บล.ทรีนีตี้:
เซ็นทรัล รีเทล คอร์เปอเรชั่น – CRC
ซื้อ: ราคาเป้าหมาย 52 บาท, Upside/Downside +17%, Median Consensus 47.50 บาท
การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอีกครึ่งทศวรรษหน้า
- ปรับคำแนะนำจากถือเป็น “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 52 บาท (อิง PE เฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 32 เท่า) จาก 44 บาท ปรับขึ้นจากการปรับประมาณการกำไรปี 2566 ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของผู้บริหาร
- คาดบริษัทประกาศกำไรไตรมาส 4 ที่ 2,492 ล้านบาท +5.1% YoY, +112% QoQ โตจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพ ภูเก็ต และพัทยา รวมถึงการเติบโตของยอดขายจาก Omni Channel และไตรมาส 4 เป็น high season
- ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายในปี 2023 ที่ 12-15% พื้นที่ให้เช่า และการบริการโต 18-20% จากการขยายสาขา และการกลับมาของนักท่องเที่ยว โดยการเติบโตหลักจะเป็นการเติบโตในประเทศ แบ่งเป็นการเติบโตของกลุ่ม Fashion 14-16%, Hardline 13-15% และ Food 10-12%
Earning Preview
คาดบริษัทประกาศกำไรไตรมาส 4 ที่ 2,492 ล้านบาท +5.1% YoY, + 112% QoQ โตจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพ ภูเก็ต และพัทยา รวมถึงยอดขายจาก Omni Channel ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 18% จากยอดขายทั้งหมด และ Q4 ที่เป็นช่วง high season โดยในปีนี้บริษัทได้บรรลุเป้าหมายทุกอย่างที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปี (2565 guidance)
2566 Outlook
ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายในปี 2566 ที่ 12-15% พื้นที่ให้เช่าและการบริการโต 18-20% จากการขยายสาขาและการกลับมาของนักท่องเที่ยว โดยการเติบโตหลักจะเป็นการเติบโตในประเทศ แบ่งเป็นการเติบโตของกลุ่ม Fashion 14-16%, Hardline 13-15% และ Food 10-12%
นอกจากนี้บริษัทวางแผนคุม SG&A ให้อยู่ต่ำกว่า 28% และเพิ่ม Gross margin ผ่านการลดตนทุนจาก discount และ promotion (Fashion +30-50bps, Hardline +30-50bps, Food +10-20bps)
CAPEX ปี 2566 จะอยู่ที่ 25,000-28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในประเทศ 75% เวียดนาม 23% และ อิตาลี 7%
1) บริษัทมีแผนขยายหางสรรพสินค้า 2 แห่ง (Robinson Chaofah Phuket เปิดตัวช่วง 3Q66 และ Centra; Westville เปิดตัวช่วง 4Q66), ไทวัสดุ 10 แห่ง, Tops 15 แห่ง, Robinson lifestyle 1 แห่ง และ GO! Malls 5-7 แห่ง
2) Stores renovation (Central Chidlom, Central Pinklao, Central Rama9, Mega Bangna) โดยเฉพาะ Central Chidlom ที่จะเปลี่ยนเป็น luxury department store อันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
3) การขยายแบรนด์สินค้ามากกว่า 1,000 แบรนด์
ความเสี่ยง: ความเสี่ยงจากกำลังซื้อชะลอตัว, ค่าไฟสูงกว่าคาด, โควิดระลอกใหม่
