สรุปภาวะตลาด

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีอ่อนตัวลงในแดนลบ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค แรงขายมีมากในหุ้นกลุ่มค้าปลีก พลังงาน และขนส่ง โดยนักลงทุนติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) รวมถึงการประชุม ECB BOE ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,671.46 จุด -9.76 จุด -0.58% มูลค่าการซื้อขาย 82,296 ลบ.ต่างชาติ -2,894.50 ลบ. TFEX -42,655 สัญญา ตราสารหนี้ +500.26ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 368.95 จุด +1.09% หลังสหรัฐเปิดเผยต้นทุนแรงงานชะลอตัวลงใน 4Q65 ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะผ่อนคันเร่งในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 97 เซนต์ +1.25% ปิดที่ 78.87 ดอลลาร์/บาร์เรลได้แรงหนุนจากการอ่อนค่า ของดอลลาร์ รวมทั้งข้อมูลที่บ่งชี้ว่าความต้องการน้ำมันดิบในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ย.

+ จีนรายงานว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค. ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 50.1 จากระดับ 47 ในเดือนธ.ค. และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 49.8 ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค.ของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับ 54.4 จากระดับ 41.6 ในเดือนธ.ค. บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนเริ่มมีการขยายตัว

+ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกสำหรับปี 2566 แต่เตือนว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และกรณีรัสเซียรุกรานยูเครนยังมีแนวโน้มที่จะถ่วงกิจกรรมเศรษฐกิจต่อไป

+ ธปท. รายงานว่าเศรษฐกิจไทยในเดือน ธ.ค.65 ยังฟื้นตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยมีแรงส่งจากภาคบริการที่ ขยายตัวต่อเนื่อง ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้น โดยจํานวนนักท่องเที่ยวในปี 65 อยู่ที่ 11.15 ล้านคนสูงกว่าที่คาดไว้

ปัจจัยลบ-

– คณะทํางานของปธน.โจ ไบเดนกำลังพิจารณาตัดขาด หัวเว่ย เทคโนโลยีออกจากซัพพลายเออร์ของสหรัฐ ทั้งหมด รวมถึงอินเทล คอร์ป และควอลคอมม์ อิงค์ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐยกระดับการกวาดล้างภาคเทคโนโลยีของจีน

– การ์ทเนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยระดับโลกเปิดเผยคาดการณ์ว่า ยอดจัดส่งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) และโทรศัพท์มือถือทั่วโลกจะหดตัวลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันในปี 2566 ด้วยยอดส่งมอบมือถือที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี

– ผลสํารวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 107.1 ในเดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าทรงตัวที่ระดับ 109.0 ได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและภาวะ เศรษฐกิจถดถอย

– ครม.เห็นชอบอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 3 สาขา – อาชีพ 17 สาขา 465-715 บาท

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีวันน้ีมีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนต้นทุนแรงงานสหรัฐชะลอตัวลงใน 4Q65 ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันน้ี มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,665-1,680 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ช้อปดีมีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
  • จีนเปิดประเทศ+เราเท่ียวด้วยกันเฟส 5 : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
  • หุ้นโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากรายได้ปรับขึ้นตามค่า FT แต่ต้นทุนเร่ิมคงที่ : GPSC BGRIM RATCH
  • หุ้นยั่งยืนด้านพลังงานหมุนเวียน : EA TSE SSP SUPER PRIME
  • หุ้นได้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้า : EA GPSC BCP OR DELTA
  • หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
  • หุ้นเช่ือมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC

หุ้นรายงานพิเศษ

DTAC (Bloomberg Consensus 55.35 บาท) อยู่ระหว่างรอควบรวม

  • DTAC ผลประกอบการปี 2565 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 3,119 ล้านบาท ลดลง 7.1%YoY โดยกำไร 4Q65 เท่ากับ 901 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.6%QoQ และ 426.6%YoY เป็นผลมาจากผลกระทบเชิงบวก 110 ล้านบาท จากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์แบบครั้งเดียวประมาณ 430 ล้านบาท 4Q64 จำนวนผู้ใช้บริการภาพรวมยังคงเพิ่มขึ้น ณ สิ้นปี 2565 มีผู้ใช้บริการรวมอยู่ที่ 21.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านเลขหมายจากปีก่อน หรือ 8.2% แต่ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าระบบเติมเงินที่เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านเลขหมาย จากสิ้นปีก่อน มาอยู่ที่ 15.1 ล้านเลขหมาย แต่ลูกค้าระบบรายเดือนลดลง 85,000 เลขหมาย จากสินปีก่อน
  • คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 1.22 บาท โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 และด้วยความคาดหมายว่าการควบรวมกิจการจะเสร็จสิ้นใน 1Q66 ฝ่ายบริหารของ DTAC จีงงดให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวโน้มสำหรับปี 2566
  • ความเห็น : DTAC ได้แสดงความประสงค์ที่จะเป็นผู้รับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่ลงคะแนนเสียงไม่เห็นด้วยกับการควบรวมบริษัท ที่ราคา 50.50 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทจะดำเนินการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม-9 กุมภาพันธ์ 2566 ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขการรับซื้อหุ้นที่กำหนด เราแนะนำ “ถือ” เพื่อ SWAP เป็นบริษัทใหม่ โดย 1 หุ้นเดิมใน DTAC ต่อ 24.53775 หุ้นในบริษัทใหม่

หุ้นมีข่าว

(+) NEX (Bloomberg consensus 24.00 บาท) ได้เต็ม ครม.สั่งเปลี่ยนรถร่วมเป็นบัสอีวี ปีนี้ส่งมอบอีกเพียบ ไม่ต่ำ 2 พันคัน แย้มทัวร์จีนจะดันดีมานด์รถบัส บขส.เล็งออกทีโออาร์ ขณะที่เอกชนต้องเปลี่ยนรถรับส่งพนักงาน ลุยต่อยอดรถบรรทุกไฟฟ้าขยายจุดขาย 15 แห่ง ปีนี้หวังปีละ 5 พันคัน พร้อมเปิดตัวปิกอัพมีนาคมนี้ มั่นใจฮือฮาบรรทุกหนัก ลั่นปีนี้โตโดดเด่น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JKN (Bloomberg consensus 5.28 บาท) “จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ออกโรงเคลียร์ชัดฐานะการเงินแกร่ง แข็งปึ๊ก-เพิ่มทุนนำเงินต่อยอดธุรกิจระยะยาว แถมจ่อออกหุ้นกู้ชุดใหม่ หวังรีไฟแนนซ์ ของเดิม 1.2 พันล้านบาท เชื่อสรุปได้ไตรมาส 1 นี้ แถมเล็งเป็นบริษัทย่อย กลุ่มอาหารเข้าตลาด mai ปีหน้า พร้อมปักธงปี 2566 รายได้ราว 3.9 พันล้านบาท บุ๊กค่าลิขสิทธิ์ MUO ก้อนโต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) LEO (Bloomberg consensus 13.50 บาท) เดินเกมรุกก้าวสู่โกรทสต๊อก ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ด้วยแผน 365 Degree Collaboration พร้อมเร่งปิดดีล JV และ M&A ทั้งในและต่างประเทศ หนุนโตก้าวกระโดด เล็งตั้งบริษัทขนส่งกรีนโลจิสติกส์ ปักหมุด 3 ปีโกยรายได้ กล6jมธุรกิจใหม่ทั้งหมด 500-600 ล้านบาท พร้อมเล็งย้ายเข้า SET ภายในปี 2567 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DEMCO (Bloomberg consensus – บาท) ตุนแบ็กล็อกแน่น 2,786 ล้านบาท จ่อยื่นประมูลงานใหม่ มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท และงาน MEIT กล6jมงานปิโตรเคมี ลุยประมูล 4 โครงการพลังงานหมุนเวียนภาครัฐ กำลังการผลิต 173 เมกะวัตต์ เตรียมทุ่มงบลงทุน 50 ล้านบาท รับแผนบุกตลาดโซลาร์รูฟ เป้ากำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 6 ก.พ. กระทรวงพาณิชย์ รายงาน CPI เดือนม.ค.

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 31 ม.ค. – 1 ก.พ. กำหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
  • 1 ก.พ. การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) คาดว่า ที่ประชุมจะมีมติให้โอเปกพลัสคงนโยบายปัจจุบัน ในการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันไป จนถึงสิ้นปี 2566
    • อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล อัตราว่างงานเดือนธ.ค.
    • สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ม.ค.จาก ADP ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากเอสแอนด์ พี โกลบอล ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนธ.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
- Advertisement -