บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action TRADING (Downgrade)

TP upside (downside) +23.4%

Close Feb 3, 2023 Price (THB) 16.20

12M Target (THB) 20.00

Previous Target (THB) 21.50

What’s new?

  • คาด BAM จะมีกำไรสุทธิ 4Q65 จำนวน 880 ลบ. โต 22.9%QoQ เพราะเป็น High Season แต่ลดลง 10.8%YoY จากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่ลดลง หลังต้นทุนทางการเงินปรับตัวขึ้น รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้น นอกจากนี้ คาดรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง หลังการขาย NPA  ลดลงจากปีก่อน
  • ปี 2566 คาด BAM จะมีกำไรสุทธิ 3,079 ลบ. โต 12.4% YoY หลังรายได้จากกลุ่มลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้สูงขึ้น และทำตลาด NPA ผ่านช่องทาง Online และ Offline มากขึ้น

Our view

  • มองราคาหุ้นช่วงสั้นจะถูกกดดันจากกำไรสุทธิใน 4Q65 ที่ไม่โต YOY ดังที่ตลาดคาดหวัง ประกอบกับ 1Q66 เป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ นอกจากนี้ BAM ยังไม่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการใหม่ๆ ของธุรกิจที่มีนัยสำคัญที่จะทำให้ศักยภาพทำกำไรดีขึ้นจากในอดีต ดังนั้นแม้ราคาหุ้นจะมี Upside 23.4% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2566 ที่ 20 บาท (อิง PBV ที่ 1.4x ลดลงจากเดิมที่ 1.6x) แต่เราลดคำแนะนำลง จาก ซื้อ เป็น Trading จนกว่าจะเห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น

BANGKOK ASSET MANAGEMENT หุ้นขาด Catalyst ลดคำแนะนำเหลือ Trading 

คาดกำไรสุทธิ 4Q65 โต QoQ เพราะเป็น High Season แต่ลดลง YoY

เราคาด BAM จะมีกำไรสุทธิใน 4Q65 จำนวน 880 ลบ. โต 22.9%QoQ เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจที่จะมีการเร่งเจรจาเพื่อชำระหนี้ NPL และปิดการขาย NPA มากกว่าปกติ แต่ลดลง 10.8%YoY แย่กว่าประมาณการเดิมของเรา แม้คาดการตั้งสำรองจะลดลง 14.3%YoY หลังทิศทางเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว แต่ไม่เพียงพอจะชดเชยปัจจัยลบจาก 1) รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิคาดลดลง 7.2%YoY เนื่องจากผลบวกจากการชำระเงินคืนของลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ที่ดีขึ้น และจำนวนลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ที่เพิ่มขึ้น ถูกหักล้างด้วยดอกเบี้ยจ่ายที่ปรับตัวขึ้น หลังคาด Cost of Fund จะสูงขึ้นเป็น 3.4% จาก 3.1% ใน 4Q64 2) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดปรับขึ้น 3.4%YoY จากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าใช้จ่ายการตลาดที่สูงขึ้น และ 3) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยคาดลดลง 1.2%YoY หลังมีการปิดการขาย NPA ได้น้อยลง บวกกับบริษัทปรับกลยุทธ์เน้นการขาย NPA ขนาดเล็กแบบผ่อนชำระมากขึ้น ทำให้การรับรู้กำไรจากขายช้ากว่าการขายแบบปกติ ส่งผลให้เราคาด BAM จะมีกำไรสุทธิปี 2565 จำนวน 2,739 ลบ. โต 5.4%YoY

ปรับลดประมาณการกำไรสะท้อนกำไร 4Q65 ที่แย่กว่าคาด

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของ BAM ในปี 2565 และ 2566 ลง 8% และ 6.2% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนผลดำเนินงาน 4Q65 ที่อ่อนแอกว่าคาด หลังการขาย NPA ขนาดกลาง/ใหญ่เริ่มน้อยลง โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาด BAM จะมีกำไรสุทธิในปี 2566 ที่ 3,079 ลบ. โต 12.4%YoY มีปัจจัยหนุนหลักจากรายได้ดอกเบี้ยรับจากลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้จะปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ สอดรับกับภาพรวมของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และบริษัทมีนโยบายเร่งสนับสนุนให้ลูกหนี้เข้ามาขอปรับโครงสร้างหนี้เพื่อสร้างกระแสเงินสด ส่วนการขาย NPA บริษัทมีแผนทำกิจกรรมทางการตลาดเชิงรุกทั้งช่องทาง Online และ Offline รวมถึงเน้นขาย NPA ขนาดเล็กให้กับลูกค้ารายย่อยเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ

ยังไม่เห็นพัฒนาการใหม่ๆ ปรับลดค่าแนะนำเป็น “Trading”

มองราคาหุ้นช่วงสั้นจะถูกกดดันจากกำไรสุทธิใน 4Q65 ที่ไม่โต YoY ดังที่ตลาดคาดหวัง ประกอบกับ 1Q66 เป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ นอกจากนี้ BAM ยังไม่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการใหม่ๆ ของธุรกิจที่มีนัยสำคัญ เช่น JVAMC กับสถาบันการเงิน หรือธุรกิจบริหารหนี้ไม่มีหลักประกัน (หนี้ส่วนที่เหลือจากพอร์ตหนี้เสียของบริษัท) ที่จะทำให้ศักยภาพทำกำไรดีขึ้นจากในอดีต ขณะที่ปี 2566 ซึ่งบริษัทจะประมูลพอร์ตหนี้เสียกองใหม่เข้ามามากขึ้น แต่คาดต้องใช้เวลาเพื่อโอนสิทธิและติดต่อลูกหนี้นาน 1-2 ปี ทำให้การรับรู้รายได้และกำไรค่อนข้างช้า แตกต่างจากบริษัท AMC ที่เน้นบริหารหนี้เสียแบบไม่มีหลักประกันอย่าง CHAYO และ JMT ดังนั้นแม้ราคาหุ้นจะมี Upside 23.4% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2566 ที่ 20 บาท (อิง PBV ที่ 1.4x ลดลงจากเดิมที่ 1.6x) แต่เราลดคำแนะนำลงจาก “ซื้อ” เป็น “Trading” จนกว่าจะเห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น

- Advertisement -