Today Selections >> STA, SYNEX, TACC
Fund flow / Fed official / Thai CPI
- SET: คาด SET Index แกว่งตัวซึมต่อไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Fund flow ที่ยังคงมีทิศทางไหลออกในช่วงสั้นตามการรีบาวด์ขึ้นมาของเงิน USD ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติบางส่วนเลือกปิดสถานะในตลาดทุน เพื่อ Lock ผลกำไรในตลาดเงินด้วยเช่นกัน สะท้อนผ่านการขายสุทธิทั้งในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น ที่ดำเนินติดต่อกันมา 5 วันทำการติดแล้ว
- Fed futures: ยังคงประเมินความเสี่ยงในช่วงถัดไป ได้แก่ การที่นักลงทุนในตลาดเลือกที่จะเชื่อความคิด Fed (Dot plots) มากขึ้น ผ่านการ Adjust ตนเองด้วยการยกระดับ Fed Funds futures ให้เพิ่มขึ้นจากเดิม โดยล่าสุดเช้านี้ ระดับความน่าจะเป็นที่นักลงทุนมองว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานอีกเล็กน้อยมาอยู่ที่ 68% ส่งผลให้ดอลลาร์ และ Bond yield สหรัฐฯยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
- Fed official: ทั้งนี้ เราเริ่มเห็นการออกมาส่งสัญญาณของกรรมการ Fed บางสาขา อย่างเช่นนาย Raphael Bostic (Atlanta) ที่ออกมาพูดเมื่อวานนี้ว่า จากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่งล่าสุดนี้ อาจทำให้ โอกาสที่ Fed ต้องปรับขึ้นคาดการณ์ Terminal rate จากเดิมที่ 5.00-5.25% มีมากขึ้น ด้วยเหตุนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ต่อไป ซึ่งมีตัวแปรสำคัญหนึ่งที่รออยู่ในสัปดาห์ หน้า (14 ก.พ.) ได้แก่ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ รวมไปถึง Comment ของประธาน Fed นาย Jerome Powell ที่จะออกมาในคืนนี้ด้วยเช่นกัน
- Strategy: ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่เราแนะนำ Lock profit พอร์ตไปครึ่งหนึ่งแล้วเมื่อวานนี้ แนะนำ Wait & See และถือครองหุ้นในส่วนที่เหลือเพื่อรอดูสถานการณ์แวดล้อมไปก่อน โดยนอกจากประเด็นดอกเบี้ยสหรัฐฯ แล้ว ยังมีปัจจัยในเรื่องของ Geopolitical risk ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน
- CPI: กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทยประจําเดือนม.ค. มีรายละเอียดดังนี้
1) เงินเฟ้อทั่วไปขยายตัว 5.0% และเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 3.0%
2) สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อเดือนก.พ.กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะขยายตัวในอัตราที่ลดลง จากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งจะทำให้ความต้องการบริโภคโดยรวมและราคานํามันเชื้อเพลิงชะลอตัว รวมถึงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะส่งผลให้ต้นทุนการนําเข้าสินค้าของไทยลดลง ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 อยู่ระหว่างร้อยละ 2.0-3.0 สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาของธปท.
- Our take: มองเช่นเดิมว่าระดับดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ 1.50% ในปัจจุบันนั้นเป็นระดับที่ค่อนข้างเหมาะสมกับบริบทแวดล้อม แต่หาก ธปท.ตัดสินใจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อในเดือนมีนาคมนี้ จะเป็นระดับที่เศรษฐกิจไทยเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น และยังเป็นเหตุการณ์ที่นักลงทุนในตลาดยังไม่ได้ Price in มากนัก สะท้อนผ่านอัตรา Swap rate ในตลาดล่าสุด (40% prob.) ซึ่งจะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ PE Contraction ในตลาดได้