NTSC หุ้นนวัตกรรมอาหารน้องใหม่ป้ายแดง ประกาศปิดจองซื้อหุ้น IPO 25 ล้านหุ้น ขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่วันแรก ทำเอาผู้บริหารปลื้มปริ่ม ขอขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในธุรกิจที่มีเส้นทางการเติบโตมากว่า 4 ทศวรรษ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยในอุตสาหกรรมอาหารคนและอาหารสัตว์ พร้อมเดินหน้าโตแบบยั่งยืน รับเทรนด์ Future Food ปักธงเข้าซื้อขายวันแรกใน mai 9 ก.พ.นี้
นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า ในช่วงจองซื้อหุ้น IPO ของ NTSC ระหว่างวันที่ 1 – 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาเต็มจำนวนตั้งแต่วันแรก สะท้อนความเชื่อมั่นในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจวัตถุเจือปนอาหารคนและอาหารสัตว์รายใหญ่ของประเทศ มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับในวงการอุตสาหกรรมอาหารมายาวนานกว่า
4 ทศวรรษ ขณะที่ ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาเติบโตอย่างมั่นคง แม้ภายใต้สถานการณ์วิกฤตโควิด และสงครามรัสเซีย-ยูเครน บริษัทฯ ยังคงความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นในระดับที่ดี เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 23% ในช่วงปี 2563 ถึง 9 เดือนแรกของปี 2565
รวมถึง การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ (IPO) จำนวน 25,000,000 หุ้น ไว้ที่ราคาหุ้นละ 26.25 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ประมาณ 22 เท่า ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม จึงมั่นใจว่า NTSC จะได้รับการตอบรับที่ดีในโอกาสเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ในหมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร
ดร.พัชร์ เอกปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด (มหาชน) หรือ NTSC กล่าวว่า ขอขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพและการเติบโตของ NTSC ทำให้การจองซื้อหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ และสามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายที่บริษัทฯ วางไว้ โดยหลังจากนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 628.2ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง)
ใช้สำหรับลงทุนโครงการในอนาคต ประกอบด้วย
โครงการผลิตสารกระตุ้นความน่ากินในสัตว์เลี้ยง (Palatability Enhancer Project) ซึ่งมีผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ IRR 30.5% และโครงการลงทุนเครื่องจักรสำหรับการผลิตสินค้า OEM และสินค้าประเภท Food preparation ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ IRR 35.6% รวมทั้ง นำเงินไปใช้ชำระหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ เพื่อรองรับโอกาสใหม่ๆ และการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ มุ่งมั่นขยายธุรกิจแบบมีนวัตกรรมและสร้างสรรค์ โดยใช้จุดเด่นด้านประสบการณ์และความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหาร ความเชี่ยวชาญของบุคลากร พันธมิตรทางธุรกิจ และความแข็งแกร่งด้านการเงินของกลุ่มบริษัท รับเทรนด์ Future Food อีกทั้ง เจาะกลุ่มตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งประเทศไทยส่งออกเป็น Top5 ของโลก