KS Daily View 01.02.2023 > รอผลประชุมและถ้อยแถลง Fed คืนนี้ ในไทยติดตามรายงานงบ 4Q22/ Outlook ปี 2023 SET คาดแกว่งในกรอบ 1,666-1,680 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ PSL, BCPG
สรุปตลาดหุ้นเมื่อวาน
ในประเทศ SET Index ปิด 1671.46 จุด (-0.6%) โดยหุ้นที่ปรับลงและกดดัชนีคือ BANPU -3.3%, CPALL -3.2%, SCB -3.26%, SCC-2.33%ฯลฯ ในทางตรงข้ามหุ้นที่ปรับขึ้นและหนุนดัชนีคือ KCE+9.9%, SIRI +7.7%, CHG +5.3% ฯลฯ
ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐ Rebound และปรับขึ้นแรงหลังสหรัฐรายงาน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน คือ ต้นทุนแรงงานชะลอ ฯลฯ อิง ดัชนี Dow Jones 1.09%, S&P500 1.46%, Nasdaq 1.67% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ของสหรัฐปรับขึ้นทุกกลุ่ม โดยกลุ่มที่ Ourperform คือ Materials +2.23%, Consumer Discretionary +2.2%, Real Estate +1.88%, Industrials +1.71% ฯลฯ ส่วน Sector ที่ Underperform คือ กลุ่ม Utilities 0.71%, Energy 0.89%, Consumer Staples 1.08% ฯลฯ
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้
เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในสัปดาห์นี้ประเมินแนวต้าน 1691 และ 1705 จุด ส่วนแนวรับสำคัญประเมิน 1666 จุด แนะนำทยอยสะสมหุ้น โดยสัปดาห์นี้ปัจจัยที่กำหนด SET Index ในส่วนของภาพใหญ่ คือ
1.) เรื่องการประชุม Fed และถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell โดยครั้งนี้ตลาดคาดว่าจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ย 25bps. เป็น 4.50%-4.75% ซึ่งต้องจับตาดูว่าจะมีการส่งสัญญาณเรื่องทิศทางดอกเบี้ยในช่วงที่เหลืออย่างไร หากเฟดส่งสัญญาณหยุดขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ5%+/- อาจมีแรงเก็งกำไรในกลุ่ม Growth หรือกลุ่มที่ sensitive กับดอกเบี้ย ได้แก่ Tech, Electronics, Utilities, Finance, Small-Mid caps เป็นต้น
2.) ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีผลต่อตลาดทุน อาทิ เช้านี้ตัวเลข Caixin Manufacturing PMI ของจีนเดือน ม.ค. คาด 49.5 จุด (+1% MoM) และ ตัวเลข Non Farm Payrolls ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. คาด 185K (-17% MoM) ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. คาด 3.6% (สูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.5%) ส่วนภาพในประเทศ Key หลักๆ คือ การรายงบผลประกอบการกำไรไตร 4Q22 จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดหุ้นปี 2023 จะเป็นหัวใจกำหนดทิศทางตลาดหุ้น หลังมุมมอง ศก.มหภาคชัดเจน และช่วงนี้เป็นช่วงทยอยการประกาศงบซึ่งจะทยอยประกาศตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. และจะทยอยประกาศหลักคือตั้งแต่ช่วง 10 ก.พ. เป็นต้นไป
เราแนะนำหุ้น 2 กลุ่มที่เก็งกำไรเรื่องผลประกอบการ คือ
1.) หุ้นที่มีกำไรเติบโตแข็งแกร่งในงวด 4Q22 QoQ และ YoY และกำไรปี 2566 เติบโตมากกว่า 15% ได้แก่ SNNP, ZEN, BJC, BE8, KLINIQ, SHR, PLANB
2.) หุ้นที่น่าจะรายงานกำไรไตรมาส 4/2565 อ่อนแอ แต่คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง QoQ ในไตรมาส 1/2566 และซื้อขายในราคาที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต โดยมี upside น่าสนใจราคาเป้าหมาย BGRIM, GPSC, PTG, OR, PTTGC, IVL ,KTC
Theme หุ้นแนะนำลงทุน ระยะสั้น แนะนำ
1.) หุ้นกลุ่ม Growth,กลุ่ม Tech Consult อาทิ BE8, BBIK, IIG. กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ HANA จะมีปัจจัยหนุนเชิงบวกตามหุ้น Tech ต่างประเทศ เห็นจากดัชนี Nasdaq +1.67% เมื่อวาน
2.) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินที่ปรับลงแรง คือ SCGP อิง Newcastle -5.1% อยู่ที่ 251.7 เหรียญต่อตัน คาดจะเห็นกระแสเก็งกำไร
3.) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล อาทิ การปรับขึ้นค่าแรง เมื่อวาน ครม. ขึ้นค่าแรงปรับขึ้นตามมาตรฐานฝีมือ 17 สาขาสูงสุด 715 บาท/วัน มองเป็นวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก อาทิ BJC, MAKRO, CPALL และกลุ่มการเงิน อาทิ AEONTS
ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังแกว่งในกรอบ 1666-1680 จุด หุ้นแนะนำ PSL, BCPG
Top pick
PSL (ราคาพื้นฐาน 19.2 บาท) ปัจจัยหนุนราคาหุ้นมาจาก
1) การเปิดประเทศจีน
2) อุปทานที่ตึงตังจากยอด orderbook ต่อเรือที่อยู่ระดับต่ำและความเร็วในการเดินเรือที่ลดลงจากหลักเกณฑ์ EEXI ที่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566 เป็นต้นไปและ 3)ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่คาดมีโอกาสสงบศึกในปี 2566-67 ซึ่งคาดจะส่งผลให้อุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้นเพื่อจะช่วยให้ยูเครนสร้างประเทศขึ้นมาใหม่หลังได้รับความเสียหายจากสงคราม
BCPG (ราคาพื้นฐาน 15.8 บาท) วันนี้เราออกบทวิเคราะห์และแนะนำซื้อ และเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ขึ้น 2.6% จาก 15.4 บาท เป็น 15.8 บาท ราคาหุ้นยังเปิด Upside จากราคาเป้าหมายราว 60.4% เนื่องจากเรารวมดีลซื้อ the Asia Link Terminal ในประมาณการของเรา เราเชื่อว่าราคาหุ้นขณะนี้สะท้อนผลกระทบจาก adder ที่หมดอายุและการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 714.1 MWe ระหว่างปี 2566-68 จะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มการเติบโตในระยะยาวให้กับบริษัทฯ จากสถานะการเงินที่แข็งแกร่งด้วยสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ 0.93 เท่า เทียบกับ financial covenant ที่ 3 เท่า
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพุธ ติดตามตัวเลข Caixin Manufacturing PMI เดือน ม.ค. คาด 49.5 จุด (+1% MoM) ตัวเลข Inflation rate ของยูโรโซนเดือน ม.ค. คาด +0% MoM และ +9.1% YoY ตัวเลขอัตราการว่างงานของยูโรโซนเดือน ม.ค. คาด 6.5% (ทรงตัว MoM) ตัวเลข ISM Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. คาด 48 จุด (-0.8% MoM) ตัวเลขตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร (JOLTs Jobs Openings) เดือน ธ.ค. คาด 10.2mn (-2.5% MoM) ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ การประชุม OPEC+ คาดคงนโยบายการผลิตตามเดิม การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25bps. เป็น 4.50%-4.75% และถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell
- วันพฤหัสฯ ติดตาม การประชุมธนาคารกลางอังกฤษคาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 50bps. เป็น 4% การประชุมธนาคารกลางยุโรปคาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย Deposit Facility rate 50bps. เป็น 2.5% ถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde ตัวเลข Factory Orders ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +2.3% MoM
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลข Caixin Service PMI ของจีนเดือน ม.ค. คาด 52 จุด (+8.3% MoM) ตัวเลข ISM Non-manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. คาด 50.3 จุด (+1.4% MoM) ตัวเลข Non Farm Payrolls ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. คาด 185K (-17% MoM) ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. คาด 3.6% (สูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.5%) และตัวเลขอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. คาด +0.3% MoM และ +4.3% YoY