บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action N.A.
TP upside (downside) N.A.
Close Feb 6, 2023 0.76
Price 12M Target 0.86 – 1.07
PROJECT PLANNING SERVICE (PPS)
Downside จำกัด…. ได้ประโยชน์จาก ESG Theme มากที่สุด
Event
เรามีมุมมองเป็นบวก หลังประชุมร่วมกับผู้บริหาร โดยประเมินราคาเหมาะสมเบื้องต้นสิ้นปี 2566 ด้วยวิธี Relative Valuation Method อิง PER ที่ 20-25 เท่า ต่ำกว่า STI และ TEAMG ที่ซื้อขายบน PER66 ที่ 27 เท่า และ 65 เท่า ตามลำดับ ได้กรอบราคาเหมาะสมที่ 0.86-1.07 บาท
Our Take
- PPS ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการค่าปรึกษาและบริหารจัดการโครงการก่อสร้าง โดยมีรายได้จากการควบคุมงานคิดเป็น 93% ของรายได้ทั้งหมด และสามารถแบ่งรายได้ตามลักษณะ โครงการได้ ดังนี้ 1) โครงการอาคารที่พักอาศัย คิดเป็น 23% ของรายได้ทั้งหมด 2 โครงการ ห้างสรรพสินค้า คิดเป็น 22% ของรายได้ทั้งหมด 3) โครงการระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน คิดเป็น 16% ของรายได้ทั้งหมด 4) โครงการอาคารอเนกประสงค์ คิดเป็น 12% ของรายได้ทั้งหมด และ 5) โครงการอื่นๆ เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาล และโรงงาน เป็นต้น ซึ่งงานของ PPS เป็นงานจากภาคเอกชนที่ราว 53.4% และงานภาครัฐที่ 46.6%
- จุดเด่นของ PPS คือ 1) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานที่ปรึกษาและบริหารจัดการโครงการก่อสร้างยาวนานกว่า 36 ปี 2) มีความสมดุลในการรับงานภาครัฐและเอกชน 3) Backlog ณ ปัจจุบัน ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 570 ล้านบาท โดยเพิ่งได้รับงานควบคุมงานโครงการห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เมื่อปลายปีก่อน (Backlog น้อยกว่าบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม เพราะ PPS รับเฉพาะงานให้คำปรึกษา ออกแบบ และควบคุมงาน โดยไม่มีส่วนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง) และ 4) เราประเมินว่าเป็นผู้ที่มีโอกาสเติบโตใน ESG Theme มากที่สุดในกลุ่ม เพราะธุรกิจหลักมีการออกแบบผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้ลูกค้าอยู่แล้ว และบริษัทมีการศึกษาเชิงลึกในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวัดคาร์บอน และการออกแบบ+ให้คำปรึกษา เพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอนตามมาตรฐานสากล โดยเราคาดว่าจะเริ่มเห็นรายได้ระดับ 5- 10% ของรายได้รวมในปี 2557 ขณะที่ผลกระทบเชิงบวกต่อกำไรสุทธิจะมีนัยสำคัญมากกว่า เพราะต้นทุนการให้บริการไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- ปัจจุบันเรายังไม่มีคำแนะนำสำหรับ PPS เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการติดตามพัฒนาการของบริษัท อย่างไรก็ตาม เราประเมินผลประกอบการ ณ ปัจจุบันมี Downside จำกัด เนื่องจากกำลังอยู่ใน Turnaround Stage และคาดกำไรสุทธิจะโตเร่งขึ้นในปี 2566 จากการรับรู้รายได้บน Backlog ในระดับสูง และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจากการจ่ายคืนนี้เกือบครึ่งหนึ่งของปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมี Upside เพิ่มเติมนอกเหนือจากงานด้าน ESG คือ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยถ้าหากสามารถขายวิลล่าที่ภูเก็ต (The Headland Cape Yamu) ได้เกิน 1 หลังขึ้นไป จะบันทึกเป็นกำไรได้ทันที จากก่อนหน้านี้ที่มีต้นทุนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ 6 หลัง มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าขายได้อย่างน้อย 2 หลังในปีนี้
- เราคาดกำไรปกติปี 2565 เบื้องต้นที่ 23 ล้านบาท (+10% YoY) และปี 2566 ที่ 37 ล้านบาท (+60% YoY) โดยอิงสมมติฐาน 1) รายได้เติบโต 3% และ 20% ในปี 2565 และ 2566 ตามลำดับ และ 2) อัตรากำไรสุทธิที่ 6% ในปี 2565 ก่อนจะทำได้ดีขึ้นเป็น 8% ในปี 2566 จากการรับรู้งานอัตรากำไรสูง และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงราว 8 ล้านบาท หรือ -41% YoY
- เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่ปรึกษางานก่อสร้าง PPS มีความน่าสนใจจาก 1) Valuation ถูก ที่สุดในกลุ่ม 2) มี Hidden Asset จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 3 เท่าตัว ของ Market cap 3) เราประเมินว่าได้ประโยชน์จาก ESG Theme มากที่สุด ส่วนจุดอ่อนเมื่อเทียบกับคู่แข่ง คือ ภาระหนี้และดอกเบี้ยจ่ายที่สูงสุดในกลุ่ม จากการออกหุ้นกู้เพื่อลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะลดความเสี่ยงทางการเงินให้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มในปีนี้