บล.บัวหลวง:
Residential Property – ราคาบ้านสูงขึ้น 2.7% YoY ในปี 2565 ผู้ซื้อต่างชาติจะเพิ่มขึ้นในปี 2566 (NEUTRAL)
ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย (RRPI) ของทางธปท. ปรับตัวขึ้นในทุกกลุ่มใน เดือน ธ.ค. 2565 กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มอุปสงค์ในกลุ่มระดับบนและโครงการคอนโดในปี 2566 และการซื้อคอนโดของชาวต่างชาติจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้
RRPI ไตรมาส 4/65 ปรับตัวขึ้น YoY และ QoQ ในทุกกลุ่ม
ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยของธปท. (มาตรวัดราคาบ้าน) อยู่ที่ 175.5 ในเดือน ธ.ค. 2565 ปรับตัวขึ้น 2.7% YoY และ 2.7% QoQ (เทียบกับ 170.8 ในเดือน ก.ย. ขึ้น 1% YoY แต่ลง 0.6% QoQ โดยสะท้อนมาจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ลดลงในไตรมาส 3/65) ซึ่งการปรับตัวขึ้น YoY และ QoQ ในเดือน ธ.ค. เป็นผลมาจากทุกกลุ่ม โดยดัชนีราคาบ้านเดี่ยวปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบทศวรรตที่ 156.5 ในเดือน ธ.ค. ขึ้น 4.9% YoY และ 2.5% QoQ ดัชนีราคาบ้านทาวน์เฮ้าส์อยู่ที่ 172.3 (สถิติสูงสุดในรอบทศวรรต) ขึ้น 4% YoY และ 0.8% QoQ และดัชนีราคาคอนโดอยู่ที่ 188 ปรับตัวขึ้น 4.4% YoY และ 3.5% QoQ หนุนจากการเปิดตัวโครงการระดับบนที่มีสัดส่วนมากขึ้น ในทางตรงกันข้ามดัชนีราคาที่ดินอยู่ที่ 185.1 ในเดือน ธ.ค. ลดลง 1.8% YoY แต่ขึ้น 4% QoQ
เช็คกับกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ สําหรับแนวโน้มในปี 2566
ผู้บริหารกลุ่มอสังหาฯ กล่าวว่าอุปสงค์ขยายตัวตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2565 เนื่องจากผู้ซื้อบ้านเริ่มรับรู้แล้วว่าต้นทุนกำลังเพิ่มขึ้น และคาดอัตราดอกเบี้ยเงินดาวน์จะปรับตัวขึ้นเช่นกัน บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มของตลาดที่อยู่อาศัยระดับบน ซึ่งผู้ซื้อจะจองซื้อโครงการก่อนโดยหวังว่าจะเห็นราคาปรับตัวขึ้นในปี 2566 และยอดขายโครงการคอนโดอยู่ในระดับที่ดีในเดือน ม.ค. ทั้งนี้เรามองความคาดหวังของผู้บริหารเป็นตัวชี้วัดอุปสงค์และการเติบโตของ ยอดขายกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับบน และโครงการคอนโดมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำการเติบโตของยอดขายที่อยู่อาศัยในปี 2566
อุปทานคอนโดจะเป็นที่จับตามองในปี 2566
มูลค่าของโครงการคอนโดที่พร้อมเข้าอยู่ (RTM) ของบริษัทที่เราให้คำแนะนำ อยู่ที่ 9.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 2% YoY และ 5% QoQ เทียบกับสิ้นปี 2562 โดยในกลุ่มที่เราให้คําแนะนํา ANAN มีโครงการคอนโดที่ยังไม่ได้ขายมากที่สุด ตามด้วย SPALI และ QH โดยเราคาด ANAN จะเน้นไปที่การเคลียสต็อกคอนโดในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ซึ่งจะกดดันอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท เรายังกังวลว่าการเคลียสต๊อกของ LPN จะกดดันอัตรากําไรของบริษัทเช่นกัน โดยเฉพาะในครึ่งแรกของปี 2566
อุปสงค์ของชาวต่างชาติต่อโครงการคอนโดจะเพิ่มขึ้นในปี 2566
ในปี 2565 ต่างชาติซื้อคอนโดไปรวม 2 หมื่นล้านบาท เท่ากับ 11% ของยอดขายโครงการคอนโด โดยราคาขายเฉลี่ยที่ขายชาวต่างชาติอยู่ที่ 4.85 ล้านบาท/ยูนิต ซึ่งสูงกว่าราคาขายเฉลี่ยที่ขายชาวไทยที่อยู่ที่ 3.6 ล้านบาท/ ยูนิต หากดูจากสถิติชาวต่างชาติในปี 2562 มีสัดส่วนการซื้ออยู่ที่ 15% ของยอดขายคอนโดในปีนั้น และปรับตัวลงมาอยู่ที่ 3.5% ในปี 2563 และ 5.4% ใน ปี 2564 (ยุคโดวิด) ทั้งนี้ AREA คาดการซื้อคอนโดของชาวต่างชาติจะกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับปี 2562 (ราว 15%) ในปี 2566 อิงจากประมาณการ 15% จะบ่งบอกเป็นนัยถึงการซื้อโครงการคอนโดของชาวต่างชาติจํานวนมากในปีนี้ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นถึง 7-8 พันล้านบาท เท่ากับ 7-9% ของยอดขายโครงการคอนโดพร้อมเข้าอยู่สิ้นปี 2565
