บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Banpu Power (BPP.BK/BPP TB)*

ถึงเวลาตัดใจ; D/G ลงมาเป็น ถือ

Event

ปรับลดคําแนะนําและประมาณการ 4Q65F

Impact

ประมาณการ 4Q65F – แย่สุดในรอบ 3 ปี เพราะขาดทุนจาก FX และปัจจัยฤดูกาล

BPP จะส่งงบ 23 ก.พ. โดยเราคาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 70 ลบ. (จากกำไรสุทธิ 2.3 พันลบ. ใน 3Q65) เนื่องจากมีผลขาดทุนก้อนใหญ่จาก FX, กำไรอนุพันธ์ลดลง, และโรงไฟฟ้าอ่อนแอบางโครงการ เราคาดว่ากำไรหลักจะอยู่ที่ 341 ลบ. (-73% QoQ, +100% YoY) โดยกำไรที่ลดลง QoQ เป็นเพราะ i) SG&A พุ่งสูงตามฤดูกาลและการขยายธุรกิจ ii) Temple I แย่ลงตามฤดูกาล iii) ปิดโรงไฟฟ้าหงสาตามแผน iv) BLCP อ่อนแอลง ทั้งนี้แม้ว่าจะเป็น high season แต่ CHP อาจยังมีผลขาดทุนอยู่ เพราะอุปสงค์ซบเซา และราคาถ่านหินดีดตัวขึ้น เราคาดว่า SLG น่าจะพลิกเป็นกำไรเป็นครั้งแรกจากอัตราเดินเครื่องที่ดีขึ้น ขณะที่ Banpu NEXT ก็น่าจะพลิกมาเป็นกำไรเช่นกันจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น และธุรกิจค้าพลังงานขาดทุนลดลง ทั้งนี้ เมื่อรวมผลประกอบการ 4Q65F แล้ว เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2565F จะอยู่ที่ 2.8 พันลบ. (+13% YoY) นํากว่าเราและตลาดคาด 13% / 26%

ประมาณการ 1Q66F – คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลทั้ง QoQ และ YoY

เราคาดว่ากำไรหลักใน 1Q66 จะเพิ่มขึ้น เพราะมีปัจจัยกระตุ้น 5 ปัจจัย i) margin CHPs เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวและราคาถ่านหินลดลง (~RMB1,100QTD/ton vs. (-RMB1,350/ton ใน 4Q65) ii) Temple I แข็งแกร่งขึ้นตามฤดูกาล iii) โครงการหงสากลับมาเปิดดำเนินการ iv) โมเมนตัมของ SLG แข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่องจากอัตราการเดินเครื่องที่สูงขึ้น และ v) ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลงตามฤดูกาล อย่างไรก็ตาม เรามองว่ากำไรสุทธิจะดีดตัวขึ้นแรงแค่ไหนขึ้นอยู่กับระดับการแข็งค่าของเงินบาทตอนสิ้นงวด 1Q66

จะเกิดอะไรขึ้นในปี 2566F …?

เราคาดว่ากำไรหลักในปี 2566F จะเพิ่มขึ้น YoY จากฟื้นตัวของจีน และราคาถ่านหินที่ลดลงทำ CHPs และ SLG แข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้ CHIPs กำลังเจรจากับภาครัฐเพื่อทำสัญญาถ่านหินระยะยาวเหมือนกับ SLG โดยเสนอส่วนลด 30-40% จากราคาในปัจจุบัน นอกจากนี้ เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ Temple I อาจจะแย่ลงจากความน่าจะเป็นที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอย และราคา LNG ลดลง ในขณะเดียวกัน เราคาดว่า Nakoso (73MWe) จะทำ overhaul รอบใหญ่ตลอดปี 2566 ทั้งนี้ จากเป้าของ BPP ที่ 5.3GWh (จาก 3.3GWh ในปัจจุบัน) อาจจะตีความได้ว่าจะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 600-700MWe

Valuation & Action

เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ขึ้นมาตั้งแต่เราเพิ่มคำแนะนำเมื่อ 10 ส.ค. 65 สะท้อนการฟื้นตัวของกำไรในปี 2565- 66F จากโครงการหลักๆ ในปี 2565-2566F ไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่มีโครงการที่อยู่ใน pipeline มีเหลือไม่มาก เรามองว่า risk/reward ของราคาหุ้นปัจจุบันไม่น่าสนใจ เพราะไม่เหลือ upside ต่อราคาเป้าหมายแล้ว นอกจากนี้ด้วยกระแส ESG ที่เพิ่มขึ้น เราคิดว่านักลงทุนมีแนวโน้มจะเปลี่ยนไปลงทุนหุ้นอื่นแทนในระยะยาว ดังนั้น เราจึงปรับลดคำแนะนำ BPP จาก ซื้อ เป็น ถือ ด้วยราคาเป้าหมาย 17 บาท เรามองว่า Upside จะมาจากการที่อุปสงค์การใช้ไฟฟ้าสูงเกินคาด และราคาถ่านหินต่ำกว่าที่คาดไว้

Risks

การปิดโรงงานนอกแผน, ปัญหา cost overrun, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย

- Advertisement -