ตลาดยังมีความเสี่ยงหลัง Dollar index กลับมาแข็งค่า
ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index 1,682.11 จุด ลดลง 6.25 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 47,903.55 ล้านบาท ตอบรับความกังวลรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ม.ค.ดีกว่าคาด
แนวโน้มตลาดวันนี้… ตลาดยังไม่ได้ตอบรับจากที่ก.พาณิชย์รายงาน CPI เดือน ม.ค. ขยายตัวเพียง 5.02% YoY จากตลาดคาด 5.1-5.2% ยืนยันภาพแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงไปแล้ว และอยู่ในช่วงขาลง ในระยะถัดหาก CPI ก.พ. ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ครั้งถัดไปในวันที่ 29 มี.ค. 66 ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.75% ซึ่งทางฝ่ายฯ ประเมินว่าจะสิ้นสุดที่ระดับ 2.00% ภายในสิ้นปีนี้ ในเชิงกลยุทธ์เป็นบวกต่อกลุ่ม Domestic ที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อที่ชะลอตัว หนุนกำลังซื้อผู้บริโภคกลุ่ม Defensive ที่ควรมีไว้ติดพอร์ทเพื่อลดความผันผวน และ Dividend stock ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามถ้อยแถลงของพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด Dollar index กลับมาแข็งค่าขึ้น และ US bond yield ที่ดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง กดดันการลงทุนในตลาดหุ้น
สัปดาห์นี้ ติดตาม… CPI-PPI ม.ค. 66 ของจีน 10 ม.ค.
กลยุทธ์การลงทุน… ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway แนะนำรอสะสมเมื่อย่อตัว Trading ในกรอบ 1670/1684 และ Selective buy ในธีม
- Domestic play CPALL HMPRO SNNP ILINK
- Dividend stock KKP TASCO SPALI
- Defensive KKP TASCO SPALI
- US Bond yield ขาขึ้น BBL KBANK BLA TLI
Fund Flow rotation… ทยอยลดน้ำหนักกลุ่มการเงินในระยะสั้น
เคาะไป คุยไป KKP
- KKP ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 13% จากปี 65 ที่ขยายตัวมาแล้ว 21.4% โดยจะเป็นการเติบโตในทุก segment โดยเฉพาะพอร์ทสินเชื่อ HP (รถเรียกเงิน) ที่ยังมีโมเมนตัมบวกจาก 4Q65 รวมถึงราคาของ used car ดีขึ้นตาม demand การขนส่งและท่องเที่ยว ด้านพอร์ท commercial lending ก็กลับมาเติบโตหลังชะลอตัวตลอดช่วงโควิดที่ผ่านมา
- ต้าน Loan spread ปรับตัวลงเหลือ 5% มาจากขาของ CoF ที่เพิ่มขึ้น ตามการกลับมาจ่ายเงินนำส่งเข้ากองทุน FIDF ในอัตราปกติ แต่ KKP พยายามบริหารต้นทุนการเงินทั้งเพิ่มสัดส่วน CASA ให้เข้าใกล้ 50% และออกหุ้นกู้ระยะยาวมากขึ้น
- ส่วนการตั้ง credit cost ที่สูงขึ้นเป็น 220 bps มาจากการเพิ่มในส่วนของ management overlay เนื่องจากในปี 65 มีการตั้งส่วนนี้ค่อนข้างน้อย แต่ภาพ NPLs ratio กลับลดลงเหลือเพียง 3.1% จากกลุ่ม HP เป็นหลัก
- เราประเมินราคาเป้าหมายปี 66 อยู่ที่ 87.50 บาท (อิง PBV 1.24 เท่า GGM: LT-ROE 13.5%, growth 3%) ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี +0.25 SD โดยคาดหวังสินเชื่อยังเติบโตโดดเด่น การควบคุมต้นทุนการเงินและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ รายได้ค่าธรรมเนียมจากตลาดทุนที่ยังเติบโต และประมาณการกำไรสุทธิอาจ แตะระดับ 8 พันล้านบาท ทำนิวไฮได้ต่อเนื่อง ประเมิน ROE สิ้นปี 66 ราว 13-14% คาดหวังจ่ายปันผลงวด 2H65 ที่ 3.00 บาท/หุ้น (รวมทั้งปีจ่าย 4.75 บาท/หุ้น) คิดเป็น Dividend yield คาดหวังที่ 4.4%
Global Markets
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันจากนักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่คาดไว้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวลง โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกอาจดำเนินไปนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
(+) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19
(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับตัวขึ้นจากนักลงทุนช้อนซื้อ หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์