เงินเฟ้อไทยต่ำคาด ดันกลุ่มร้านอาหาร
กรอบ SET INDEX 1670-1687
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อไทยประจำเดือนม.ค. ขยายตัว 5% YoY, 0.3% MoM ใกล้เคียงที่ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 5.1% YoY และนับเป็นตัวเลขที่ชะลอตัวลงจากเดือนธ.ค. ที่ 5.9% YoY สาเหตุสำคัญมาจากการชะลอตัวลงของสินค้ากลุ่มต่างๆ อาทิ พลังงาน ค่าไฟฟ้า ราคาสุกร น้ำมันพืช ทั้งนี้หากพิจารณาเชิง MoM พบว่าราคาสินค้าในภาพรวมขยายตัว 0.3% MoM ในส่วนของหมวดอื่นๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มขยายตัว 0.4% MoM จากการเพิ่มขึ้นของหมวดพาหนะ ขนส่ง สื่อสาร หลักๆ เป็นผลจากราคาเชื้อเพลิงและกระแสไฟฟ้า ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ขยายตัว 0.13% จากการสูงขึ้นของราคาเนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ กลุ่มข้าวและแป้ง ตามการลดลงของข้าวสาร ข้าวเจ้า ข้าวสารเหนียว โดยทิศทางเดือนก.พ. กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะขยายตัวในอัตราที่ลดลง สาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ผลจากเศรษฐกิจโลกประกอบกับเงินบาทที่แข็งค่าจะช่วยลดต้นทุนการนำเข้า พร้อมประเมินทั้งปี 2023 เฉลี่ยที่ 2-3% โดยรวมเรามองเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มร้านอาหาร (CENTEL, M, MINT) ตามต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงช่วยขยายอัตรากําไรขั้นต้น สำหรับปัจจัยต่างประเทศคืนนี้ตลาดจะไปให้น้ำหนักกับการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งทราบผลราวเที่ยงคืนของวันพุธ หลังจากตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ยังร้อนแรงต่อเนื่อง หากส่งสัญญาณถึงความกังวลเงินเฟ้อ ตลาดอาจปรับฐานต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะส่งสัญญาณคล้ายผลประชุมช่วงสัปดาห์ก่อน เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังมิได้ปรับร้อนแรง ประกอบกับ CME Fed Watch ยังให้น้ำหนักสูงราว 97% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1670-1687
เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นการถือครองเงินระดับสูง มองตลาดรับรู้ปัจจัยบวกไปเยอะ ประกอบกับ Valuation ที่ค่อนข้างแพง ส่วนหุ้นแนะนำยังเน้นที่ Defensive และ Domestic ประกอบไปด้วย กลุ่มค้าปลีก (BJC, HMPRO) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, INTUCH) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH, BDMS, CHG) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF, RATCH) กลุ่มส่งออก (ASIAN, TU) ผลพวงจากบาทอ่อนค่า และระยะสั้นกับกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นมา และกลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA)
หุ้นแนะนําซื้อวันนีICHITAN
ICHI ราคาพื้นฐาน 15.00 บาท
คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่เพิ่มมูลค่าพื้นฐานจาก 14.00 บาท เป็น 15.00 บาท หลังปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2023 ขึ้น 7% เพื่อสะท้อนยอดขายต้นชันซูที่ดีเยี่ยม (น้ำอัดลม) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/22 ที่ 162 ล้านบาท (+22% YoY, -16%QoQ) หนุนจากอุปสงค์ชาเขียวพร้อมดื่มที่แข็งแกร่ง ตามตัวเลขการเติบโตของตลาดชาเขียวที่ 25% YoY ใน ไตรมาส 4/22
MINT ราคาพื้นฐาน 40.00 บาท
คาดกำไรปกติไตรมาส 4/22 ที่ 2.0 พันล้านบาท (+23% YoY, +1% QoQ) เพราะคาดอุปสงค์ฟื้นตัวดีในกลุ่มโรงแรม นอกยุโรป (25% รายได้โรงแรม) และธุรกิจอาหารที่แข็งแกร่ง จะช่วยชดเชยผลกระทบจากช่วง low season ในยุโรปได้ (แต่น่าพอใจถ้าเทียบ low season ช่วงก่อนโควิด)
