บล.เอเซีย พลัส:

ADVANC แนะนํา ซื้อ

  • ราคาปัจจุบัน (บาท) 199.50 ราคาเป้าหมาย (บาท) 243.00
  • Upside (%) 21.8 Dividend yield (%) 3.9

กำไร 4Q65 ฟื้นทั้ง QoQ และ YoY

บริษัทมีกำไรสุทธิงวด 4Q65 ที่ 7.4 พันล้านบาท (+22%QoQ, +7%YoY) ขณะที่มีกำไรปกติ 6.9 พันล้านบาท (+11%QoQ, +3%YoY) กำไรที่โต QoQ เพราะรายได้เพิ่มขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายลดลง ส่วนกำไรที่โต YoY เป็นเพราะลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้มากกว่ารายได้ที่ชะลอตัว ทำให้กำไรปกติปี 2565 อยู่ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท (-3%YoY) เราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2566-2567 ขึ้นจากเดิม 5% และ 4% ตามลำดับ สะท้อนกำไร 4Q65 ที่ดีกว่าคาด และให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจในปี 2566 ของบริษัท ทำให้ราคาเป้าหมายปรับเพิ่มจาก 239 บาท เป็น 243 บาท โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” เพราะ 1) คาดกำไรเริ่มกลับมาเติบโตได้อีกครั้งตั้งแต่ปี 2566, 2) เงินปันผลที่จูงใจ โดยงวด 2H65 ประกาศจ่าย 4.24 บาท (XD วันที่ 22 ก.พ. 2566) หรือคิดเป็นผลตอบแทนจากปันผล 2.1%และคาดหวังในอัตรา 3.9% สำหรับปี 2566

กำไรปกติงวด 4Q65 ฟื้นตัวทั้ง QoQ และ YoY

ADVANC รายงานกำไรสุทธิงวด 4Q65 ที่ 7.4 พันล้านบาท (+22% QoQ, +7% YoY) ซึ่งรวมรายการพิเศษ (หลังภาษี) ราว 457 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากบริษัทมีเจ้าหนี้การค้าและตราสารอนุพันธ์ในสกุลต่างประเทศ

หากไม่รวมรายการพิเศษ บริษัทมีกำไรปกติที่ 6.9 พันล้านบาท (+11% QoQ, +3% YoY) ดีกว่าที่เราคาดไว้ราว 4% จากรายได้ที่สูงกว่าคาด และต้นทุนต่ำกว่าคาด โดยกำไรที่เติบโตดีขึ้น QoQ เพราะผลของฤดูกาลที่ช่วยหนุนให้มีรายได้ขายและบริการเพิ่มเป็น 4.9 หมื่นล้านบาท (+5% QoQ) แบ่งเป็นรายได้ค่าบริการ 3.4 หมื่นล้านบาท (+2% QoQ) โดยเป็นการเติบโตจากทั้งธุรกิจมือถือและธุรกิจบรอดแบนด์ที่มีฐานลูกค้ามากขึ้น และยอดขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ 1.1 หมื่นล้านบาท (+16% QoQ) จากการขายไอโฟน 14 ที่เข้ามาในช่วงกลางเดือน ก.ย. 65 ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A/Sales) ลดจาก 12.2% ในไตรมาสก่อน เหลือ 11.3% จากประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่ายที่ ดีขึ้น ซึ่งจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและ SG&A/Sales ที่ลดลงนั้นยังเพียงพอจะชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 5% QoQ เป็น 3.3 หมื่นล้านบาท

ส่วนกำไรปกติที่โต YoY ได้ แม้รายได้จากการขายและบริการลดลง 3% YoY จากรายได้จากการขายเครื่องมือถือที่ต่ำลง แต่ชดเชยได้ด้วยต้นทุน และ SG&A/Sales ที่ลดลงได้มากกว่ารายได้ที่ชะลอตัว (-5% YoY และ -16% YoY ตามลำดับ)

กําไรจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งตั้งแต่ปี 2566

กำไรปกติโดยรวมของปี 2565 ออกมาที่ 2.6 หมื่นล้านบาท หรือชะลอตัวลง 3% YoY จากรายได้ที่โตต่ำ ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแรงกว่า อย่างไรก็ตาม ยังคาดหวังการฟื้นตัวของกำไรปี 2566 ได้เพราะคาดรายได้จะเติบโตได้ดีขึ้น ทั้งรายได้ค่าบริการที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น หลังบริษัทหันไปเน้นการกระตุ้นลูกค้าที่ใช้งานแพคเกจที่มีราคาสูงขึ้น ตั้งแต่ ปลายปี 2565 แทนการตัดราคา สำหรับทั้งบริการมือถือและบริการบรอดแบนด์ บวกกับยอดขายเครื่องมือถือมีแนวโน้มจะสูงขึ้น ตามกำลังซื้อในประเทศที่ดูดีขึ้น และปัญหาสต็อกสินค้าไอโฟนที่จะกลับสู่ภาวะปกติ หลังช่วงปลายปี 2565 มีปัญหาจากการผลิตไอโฟนในจีนที่ต้องสะดุดลงชั่วคราวในช่วงที่โควิด 19 ระบาดหนัก จึงเชื่อว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นจะเพียง พอที่จะชดเชยต้นทุนและค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นได้

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 – 67 คงคำแนะนํา “ซื้อ”

เราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2566 – 2567 ขึ้นจากเดิม 5% และ 4% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนกำไรงวด 4Q65 ที่ออกมาดีกว่าคาด และเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทสำหรับปี 2566 ที่ตั้งเป้าจะมีรายได้เติบโตในระดับ 3% – 5% และการใช้งบลงทุนสำหรับปี 2566 ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท – 3.0 หมื่นล้านบาท

โดยภายใต้ประมาณการใหม่ ราคาเป้าหมายปรับเพิ่มจาก 239 บาท เป็น 243 บาท ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ADVANC เนื่องจาก 1) ระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากกำไร 4Q65 ที่ออกมาดี 2) คาดกำไรจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งตั้งแต่ปี 2566 ในอัตรา 8%, 3) ปันผลที่ยังจูงใจ สำหรับงวด 2H65 โดยประกาศจ่ายแล้วที่ 4.24 บาท/หุ้น XD วันที่ 22 ก.พ. 2566) หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากปันผลที่อัตรา 2.1% ส่วนปี 2566 คาดที่ 3.9% และ 4) ยังมี upside จากการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานฯที่ยังไม่รวมในประมาณการ

ประเด็นความเสี่ยง

1. อยู่ในอุตสาหกรรมที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ต้องใช้เงินลงทุนสูงสำหรับอุปกรณ์และโครงข่าย

2. การแข่งขันในอุตสาหกรรมรุนแรง มีการใช้กลยุทธ์ราคาต่ำเพื่อช่วงชิงลูกค้าเป้าหมาย

3. บริการดั้งเดิมเช่น บริการเสียง และบริการรับ-ส่งข้อความ SMS แพลตฟอร์มออนไลน์ประสบกับปัญหา (Disruption) จากผู้ให้บริการ

- Advertisement -