ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

เทรดกรอบแคบๆ… ตลาดช่วงสั้นอ่อนกว่าที่คาด

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคาร เทรดไซด์เวย์… หลังจากเมื่อวานนี้ ภาวะตลาดหุ้นไทยอ่อนแอกว่าที่เราคาด (ทรงตัวทั้งวันไม่บวกต่อ) และนักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิอีกครั้ง…. ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดเป็นลบเล็กน้อย กล่าวคือ i) ความกังวลต่อเศรษฐกิจยุโรปกลับมาอีกครั้ง หลังจากเยอรมันรายงาน GDP ไตรมาส 4/2565 ติดลบ 0.2% QoQ ต่ำกว่าที่ consensus คาดไว้ที่ 0% QoQ ii) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐานลง สะท้อนแรงขายปรับพอร์ตในกลุ่มเทคโนโลยี หลังหุ้นขึ้นมาแรงหลายวัน ผนวกกับนักลงทุนส่วนหนึ่งรอผลประชุม ธ.กลางสำคัญๆ ของโลกในสัปดาห์นี้ สรุปคือครั้งนี้… จะมีผลประชุม US Fed คืนวันที่ 1 ก.พ. และผลประชุม ECB, BoE เย็นวันที่ 2 ก.พ. ขณะที่เช้าวันนี้ IMF ออกรายงานเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุด ปรับเพิ่ม GDP โลกปี 2566 จากเดิม 2.7% เป็น 2.9% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยื่นได้ดีกว่าคาด และเศรษฐกิจจีนดูดีกว่าเดิมหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบแล้ว…. ด้านปัจจัยภายในประเทศ วันนี้ ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ธ.ค. 2566 ซึ่งภาพรวมน่าจะคล้ายๆ กับเดือนก่อนหน้านี้ คือการเติบโตของภาคท่องเที่ยวและภาคการบริโภคฟื้นตัวแข็งแกร่ง YoY แต่ภาคส่งออกและผลผลิตอุตสาหกรรมจะชะลอตัว

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร KSL, BH*, ZEN*

  • KSL (เป้า Consensus 4.95 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.56 บาท / แนวต้าน 3.64 – 3.70 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 4.0 บาท (Stop loss 3.5 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจาก i) การพิจารณาปรับขึ้นราคาน้ำตาลหน้าโรงงาน (ในไทย) อีก 1.75 บาท/กก (มีผล 20 ม.ค. ที่ผ่านมา) ii) ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ของปีนี้ที่ 21.2 เซนต์/ปอนด์ (+5.8% YTD) 3) คาดผลการดำเนินงาน 10/66 (พ.ย.65 – ม.ค.66) จะโตเด่น QoQ จากการเข้าสู่ฤดูหีบอ้อย 4) Forward PE ต่ำเพียง 11.8 เท่า
  • BH* (เป้าพื้นฐาน 250 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 212 บาท / แนวต้าน 215 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 223 บาท (Stop loss 206 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2566 โตทะลุ 5 พันล้านบาท (+15% YoY) ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกินกว่าก่อนวิกฤตโควิด-19 แล้ว หนุนโดยการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติที่พร้อมเดินทางเข้าไทย โดยเฉพาะจีนและตะวันออกกลาง 3) Forward PE 31 เท่า (เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต)
  • ZEN* (เป้าพื้นฐาน 21 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17.6 บาท / แนวต้าน 18.5 – 19.2 บาท กรณียืนเหนือกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านจุดสูงสุดเดิมก่อนหน้าที่ +/- 20.0 บาท (Stop loss 17.1 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯคาดผลการดำเนินงาน 4Q65 = 55 ล้านบาท (+98% YoY และ 8% QoQ) จากทั้งยอดขายที่ฟื้นตัวและอัตรากำไรที่ดีขึ้น รวมทั้งสามารถคุมค่าใช้จ่าย SG&A ได้ดี ขณะที่คาดกำไรปี 2566 จะยังโตต่อเนื่องอีก +38% YoY (ผลจากการเปิดประเทศเต็มปี) 3) Forward PE +/-25 เท่า คิดเป็นราว -0.75 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ ราว 33 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) TRC ดึง EA แท็กทีมมาเลย์ เพิ่มทุน “โปแตชชัยภูมิ” “คลัง” รักษาสัดส่วน 20% อันวาร์ บินตรงปิดดีล 10 ก.พ.นี้ (ข่าวหุ้น) แผนปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น “โปแตชชัยภูมิ” ขยับ! รองรับเงื่อนไขเงินกู้ก้อนใหญ่ “ทีอาร์ซี” ดึงพันธมิตร EA – มาเลเซีย ลงขันเพิ่มทุน 20,000 ล้านบาท วงในระบุชัด “อีเอ” ถือหุ้น 25% รัฐบาลมาเลย์ร่วมด้วย 10% ส่วน “คลัง” พร้อมรักษาสัดส่วนถือหุ้น 20% ล่าสุด “อันวาร์ อิบราฮิม” ล็อกคิวบินตรงร่วมปิดดีล 10 ก.พ.นี้ ฟาก TRC รับเต็มงาน EPC มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท คล้ายโมเดล “ช.การช่าง” กับเขื่อนไซยะบุรีที่สปป.ลาว

(+) SIRI* ลุ้นกำไรนิวไฮ ดันโปรเจกต์ ‘แสนล. ปี 67 (กรุงเทพธุรกิจ) กางโรดแมป “แสนสิริ” เดินหน้าทุบทุกสถิติในรอบ 38 ปี รับปัจจัยบวกเศรษฐกิจขยับ ตลาดต่างชาติรีเทิร์น เดินหน้าลงทุนใหญ่ปีนี้เปิดตัว 52 โครงการมูลค่า 7.5 หมื่นล้าน ปักหมุด 8 คอมมูนิตี้แนวราบ 8 โซน กว่า 2 พันไร่ พร้อมรุกเจาะหัวเมืองเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ปั้น “สังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ” แย้มปีหน้าหวังโปรเจกต์ทะลุแสนล้าน

(+) HL ปักหมุดรายได้โตทะลุ 20% อานิสงส์ “ช้อปดีมีคืน ท่องเที่ยวจีน” คึก (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) “เฮลท์ลีด” เปิดแผนธุรกิจปี 2566 ตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อน เดินหน้าเปิดสาขาใหม่อีก 14 แห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมสิ้นปีมีสาขาครบ 50 แห่ง แย้มแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/66 สดใสต่อเนื่อง รับอานิสงส์ 2 เด้ง ช้อปดีมีคืน ท่องเที่ยวจีนดันยอดขายคึกคัก

(+) วัน ออริจิ้น” เปิดบริการโรงแรมใหม่ย่านสุขุมวิท รับการท่องเที่ยวไทยฟื้น (ข่าวหุ้น) “วัน ออริจิ้น” ในเครือ ORI เปิดให้บริการโรงแรม “สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท” ในเครือ IHG โรงแรมสไตล์ที่พักอาศัยแห่งที่ 2 ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รับการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว

(+) TACC ต่อสัญญาตัวแทนลิขสิทธิ์รุกฐานต่างแดน (ทันหุ้น) TACC ต่อสัญญาตัวแทนลิขสิทธิ์คาแร็กเตอร์แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น San-X ครอบคลุม 7 ประเทศ “ไทย-สิงคโปร์-มาเลเซีย-กัมพูชา-เมียนมา-สปป. ลาว-เวียดนาม” ระยะเวลา 5 ปี มั่นใจหนุนรายได้ปี 2566 โต 10% พร้อมรุกขยายธุรกิจคาแร็กเตอร์ ไปต่างประเทศเพิ่ม

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • แนะนำ “Let profit run” โดยกําหนด Trailing stop: TISCO* (Trailing stop 102 บาท)
  • BJC* (เป้า Consensus 38.7 บาท) แนวรับ 38 บาท / แนวต้าน 40.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 37.5 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 32.5 บาท / แนวต้าน 34-37 บาท (Trailing stop 31.5 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 186 บาท) แนวรับ 160 บาท / แนวต้าน 163-167 บาท (Trailing stop 159 บาท)
  • BBGI (เป้าพื้นฐาน 8.1 บาท) แนวรับ 7.15 บาท / แนวต้าน 7.5-7.6 บาท (Stop loss 7.0 บาท)
  • TOP* (เป้าพื้นฐาน 69 บาท) แนวรับ 59 บาท / แนวต้าน 62-63.25 บาท (Stop loss 57 บาท)
  • KTB* (เป้าพื้นฐาน 19.4 บาท) แนวรับ 17.8 บาท / แนวต้าน 18.1-18.4 บาท (Stop loss 17.6 บาท)
  • GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 24.4 บาท) แนวรับ 20.4 บาท / แนวต้าน 21.0-21.4 บาท (Stop loss 20.2 บาท)
  • LEO (เป้า Consensus 14.1 บาท) แนวรับ 12.6 บาท / แนวต้าน 13.1-13.5 บาท (Stop loss 12.4 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ มีมุมมองที่เป็นบวกสำหรับการลงทุนระยะสั้นลดลงต่อกลุ่มฯ จากความกังวลเรื่องความเสี่ยงเรื่องหนี้เสีย แต่ยังคงน้ำหนักลงทุนมากกว่าตลาดฯ หุ้นเด่นยังคงเลือก BBL*, KTB* และเพิ่ม SCB*
  • LH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 12.2 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 4Q65 = 2.2 พันล้านบาท (+6% YoY, +18% QoQ) สำหรับแนวโน้มปี 2566 ยังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มธุรกิจบ้านแนวราบ และรายได้ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีก ฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการฯ ขึ้น และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 12.2 บาท (เดิม 11.2 บาท)
  • BCP* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 41 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 4Q65 = 1.1 พันล้านบาท (-40% YoY, -57% QoQ) โดยกำไรที่คาดจะลดลงเป็นผลจากคาดมีผลขาดทุนสต๊อกมากขึ้น ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดเป้าหมาย EV/EBITDA ลงเป็น 6 เท่า (เดิม 7 เท่า) จากการปรับสมมติฐานการเข้าซื้อหุ้น ESSO ที่เป็นธุรกิจโรงกลั่นเข้ามาเพิ่ม ทำให้ได้ราคาเป้าหมาย 41 บาท (เท่าเดิม) ยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินแนวโน้มค่าการกลั่นยังอยู่ใน High season และ Demand ที่เพิ่มขึ้นหลังจีนเปิดประเทศ

Strategic SET daily

ภาพรวมตลาดหุ้นเช้านี้: คาดดัชนีย่อระยะสั้น และโอกาสดีดขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1687

  • ดัชนี SET index เมื่อวานนี้: ดัชนีเปิดโดดขึ้น และอ่อนตัวลงกลับมาปิดบริเวณเดิม จากแรงซื้อเด่นหุ้นกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ และมีแรงขายหุ้นกลุ่มสื่อสาร และธนาคาร
  • ภาพรวมดัชนี SET index เช้านี้: คาดดัชนีย่อระยะสั้น และโอกาสดีดขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1687 เนื่องจากเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นได้แย่แกว่าที่คาด แต่มีแรงซื้อช่วยแบบอ่อนๆ ช่วงเช้า จึงมองว่าหากดัชนีย่อสั้นๆ ไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1675 อาจมีแรงดีดกลับระยะสั้นขึ้นทดสอบแนวต้านกรอบบน downtrend บริเวณ 1687  โดยแนะนำจับตาแรงขายที่แนวต้านดังกล่าว หากยังมีแรงขายที่มาก แนะนำขายทำกำไรเพื่อเล่นรอบที่แนวต้านดังกล่าว และรอซื้อกลับเมื่อดัชนีอ่อนตัวอีกครั้ง
  • กรณีผิดคาด: หากดัชนีอ่อนตัวแรง แนะนำจับตาแนวรับ 1670 หากย่อหลุด แนะนำ wait and see
  • แนวรับเช้านี้: 1670/1675 แนวต้านเช้านี้: 1687/1700

 

- Advertisement -