66 เป็นต้นไป โดยพันธมิตรหลักอย่าง JD.COM ขอกลับไปโฟกัสตลาดในจีนที่ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 มาตลอด
