H2/64 แนวโน้มสวย หนุนยอดขายทั้งปีทำได้ตามแผนโต 15%
SGP ประกาศผลงานครึ่งปีแรก ฟอร์มสวย ทำรายได้ 35,468.80 ล้านบาท มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 1,496.06 ล้านบาท เติบโต 206.9 % จากราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในต่างประเทศปรับตัวขาขึ้น ล่าสุดบริษัทฯยังคงเป้ายอดขายปี 2564 ไว้ที่ระดับ 3.73 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน ช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจ ยอดขายในตลาดต่างประเทศยังไปได้สวย ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.20 บาท/หุ้น ตอกย้ำการเป็นหุ้นจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่าผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2564 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 1,496.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,008.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 206.9% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 487.43 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 35,468.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,516.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26.89% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 27,952.43 ล้านบาท โดยมียอดขายเท่ากับ 1.63 ล้านตัน
“ผลงานครึ่งปีแรกของปี 64 มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายในตลาดต่างประเทศยังไปได้ดี และเติบโตขึ้นราว 1.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับยอดขายในประเทศได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดที่กลับมาระบาดรอบใหม่ ส่งผลการใช้แก๊สแอลพีจีปรับตัวลดลงลงไปราว 3.6% โดยสัดส่วนการขายในต่างประเทศคิดเป็นร้อยละ 76.4 และในประเทศคิดเป็นร้อยละ 24.6 ตามลำดับ ถึงแม้ในช่วง 6 เดือนแรกยอดขายจะเติบโตขึ้นจากปีก่อน แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้อยู่ราว 6.3% แต่มองว่าจะเร่งฟื้นตัวในครึ่งปีหลังได้ จากปริมาณขายที่จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจก๊าซ LPG และคาดผลงานจะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นางจินตณา กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.20 บาท โดยบริษัทฯกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาล (Record Date) ในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2564
อย่างไรก็ดี ในปี 2564 บริษัทประเมินว่ายอดขาย LPG คงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 3.73 ล้านตัน หรือเติบโต 15% จากปีก่อน ที่มียอดขาย 3.24 ล้านตัน เนื่องจากทิศทางออเดอร์โดยเฉพาะในต่างประเทศ อาทิ จีน เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ ยังขยายตัวได้ดี ประกอบกับราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกในช่วง 2 เดือนของไตรมาสที่ 3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 130 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยราคาก๊าซ LPG ในเดือนสิงหาคม เฉลี่ยอยู่ที่ 657.50 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยคาดว่ายอดขายในส่วนต่างๆ จะขยับสูงขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เพราะได้รับผลบวกจากการวัคซีนป้องกันโควิด 19 ที่เริ่มฉีดแล้วในหลายประเทศ ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจก๊าซ LPG ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นผลดีต่อบริษัทแทบทั้งสิ้น
ขณะที่แผนโครงการการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษา 2-3 แห่ง โดยยังเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานที่เรามีความเชี่ยวชาญ และสามารถส่งเสริมหรือต่อยอดธุรกิจพลังงานในปัจจุบันของบริษัทได้ ซึ่งต้องเดินทางไปดูถึงจะประเมินแผนการลงทุนได้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปีหน้า