คืนนี้ติดตามผลประชุม Fed
กรอบ SET INDEX 1672-1680
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือนธ.ค. พบว่าฟื้นตัวต่อเนื่องจากเดือนพ.ย. แม้จะมีแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง แต่มีแรงส่งจากภาคบริการที่ขยายตัวต่อเนื่องตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นสำคัญ ซึ่งสนับสนุนให้เครื่องชี้การบริโภคปรับดีขึ้น ส่วนมูลค่าส่งออกหดตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการอ่อนแรงของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยดุลบัญชีเดินสะพัดพลิกกลับมาเป็นบวกราว 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลักๆ ได้แรงหนุนจากดุลบริการที่เป็นบวก 0.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มองกลุ่มได้ประโยชน์ อาทิ กลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, HMPRO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA) ขณะที่เมื่อคืนสหรัฐฯ รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ 107 ต่ำกว่าตลาดประเมินไว้ที่ 109 ขณะที่ถ้อยแถลงด้านในทาง CB ระบุว่าผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้าและมีทัศนคติเชิงลบมากขึ้น เกี่ยวกับการหางานและยังคาดว่าสภาพธุรกิจจะแย่ลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ พร้อมส่งสัญญาณว่าแผนซื้อบ้านใหม่เริ่มลดน้อยลง ภาวะข้างต้นกำลังสะท้อนถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณอ่อนแรงลงช่วงถัดไป ส่วนคืนนี้ติดตามผลประชุมธนาคารกลางสรัฐฯ (Fed) ทราบผลทางการช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย CME Fed Watch ประเมินไว้ว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เชื่อว่าเรื่องของดอกเบี้ยจะเป็นไปตามที่ตลาดประเมินไว้ แต่แนะติดตามถ้อยแถลงรวมถึงปลายทางของดอกเบี้ยว่าจะสิ้นสุดเท่าใด และความเห็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หากส่งสัญญาณเข้มงวดกว่าตลาดประเมินไว้จะส่งผลให้ตลาดปรับฐานได้
วันนี้ประเมิน SET INDEX ฟื้นตัวในกรอบ 1672–1680 หลังจากปรับฐานลงมาวานนี้ราว 0.6% ประกอบกับตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นอย่างไรก็ตามยังเชื่อว่า Upside จํากัด
เชิงกลยุทธ์การลงทุน จังหวะปรับขึ้นยังมองเป็นโอกาสลดพอร์ตมากกว่า ระยะถัดไปยังเสี่ยงกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการปรับลดประมาณการ หุ้นแนะนำยังชอบกลุ่ม Defensive Stock อาทิ กลุ่มโรงพยาบาล (BCH, BDMS, CHG) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, INTUCH) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF, RATCH) รวมไปถึงกลุ่ม Domestic อย่างกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, HMPRO) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) สื่อนอกบ้าน (PLANB) กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, KTB, SCB)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
MAJOR ราคาพื้นฐาน 21.40 บาท
ปี 2023 คาดว่าตารางภาพยนตร์จะน่าตื่นเต้นมากกว่า ปี 2022 และ 2021 เพราะเป็นภาพยนตร์ทำเงินภาคต่อ เป็นส่วนมากที่มักดึงดูดผู้ชมได้เป็นอย่างดี
KTB ราคาพื้นฐาน 20.80 บาท
คาดกำไรสุทธิโต 9% ในปี 2023-24 หลังโตอย่างแข็งแกร่งไปแล้ว 56% ในปี 2022 โดยจะมีแรงหนุนจาก NII และรายได้ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น
