Daily Focus: Selective and Earnings Play
2023SET Target: 1750
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ต่อเนื่องตามคาด ปิดลบเล็กน้อย 1.62 จุด โดยมี DELTA ช่วยประคองหลังปรับเทรดขั้นต่ำเป็น 50 หุ้น ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่อื่นยังเห็นแรงขายทำกำไรเล็กน้อย สถาบันในประเทศขายสุทธิบางๆ ในตลาดหุ้น 109 ลบ. ขณะที่นักลงทุน ต่างชาติยังขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 อีก 2.7 พันลบ. (และ Short Index Futures อีก 8.7 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่อง โดยกรอบการเคลื่อนไหวตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,670-1,695 จุด กลุ่มพลังงานวันนี้คาดฟื้นตัวได้ตามราคาน้ำมันดิบที่กลับมาปรับขึ้น แต่เรายังมองกรอบการบวกของดัชนียังไม่กว้าง โดย Bond Yield สหรัฐฯปรับตัวขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาตอบรับแนวโน้มที่ FED จะยังปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งปีนี้สู่ระดับ 5-5.25% สูงกว่าที่ตลาดเคยประเมิน และประธาน FED ยังเน้นย้ำประเด็นตลาดแรงงานที่ยังดึงตัว และการดึงเงินเฟ้อลงในงานเสวนา Economic Club of Washington เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนปัจจัยในประเทศตลาดตอบรับประเด็นบวกจากจีนเปิดประเทศไปมากพอสมควร สะท้อนผ่านดัชนีที่ฟื้นตัวขึ้นเร็วตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค. ทำให้ Upside ระยะสั้นจำกัดเช่นกัน และนักลงทุนต่างชาติทยอยทำกำไรระยะสั้น แต่จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังทยอยเร่งตัว นำโดยภาคการบริโภคและท่องเที่ยว เราจึงมองจังหวะปรับฐานเป็นโอกาสในการสะสมระยะกลาง-ยาว ส่วนระยะสั้นเน้น Selective หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และคาดกำไร 4Q22 โดดเด่น
กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และคาดกำไร 4Q22 แข็งแกร่ง//ระยะกลาง- ยาวสะสม Domestic และ Reopening Play ช่วงพักตัว
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : BA, BDMS, BEM, CENTEL, NOBLE
หุ้นเด่นวันนี้ : BA
• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18 บาท
• คาดผลการดำเนินงาน 4Q22 พลิกมีกำไรปกติ 10 ลบ.และกำไรสุทธิ 310 ลบ. หนุนจากการ Reopening ทำให้ปริมาณผู้โดยสารและค่าตั๋วเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนหลังบาทแข็งค่า
• เราคาดผลการดำเนินงานปี 2022 จะมีผลขาดทุน 1.95 พันลบ. ขณะที่ปี 2023 คาดพลิกมีกำไรแข็งแรง 918 ลบ. หนุนจากธุรกิจสายการบินที่พลิกมีกำไร รวมถึงธุรกิจอื่นๆทั้งบริการ Ground Support, Catering, BAREIT และเงินปันผลจาก BDMS และ BAFS
• แนวรับ 14.20-14 บาท แนวต้าน 15//15.40 บาท
(กรรมการอิสระ/ ประธานกรรมการตรวจสอบ/ ประธานคณะกรรมการสรรหาค่าตอบแทนและบรรษัทภิบาลของ FINANSIA SYRUS เป็น กรรมการ ของ BA)
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนทรงตัว โดยไหลออกจากภูมิภาคบางๆ เพียง US$25 ล้าน โดยตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น เม็ดเงินไหลเข้าเกาหลีใต้แต่ไหลออกจากไต้หวัน ประเทศละเพียง US$20-25 ล้าน ส่วนอาเซียนยังคงไหลออกจากไทยสูงสุด US$80 ล้าน และไหลเข้าอินโดนีเซียต่อเนื่องอีก US$47 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะพลิกมาไหลเข้าเกาหลีใต้และไต้หวัน จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลัง Nasdaq ฟื้นตัวได้แรงเมื่อคืนที่ ผ่านมา แต่คาดปริมาณไม่หนาแน่นนัก
ประเด็นสําคัญวันนี้
(-) KCE กำไรปกติ 4Q22 อยู่ที่ 507 ลบ. -20% q-q, -29% y-y ต่ำกว่าคาด 24% และต่ำสุด ในรอบ 8 ไตรมาส รายได้จาก PCB -11% q-q, -8% y-y เป็นการลดลงของลูกค้าทุกทวีปและทุกกลุ่มสินค้า multilayer PCBs ขณะที่ Gross Margin น่าผิดหวังยังลงต่อเหลือ 21.1% (จาก 24.3% ใน 3Q22 และ 25.3% ใน 4Q21) เพราะอัตราการใช้กำลังการผลิตลดลง ต้นทุนยังสูง และบาทแข็งค่า จบปี 2022 กำไรปกติ 2.28 พันลบ +2% y-y เราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายปี 2023 ภายหลังประชุมบ่ายวันนี้จากปัจจุบันทำกำไร 2.8 พันลบ +23% y-y และราคาเป้าหมาย 62 บาท โดยเริ่มเห็น downside จากคำสั่งซื้อที่ดูฟื้นช้าและ ต้นทุนยังสูง
(-) BEC คาดกำไร 4Q22 +20% q-q, -65% y-y โดยรายได้คาดว่าจะชะลอตัวลงจากฝั่งทีวีที่ยังอ่อนแอ ขณะที่รายได้ลิขสิทธิ์ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ชดเชยได้จากฝั่งต้นทุนที่ปรับตัวลงหลังตัดเวลาละครลง และฉาย Re-Run ขณะที่ภาพยนต์บัวผันฝันยับคาดสร้างกำไรได้เล็กน้อย แนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q23 คาดยังไม่น่าสนใจเนื่องจากเป็น Low Season และยังมีปัจจัยให้ลูกค้าระมัดระวางการซื้อสื่อโฆษณา เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2022-2023 ลง 9-12% เป็น –30% y-y และ +37% y-y ตามลำดับ ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 10.90 บาท ปรับคำแนะนำ ลงเป็น “ถือ”
(+) ZEN เราคาดผลการดำเนินงานฟื้นตัวเร็วสุดในกลุ่มฯ คาดกำไร 4Q22 ที่ 58 ลบ. +14% q-q, +564% y-y กลับมาสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 หนุนจากทั้งการเปิดสาขาใหม่ และ SSSG ที่ปรับตัวขึ้น y-y ขณะที่ฝั่ง Margin คาดปรับตัวดีขึ้นจากทั้งต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มในอัตราที่ต่ำกว่า รวมถึงปัจจัยบวกจากการรับรู้ราไยด์จาก King Marine เต็มปี เราคาดปี 2022 พลิกมี กำไร 157 ลบ. ส่วนปี 2023 คาด +37% y-y จากการ Reopening ที่ยังหนุนให้ SSSG คาดยังโตได้อีก 4-5% y-y รวมถึงการเปิดสาขาใหม่อีก 55 สาขา นอกจากนี้ยังมี Upside จากการ M&A ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการ เราประเมินราคาเป้าหมายที่ 20 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) SVR เข้าเทรดวันนี้ ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประเภทแนวราบ ครอบคลุมบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และอาคารพาณิชย์ มีจุดแข็งคือแนวคิด Best Smart Living เน้นออกแบบ จัดสรรพื้นที่การใช้เทคโนโลยี บนทำเลที่มีศักยภาพ ในราคาที่คุ้มค่า ปัจจุบันพัฒนาโครงการแล้ว 9 โครงการในทำเลบางปูและนิคมอุตสาหกรรมอย่างชลบุรีและระยอง ปัจจัยการเติบโตมาจากจำนวนโครงการที่พัฒนาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดกำไรปี 2023 +241% y-y บนสมมติฐานบริษัทมีแผนเปิดตัวใหม่ 3 โครงการ ซึ่งกระจายในทำเลใหม่และกลุ่มลูกค้าใหม่ ประเมินราคาเป้าหมายที่ 3 บาท (Finansia เป็นผู้จัดจำหน่ายฯ)
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 265.67 จุด หรือ +0.78% ปิดที่ 34,156.69 จุด หลังจากประธาน FED ระบุว่าเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดผสม ภายหลังประธาน FED ระบุว่าเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่ม เห็นสัญญาณชะลอลง
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 33.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 3.03 ดอลลาร์ 4.1% ปิดที่ 77.14 ดอลลาร์/ บาร์เรล หลังจากประธาน FED ระบุว่าเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง รวมถึงการอ่อนค่าของดอลลาร์ ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 77.53 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.51%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 5.3 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,884.8 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานFED หนุนตลาด ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 1,888.3 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ +0.19%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 920.81 / +2.89
