บล.บัวหลวง:

System Integrator – ไตรมาส 4/65 เป็นไตรมาสที่กำไรดีที่สุดของปี (OVERWEIGHT)

ไตรมาส 4/65 จะเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดของปี เราชอบ MFEC มากที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากบริษัทจะรายงานการเติบโตของกำไรทั้ง YoY และ QoQ และจะไม่เผชิญกับ dilution

ไตรมาส 4/65 เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี

โดยปกติไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่กำาไรสุงสุดของกลุ่มวางระบบฯ โดยในไตรมาส 4/65 เราคาดการณ์กำไรหลักสําหรับ MFEC จะอยู่ที่ 109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 107% QoQ เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะรับรู้รายได้จากโครงการมากในไตรมาส 4 นอกจากนี้ ปัญหาการขาดแคลนชิป (ซึ่งส่งผลให้เกิดความล่าช้าในไตรมาส 3/65) จะคลี่คลายลงในไตรมาส 4/65 สําหรับ ITEL เราคาดทําไรหลักที่ 84 ล้านบาท ลดลง 10% YoY แต่เพิ่มขึ้น 57% QoQ คาดการณ์การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง QoQ หนุนโดยโครงการ 2 โครงการ ของ กฟผ. ที่ดำเนินการโดย Blue Solutions มูลค่า 317 ล้านบาท งานในมือของ ITEL ณ สิ้นเดือนก.ย. 2565 ซึ่งจะรับรู้ในไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 439 ล้านบาท ในขณะที่งานในมือของ Blue Solutions อยู่ที่ 259 ล้านบาท งานในมือรวมของ ITEL และ Blue Solutions ณ สิ้นเดือนก.ย. คิดเป็น 93% ของประมาณการรายได้ในไตรมาส 4/65 ของเราสําหรับธุรกิจงานวางระบบจ.

ประมาณการ AIT ของเราชี้ไปที่กำไรหลักที่ลดลง 8% YoY (ฐานที่สูงในไตรมาส 4/64 เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัวที่ 26%) แต่การเติบโต QoQ ที่ 39% (มูลค่ายุติธรรมของสัดส่วนการถือหุ้นใน Campana Co Ltd ใน ไตรมาส 3/65 เป็นรายการเพียงครั้งเดียว)

คาดการเติบโตในปี 2566

เราคาดกําไรหลักในปี 2566 ของ ITEL ที่ 314 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY หนุนโดยโครงการใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง (ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ 3,500 ล้านบาท และกําไรสุทธิ 320 ล้านบาท) โครงการ e-Budgeting วงเงิน 636.5 ล้านบาท อยู่ในมือแต่ไม่มีข่าวเรื่องเรื่องการประมูลโครงการของ กสทช. ที่ล่าช้า งานในมือของ ITEL และ Blue Solutions คิดเป็น 30% ของประมาณการรายได้สําหรับธุรกิจงานวางระบบฯ ในปี 2566 ของเรา ส่วน AIT เราประมาณการกำไรหลักที่ 654 ล้านบาทในปี 2566 เพิ่มขึ้น 10% YoY หนุนโดยโครงการหน่วยงานของรัฐที่สนับสนุน digitization บริษัทเพิ่งเริ่มเฟสที่ 3 ของโครงการ Digital Society มูลค่า 260 ล้านบาทสำหรับกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม และจากการเริ่มใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ปี 2562 AIT กำลังทำระบบของรัฐที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ (สัญญามูลค่า 205 ล้านบาท)

เข้าสู่ยุคใหม่สําหรับ MFEC

ประมาณการของเราบ่งชี้ไปที่กำไรหลัก MFEC ในปี 2566 ที่ 318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY หนุนโดยการเติบโตของธุรกิจคลาวด์และรายได้ประจำบริษัทจะรายงานกําไรจากการขาย Vulcan Digital Delivery Co Ltd (VDD) ให้กับ Bluebik Group Plc (BBIK) ในงบกำไรขาดทุนไตรมาส 1/66 ดังนั้นเราคาดกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด YoY ในปี 2023 ที่ 45-60%

VDD เป็นธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์และบริการ high-code (สั่งทำ) การขาย VDD เป็นการเปลี่ยนไปสู่ผลิตภัณฑ์ low-code หรือ no-code ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลอย่างไร ดังนั้นประมาณการกำไรหลักในปี 2566 ของเราจึงไม่เปลี่ยนแปลง หากบริษัทแทนที่รายได้จาก VDD ไม่ได้ ในปี 2566 การเติบโตของกำไรหลักอาจชะลอตัวจาก 17.6% มาอยู่ที่ 8.7%

MFEC จะได้รับเงินสด 641 ล้านบาทจากการขาย VDD ซึ่งลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเพียง 5% ก็ชดเชยผลตอบแทนจาก VDD ได้แล้ว ธุรกิจใหม่ๆ จะเกี่ยวกับ ESG เช่น การตรวจวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์และการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับเกษตรกร นอกจากนี้ MFEC ยังวางแผนที่จะเปิดตัวกองทุนที่จะลงทุนในสตาร์ทอัพ ด้วยการสนับสนุนทั้งทางด้านการเงินและบุคลากร

- Advertisement -