บล.ฟิลลิป:

ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม – PTTEP คาดกำไรปี 2566 ยังแข็งแกร่ง

Key Point

คาดผลการดำเนินงานปี 2566 อ่อนตัวลง y-y เนื่องจากราคาน้ำมันได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยปัจจัยขับเคลื่อนราคาน้ำมันในปี 2566 คาดว่าจะมาจากอุปสงค์ที่มากขึ้นจากการเปิดประเทศของจีน ประกอบกับปริมาณการขายของ PTTEP ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น y-y ส่งผลให้คาดว่ากำไรสุทธิยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ทางฝ่ายแนะนำ “ซื้อ”

คาดแนวโน้มการดำเนินงานปี 2566 อ่อนตัวลงตามราคาน้ำมัน แต่คาดกำไรยังอยู่ในระดับสูง

คาดผลการดำเนินงานปี 2566 อ่อนตัวลงตามราคาน้ำมันที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยทางฝ่ายปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 65,044 ล้านบาท อ่อนตัวลง 8.3% ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบ Dubai เฉลี่ยที่ 85 ดอลลาร์/bbl ขณะที่ทาง PTTEP คาดว่าปริมาณการขายทั้งปีจะปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ราว 470 KBOED จาก 467 KBOED ในปี 2565 โดยหลักมาจาก 1) การเร่งกำลังการผลิตของโครงการ G1/61 (เอราวัณ) ณ ปี 2565 มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 210 MMSCFD โดย PTTEP คาดว่าจะสามารถเร่งกำลังการผลิตขึ้นมาอยู่ที่ 400 MMSCFD ได้ในช่วงกลางปี 2566 และ 600 MMSCFD ในช่วงสิ้นปี โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินงานเต็มกำลังการผลิตที่ 800 MMSCFD ในเดือน เม.ย. 2567 2) โครงการ G2/61 (บงกช) ที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 200 MMSCFD และอยู่ระหว่างการสร้างและติดตั้งแท่นผลิต เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านพื้นที่ Block B16 และBlock B17 ส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 700 MMSCFD ในช่วง มี.ค. 2566 และในส่วนของต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) คาดว่าจะอยู่ที่ราว 27.7 ดอลลาร์/BOE ลดลงจาก 28.3 ดอลลาร์/BOE ในปี 2565 เนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และค่าภาคหลวง (Royalty) ที่คาดว่าจะลดลงจากเปลี่ยนผ่านพื้นที่ Block B16 และ Block B17 มาเป็นระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) จากเดิมที่เป็นระบบสัปทาน

ปี 2566 ตั้งงบสำรวจไว้ที่ 223 ล้านดอลลาร์

ปี 2566 PTTEP ตั้งงบสำรวจไว้ที่ 223 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็น CAPEX 193 ล้านดอลลาร์ และ OPEX 30 ล้านดอลลาร์ โดยมีแหล่งสำรวจตามแผนทั้งหมด 17 แหล่ง ได้แก่ 1) ประเทศมาเลเซีย 11 แหล่ง 2) ประเทศไทย 5 แหล่ง 3) ประเทศโอมาน 1 แหล่ง โดยโครงการ SK401B ในประเทศมาเลเซีย คาดว่าจะสามารถ FID ได้ภายในปี 2566 และในเบื้องต้นคาดว่าแหล่งดังกล่าวจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ราว 1,000 MMSCFD

ทางฝ่ายคงราคาพื้นฐานปี 2566 ไว้ที่ 190 บาท

ทางฝ่ายคงราคาพื้นฐานปี 2566 ไว้ที่ 190 บาท (วิธี DCF, WACC = 8.25%, Terminal growth = 2% ) และ PTTEP ได้ประกาศจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงาน 2H65 อยู่ที่ 5 บาท (XD วันที่ 14 ก.พ. 2566 และรวมทั้งปีอยู่ที่ 9.25 บาท) ซึ่ง PTTEP เป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยมีเงินปันผลเฉลี่ย 5 ปี (2561-2565) ย้อนหลังอยู่ที่ 5.90 บาท

ความเสี่ยง

  1. ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ
  2. ความล่าช้าในโครงการที่อยู่ระหว่างสำรวจและพัฒนา
  3. ความสามารถในการหาสำรองเพิ่มเติม
- Advertisement -