Our View? “ไม่ได้แย่อะไร”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,676 / 1,670 และแนวต้านที่บริเวณ 1,690 /1,700 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังจากเมื่อคืนนี้นาย เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เปิดเผยถึงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่มาจากทางฝั่งของสินค้า แต่เงินเฟ้อในฝั่งบริการยังอยู่ในระดับสูง แต่คาดจะเริ่มลดลงในช่วง 2Q66 ซึ่ง FED จะติดตามข้อมูลสัญญาณต่างๆ ทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง อาทิ ตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน ม.ค. ที่ออกมาแข็งแกร่งมากกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก เป็นปัจจัยให้ FED ยังคงต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และคาดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับที่คุมเข้ม (Restrictive Level) ไว้ระยะเวลาหนึ่ง เรามองว่าถ้อยแถลงดังกล่าวค่อนข้างสอดคล้องกับที่เราและตลาดกลับมาคาดการณ์อีกครั้งว่า FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกราว 2 ครั้งในเดือน มี.ค. และ พ.ศ. สู่ระดับอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่ 5,00-5.25% แล้วจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไปจนกว่าจะสิ้นปี’66 เรามองถ้อยแถลงที่ไม่ได้ออกมาคุมเข้มมากกว่าที่ตลาดคาดจะกลับมากดดันทิศทางดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงได้อีกครั้ง จากการไม่ได้ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยล่าสุด Dollar Index เริ่มชะลอการรีบาวด์ขึ้นแล้วแกว่งตัวผันผวนอยู่ที่ระดับ 103.3+/- คาดจะเป็นปัจจัยให้ตลาดเริ่มผ่อนคลายภาวะ Risk-off ลงได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มี.ค. เมื่อคืนนี้รีบาวด์ขึ้นได้ดี ปิดที่ระดับ 77.14 ดอลลาร์/บาร์เรล +3.03 ดอลลาร์ (+4.09%) คาดยังคงได้รับแรงหนุนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในตุรกีและซีเรีย คาดจะส่งผลให้การส่งออกน้ำมันในท่าเรือซีย์ฮานมีปัญหา คาดจะเป็นปัจจัยลดทอนอุปทานน้ำมันในระยะสั้น รวมทั้งตลาดเริ่มผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ช่วยลดแรงกดดันจากฝั่งการรีบาวด์ ขึ้นดอลลาร์สหรัฐ คาดจะหนุนทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์กลับขึ้นได้บ้างในระยะสั้น

สําหรับปัจจัยในประเทศเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือน ม.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ +5.02% YoY ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เดือน ม.ค. อยู่ที่ระดับ 3.04% YoY ชะลอตัวลงต่อเนื่อง และคาดว่าในระยะต่อไปอัตราเงินเฟ้อของไทยจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 5.00% สะท้อนความสามารถในการควบคุมเงินเฟ้อที่ดีของไทย มองเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยได้ต่อ รวมทั้งยังคงแนะนำให้ติดตามการรายงานผลประกอบการ 4Q’65 ต่อเนื่อง คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้างในช่วงสั้น  ทั้งนี้เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน รวมทั้งการที่กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ประกาศอนุญาตให้บริษัทน่าเที่ยวสามารถจัดการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะสําหรับชาวจีนไปประเทศต่างๆ 20 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย คาดไทยจะเป็นเป้าหมายหลักจากการท่องเที่ยวดังกล่าว ขณะที่เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการอนุมัติโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 จํานวน 5.60 แสนสิทธิ โดยจะสนับสนุนค่าโรงแรม/ที่พัก สูงสุด 3.0 พันบาท/ห้อง สูงสุด 5 สิทธิ/คน คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Re-Opening ได้ต่อ อาทิ AAV, BA,CENTEL, MINT, ERW, CRC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI และ PLANB

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “KCE”

เมื่อวานนี้รายงานผลประกอบการ 4Q65 ออกมา 500.17 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 653.16 ล้าน ส่งผลให้กำไรทั้งปี’65 อยู่ที่ระดับ 2,317.23 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 6.30% คาดจะส่งผลให้ราคาปรับตัวลดลงได้บ้าง แต่มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ จากทิศทางผลประกอบการตั้งแต่ 1Q’66 เป็นต้นไป คาดจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ตามการเปิดประเทศและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน โดย Bloomberg Consensus คาดจะอยู่ที่ระดับราว 2700,00 ล้านบาท

กลยุทธ์ รอย่อซื้อ แนวรับ 54.50 / 53.00 Target 60.00 / 66.00 Stop <52.50

- Advertisement -