บล.กรุงศรีฯ:

BANGKOK CHAIN HOSPITAL (BCH TB/ BCH.BK)

BCH – สร้างโรงพยาบาลใหม่ (TP Bt26.0, BUY)
กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์
หุ้นBCH
มูลค่าพื้นฐาน26.00
คำแนะนำBUY

BCH ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทให้ซื้อที่ดินในจังหวัดสมุทรปราการเพื่อสร้างโรงพยาบาลเกษมราษฎร์สุวรรณภูมิ (268 เตียง) มูลค่า 1.6 พันล้านบาท จะเปิดบริการในปี 2026 โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนห้าปีของบริษัทที่จะสร้างโรงพยาบาลห้าแห่ง และเพิ่มโควตาผู้ป่วยประกันสังคมเป็น 1.8 ล้านราย จาก 1.5 ล้านรายปัจจุบัน  BCH จะไม่มีปัญหาเรื่องเงินทุนเนื่องจากงบดุลแข็งแกร่ง เราเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็น S curve ใหม่ของ BCH ซึ่งแม้ว่าโครงการนี้จะมีผลขาดทุนในปีแรก ๆ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะเป็นห่วงในประเด็นนั้น เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

ซื้อที่ดินเพื่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่

คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ BCH ซื้อที่ดิน 25 ไร่ในอำเภอบางเสาธงในราคา 350 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ ภายใต้แบรนด์ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ (KHS) โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2024 และจะเปิดบริการในปี 2026

ความเห็น:

  1. โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนห้าปีของบริษัทที่จะสร้างโรงพยาบาลห้าแห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมะเร็งที่แจ้งวัฒนะ (เปิดบริการภายใน 4Q23) และ KHS (268 เตียง)   BCH จะเข้าร่วมประมูลโครงการพัฒนาและบริหารโรงพยาบาลปลวกแดง 2  ซึ่ง CHG จะเข้าร่วมประมูลด้วย คาดว่าจะประกาศชนะประมูลภายในกลางปี 2023
  2. KHS ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง BCH จะจับกลุ่มผู้ป่วยทั้งประเภทที่ชำระเงินสด และใช้สิทธิ์ประกันสังคม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนแผนของบริษัทที่จะเพิ่มโควตาประกันสังคมจากปัจจุบันที่ 1.5 ล้านราย เป็น 1.8 ล้านราย ทั้งนี้ มีการประเมินว่าสมาชิกประกันสังคมในจังหวัดสมุทรปราการมีจำนวน 881,000 ราย คู่แข่งหลักในพื้นที่ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์เนชั่นแนล, จุฬารัตน์ 5 , Princ สุวรรณภูมิ, ศิครินทร์, บางนา 2, บางบ่อ, รวมชัยประชารักษ์
  3. การดำเนินการนี้ยืนยันมุมมองว่า BCH จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในภาคตะวันออก  ซึ่งนอกจาก BCH แล้ว ยังมี BDMS, CHG และ THG มีแผนจะเปิดโรงพยาบาลใหม่ในพื้นที่ EEC ด้วย  เราเชื่อว่าการแข่งขันจะมากขึ้นในภาคตะวันออก แต่อุปสงค์ก็เติบโตเนื่องจากสมุทรปราการเป็นเมืองที่จะรองรับการเติบโตของกรุงเทพฯ ซึ่ง CHG มีส่วนแบ่งตลาดสูงในปัจจุบัน
  4. โครงการนี้มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 1.6 พันล้านบาท (ซึ่ง 350 ล้านบาทเป็นค่าที่ดินและ 1.25 พันล้านบาทค่าก่อสร้างและอุปกรณ์) BCH มีเงินสด 2.4 พันล้านบาท และสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน ณ 3Q22 เพียง 0.3x เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีลูกหนี้การค้าและรายได้ค้างรับรวม 6.7 พันล้านบาท (ส่วนใหญ่จาก SSO และ UCEP) หากรวมส่วนนี้แล้วจะทำให้บริษัทมีเงินสดสุทธิรวม 3.1 พันล้านบาท

เราคาด KHS จะมีผลขาดทุนในช่วงสามปีแรก แต่จะเป็น S curve ใหม่ของบริษัทในระยะยาว

- Advertisement -