Our View? “ติดตามต่อ”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,675 / 1,670 และแนวต้านที่บริเวณ 1,685 / 1,690 เรายังคงมองตลาดจะแกว่งตัวเพื่อติดตามการประชุมของธนาคารกลางทั่วโลกในสัปดาห์นี้ เริ่มต้นด้วยการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในวันที่ 1 ก.พ. คาดจะขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% โดยจะต้องติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ว่าจะมีการส่งสัญญาณถึงจุดสูงสุดของการขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้ที่น้อยกว่าที่ตลาดคาดหรือไม่ จาก CME FED Watch Tools บ่งชี้ตลาดคาดการณ์ FED จะขึ้นดอกเบี้ยสูงสุดที่ระดับเพียง 5.00% น้อยกว่า Dot-Plot ที่ FED ส่งสัญญาณมาก่อนหน้า ขณะที่ตลาดเริ่มมีการพูดถึงแนวโน้มที่ FED อาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยลงเร็วกว่าที่คาดไว้บ้างแล้ว จากก่อนหน้าที่คาดจะส่งไว้ในระดับสูงจนถึงสิ้นปี’66 หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คาดมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% เพื่อกดดันเงินเฟ้อให้ลดลง หลังอัตราเงินเฟ้อในฝั่งยุโรปยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม วันนี้แนะนำติดตามการรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือน ม.ค. ของจีน คาดจะออกมาที่ระดับ 50.1 ฟื้นตัวจากเดือนก่อนที่ระดับ 47.0 และสูงกว่าระดับ 50.0 สะท้อนภาคการผลิตจีนมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นอีกครั้ง มองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาคและหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (KCE และ HANA)

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. เมื่อคืนนี้ยังคงปรับตัวลดลงต่อปิดที่ระดับ 77.90 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.78 ดอลลาร์ (-2.23%) โดยได้รับแรงกดดันจากรายงานรัสเซียยังสามารถส่งออกน้ำมันใน ปริมาณสูงได้อยู่ แม้เผชิญมาตรการสกัดกั้นการส่งออกน้ำมันของสหภาพยุโรป อีกทั้งราคานํ้ามันยังคงเผชิญแรงขายทำกำไรก่อนการประชุมของ OPEC+ ในวันที่ 1 ก.พ. นี้ คาดจะคงนโยบายการลดกำลังการผลิตลด 2 ล้านบาร์เรล/วัน ไปจนถึงสิ้นปี’66 คาดอาจกดดันทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดได้บ้างเล็กน้อย

สําหรับปัจจัยในประเทศ เรายังคงแนะนําให้ติดตามการรายงานผลประกอบการ 4Q’65 ต่อเนื่อง คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้างในช่วงสั้น โดยล่าสุด Bloomberg Consensus เริ่มมีการปรับลดประมาณการกำไรของ บจ. ในตลาดหุ้นไทย ลดบ้างเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 106.5+/- บาท/หุ้น หลังจากก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 107.0+/- ตามการเปิดเผยผลประกอบการของบาง บจ. และหุ้นในกลุ่มธนาคารที่น้อยกว่าที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นบางกลุ่มที่ปรับตัวลงแรง จากแรงขายลดความเสี่ยงจากแนวโน้มผลประกอบการออกมาไม่สดใสอาทิหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, GPSC และ BGRIM) ถึงแม้ตลาดจะเริ่มพูดถึงแนวโน้มผลประกอบการ 4Q’65 จะออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด แต่เรามองแนวโน้มการฟื้นตัวจะชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ 1Q’66 ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามค่า Ft. รวมทั้งต้นทุนที่ลดลงจากราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หนุนทิศทางผลกำไรใน 1Q66 สดใส รวมทั้งเรายังคงชอบหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) ที่คาดจะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นได้หลังการเปิดเผยผลประกอบการออกมาแย่กว่าคาด อย่างไรก็ตาม ทิศทางเศรษฐกิจไทยที่เติบโตชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง คาดเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารได้ต่อ รวมทั้งเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทย คาดจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน เป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศในส่วนของภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง คาดยังเป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA ,CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI, PLANB, TKN และ SCC รวมทั้งเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ราชกิจจานุเบกษา ลงประกาศเผยแพร่ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อภาพการเลือกตั้งที่คาดจะมาถึงในเร็ววันนี้ มองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นไทย

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “GPSC”

กลยุทธ์ แนวรับ 69.00 / 68.50 Target 72.00 / 75.50 Stop <68.00

- Advertisement -