บล.บัวหลวง: 

Agro & Food – ถั่วเหลือง: จับตาภัยแล้งในประเทศอาร์เจนติน่า ซึ่งจะกระทบแค่ระยะสั้น (NEUTRAL)

แม้ว่าภัยแล้งในประเทศอาร์เจนติน่าจะยังคงยืดเยื้อต่อเนื่อง จากปรากฏการณ์ลานีญ่าที่แตะจุดสูงสุดในช่วงไตรมาส 4/65 ถึงไตรมาส 1/66 แต่เรามองว่าเป็นแค่เพียงผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากปรากฏการณ์ลานีญ่าที่คาดว่าจะแตะจุดสูงสุดในไตรมาส 1/66 จะเปลี่ยนไปสู่ปรากฏการณ์เอลนีโญ่ที่แรงขึ้น (หมายถึงภาวะฝนที่จะตกมากขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาใต้) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ดังนั้นถั่วเหลืองจึงไม่น่าสนใจสําหรับการลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 เรายังคงคําแนะนํา “ถือ” หุ้น TVO สําหรับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับที่ดี

ภาวะภัยแล้งในอาร์เจนตินาที่ยังต่อยืดเยื้อต่อเนื่องในช่วงเดือนต.ค.-ม.ค. แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาบ้างก็ตาม

อากาศที่แห้งยังคงปกคลุมอย่างต่อเนื่อง สําหรับพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองหลักในประเทศอาร์เจนติน่า ได้แก่ รัฐซานตาเฟ รัฐอองเตรรีโอส และบริเวณทางตอนกลาง และตอนเหนือของรัฐกอร์โดบา ต่อเนื่องไปทางทิศตะวันออกจนถึง ประเทศอุรุกวัย ถึงแม้ว่าได้มีฝนตกในระดับเล็กน้อยจนถึงปานกลางในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคกลางของประเทศอาร์เจนติน่าในช่วงเดือนธ.ค.-ม.ค. ส่งผลให้คลายกาวะอากาศที่แห้งแล้งและร้อนจัดลงได้ระดับหนึ่งสำหรับธัญพืชและเมล็ด พืชน้ำมันที่เพิ่งปลูกใหม่ โดยในช่วงวันที่ 20-21 ม.ค. ที่ผ่านมา ฝนได้ตกลงมาเป็นบริเวณวงกว้างในปริมาณ 20-40 มิลลิเมตรในบางพื้นที่ที่ถือว่าแห้งแล้งที่สุดของประเทศอาร์เจนติน่า ส่งผลให้สภาพการปลูกถั่วเหลืองปรับตัวดีขึ้น โดยสภาพการปลูกในระดับที่ดีปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3% (16-20 ม.ค.) ไปเป็น 7% (23-27 ม.ค.) ในขณะที่สภาพการปลูกในระดับที่แย่ปรับตัวลดลงจาก 60% เหลือ 54%

ถึงแม้ว่าจะมีฝนตกลงมาบ้างในช่วงเดือนธ.ค.-ม.ค. แต่ฝนที่ตกลงมาถือว่าช้าเกินไปที่จะช่วยบรรเทาความเสียหายที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วสำหรับช่วงปลายฤดูเพาะปลูก ซึ่งอยู่ในช่วงของการเจริญเติบโตในสถานการณ์ที่ภัยแล้งทวีความ รุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ภัยแล้งยังได้ขยายวงกว้างไปทางรัฐทางตอนใต้ของประเทศบราซิล (ได้แก่ ทางตอนใต้ของรัฐมาตูโกรสซูโดซูล รัฐเซาเปาโล ต่อเนื่องไปยังจนรัฐรีโอกรันดีโดซูล) เราเชื่อว่าภาวะภัยแล้งในประเทศอาร์เจนติน่าเป็นผลโดยตรงจากปรากฏการณ์ลานีญ่าที่แตะระดับสูงสุดในไตรมาส 4/65 (โอกาสของการเกิดอยู่ที่ 95%) ก่อนที่จะลดลงในไตรมาส 1/66 (โอกาสของการเกิดอยู่ที่ 60%) และในไตรมาส 2/66-3/66 (โอกาสของการเกิดอยู่ที่ 10%) และ ณ วันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา ความคืบหน้าของการเพาะปลูกถั่วเหลืองเสร็จสิ้นไปแล้วอยู่ที่ 94% และ 98% ในประเทศอาร์เจนติน่าและบราซิล ตามลำดับ

ถั่วเหลืองไม่น่าลงทุน เนื่องจากโอกาสเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ่ที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566

เนื่องจากโอกาสของการเกิดปรากฏการณ์ลานีญ่าที่ลดลงจาก 60% ในไตรมาส 1/66 เหลือเพียงแค่ 10% ในช่วงไตรมาส 2/66-3/66 ในขณะที่โอกาสของการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ่ที่เพิ่มขึ้นจาก 0% ในไตรมาส 1/66 ไปเป็น 16% ในไตรมาส 2/66 และ 46% ในไตรมาส 3/66 เราจึงมองว่าถั่วเหลืองเป็นการลงทุนที่ไม่น่าสนใจสําหรับกลุ่มสินค้าเกษตรโภคภัณฑ์ในปี 2566/67 เนื่องจากการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนที่จะเพิ่มขึ้นในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ บราซิล และอาร์เจนติน่า ซึ่งจะหนุนผลผลิตถั่วเหลืองให้เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ต่อเนื่องจนถึงครึ่งแรกของปี 2567 ดังนั้น เราจึงมองว่าภัยแล้งในประเทศอาร์เจนติน่าเป็นเพียงแค่ผลกระทบระยะสั้นจนถึงระยะกลางเท่านั้น ซึ่งจะตามมาด้วยปริมาณน้ำฝนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566

รายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เดือนม.ค. เป็นลบเล็กน้อยจากสต็อกถั่วเหลืองโลกที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ในรายงาน “ประมาณการอุปทานและอุปสงค์ของสินค้าเกษตรโลก” เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตร สหรัฐฯ ได้ปรับลดผลผลิตถั่วเหลืองต่อพื้นที่ปลูกของสหรัฐฯ สำหรับปี 2565/66 ลงจาก 50.2 มาอยู่ที่ 49.5 บูเซล/เอเคอร์เพื่อสะท้อนภัยแล้งในรัฐเท็กซัส รัฐโอกลาโฮม่า และรัฐแคนซัส ส่งผลให้ผลผลิตถั่วเหลืองรวมของสหรัฐฯ ปรับลดลงอีก 70 ล้านบูเชล MoM (เหลือ 4.28 พันล้านบูเชล) และสต๊อกถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ปรับลดลง 10 ล้านบูเซล (เหลือ 210 ล้านบูเชล) แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ปรับผลผลิตถั่วเหลืองของบราซิลสําหรับปี 2565/66 เพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านตันขึ้นไปืทำสถิติใหม่สูงสุดที่ 153 ล้านตัน แต่ปรับผลผลิตถั่วเหลืองของอาร์เจนติน่าลดลงอีก 4 ล้านตัน (เหลือ 45.5 ล้านตัน) เพื่อสะท้อนความคาดหวังของผลผลิตต่อพื้นที่ปลูกที่ลดลงจากเดิม  สต๊อกถั่วเหลืองของบราซิลถูกปรับเพิ่มขึ้นอีก 1.8 ล้านตัน (ไปเป็น 33.5 ล้านต้น) แต่สต็อกถั่วเหลืองของประเทศอาร์เจนติน่าถูกปรับลดลงเพียงแค่ 0.05 ล้านตัน (เหลือ 23.5 ล้านตัน) ทั้งนี้กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ปรับสต็อกถั่วเหลืองโลกเพิ่มขึ้นอีก 0.8 ล้านตัน (ไปเป็น 103.5 ล้านตัน) เพื่อสะท้อนสต๊อกของประเทศบราซิลที่เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งกลบสต๊อกที่ลดลงของประเทศสหรัฐฯ อาร์เจนติน่า ปารากวัย และจีน ทั้งนี้เรามองรายงานในเดือนนี้ถือว่าเป็นลบเล็กน้อย เนื่องจากสต็อกโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

- Advertisement -