ตลาดเริ่มจับตาเงินเฟ้ออีกครั้ง

กรอบ SET INDEX 1660-1675

Market Outlook

เมื่อวานที่ผ่านมามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจําเดือนม.ค. ที่ 51.7 ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ 49.7 และปรับดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 โดยผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับดีขึ้น หลังจากที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนของทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มเดินทางเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงสถานการณ์ Covid-19 ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับราคาน่ามันเบนซินที่ปรับลดลงอย่างมากช่วยบรรเทาค่าครองชีพ มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่มอิงการบริโภคในประเทศ อย่างกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, HMPRO) กลุ่มร้านอาหาร (CENTEL, M, MINT) ส่วนสหรัฐฯ เมื่อดินแม้จะรายงานผู้ขอรับสวัสดการว่างงานที่ 1.96 แสนราย แย่กว่าตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.91 แสนราย พร้อมกับผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องที่ 1.68 ล้านราย แย่กว่าตลาดคาดที่ 1.66 ล้านราย แต่ถึงกระนั้นกลับพบว่าตลาดหุ้นปรับฐาน และ US Bond Yield ปรับขึ้น บ่งชี้ว่าตลาดกลับมากังวล กับภาวะเงินเฟ้ออีกครั้ง โดยสหรัฐฯ จะมีกำหนดรายงานเงินเฟ้อประจำเดือนม.ค. ในวันที่ 14 ก.พ. ถือเป็นตัวเลขสำคัญที่ต้องจับตา ส่วนคืนนี้สหรัฐฯ มีรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ U of Michigan ส่วนภายในประเทศเน้นที่การประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ซึ่งวานนี้ ADVANC รายงานกำไรสุทธิ 4Q22 ที่ 7.36 พันล้านบาท (+7.3% YoY, +22% QoQ) ดีกว่าตลาดคาดไว้ที่ 6.85 พันล้านบาท สาเหตุหลักๆ มาจากค่าใช้จ่ายในการบริหารและอื่นๆ ลดลง -12% YoY, -5% QoQ และมีกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนขยายตัว 251%YoY ขณะที่รายได้จากการให้บริการหลักทรงตัว 1.3% YoY, 2.1% QoQ โดยรวมมองเป็นกลางๆ ต่อ งบที่ประกาศออกมา SET INDEX วันนี้ประเมินเคลื่อนไหวในกรอบ 1660-1675

เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นย้ำถึงการถือครองเงินสดระดับสูง เนื่องจากมองตลาดหุ้นรับรู้ปัจจัยบวกไปเยอะ ขณะที่ความเสี่ยง เงินเฟ้อ เศรษฐกิจอ่อนแรง ยังเป็นปัจจัยที่รอกดดันช่วงถัดไป หุ้นแนะนำยังเป็นที่ Defensive และ Domestic Play อาทิ กลุ่มโรงพยาบาล (BCH, BDMS, CHG) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, INTUCH) กลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, HMPRO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA) ร้านอาหาร (M) ศูนย์การค้า (CPN) รถไฟฟ้า (BEM)

หุ้นแนะนําซื้อวันนี้

CPALL ราคาพื้นฐาน 72.00 บาท

คาดว่ากําไรไตรมาส 4/22 จะโตขึ้น YoY และ QoQ จากยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจ (ร้านสะดวกซื้อ ค้าส่ง และค้าปลีกของชา) หนุนจากปัจจัยบวกข้างต้น

HMPRO ราคาพื้นฐาน 18.00 บาท

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/22 ที่ 1.7 พันล้านบาท (-4% YoY, +11% QoQ) ถูกกดดันจากต้นทุนสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น แต่คาดรายได้แตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์ หนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ 2%YoY (HomePro +2.4%, Mega Home ทรงตัว YoY HomePro Malaysia +12%) ขณะที่คาดว่ากําไรปี 2023 จะทำจุดสูงใหม่

- Advertisement -