บล.ทรีนีตี้:

เอพี (ไทยแลนด์) – AP

ซื้อ: ราคาเป้าหมาย 14.40 บาท, Upside/Downside +22%, Median Consensus 14 บาท

New High ในทุกด้าน

  • ตั้งเป้า New Launch, Presales และรายได้ระดับ New High
  • ขยายฐานลูกค้า โดยการเพิ่มสินค้ากลุ่มแนวราบ Luxury ที่มียอดขาย และ Demand ในระดับสูงต่อเนื่อง และเป็นกลุ่มที่มีความผันผวนต่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ
  • คาดกลุ่มคอนโดสามารถฟื้นตัวกลับสู่ระดับ Pre-COVID ได้จาก Demand ที่เริ่มกลับมาสนใจคอนโดจากทำเลในเมือง
  • คาดกำไรสุทธิปี 2565-2666 สามารถทำระดับ New High ต่อเนื่องที่ 5.8 พันล้านบาท และ 6.05 พันล้านบาท ตามลำดับ
  • ยังคงเลือกเป็น Top Pick ของกลุ่มที่ราคาเป้าหมาย 14.40 บาท

2566  Business Plan

  • ตั้งเป้าเปิดตัวโครงการใหม่ 53 โครงการ (โครงการบ้านเดี่ยว 22 โครงการ, โครงการทาวน์โฮม 27 โครง และโครงการคอนโด 4 โครงการ) มูลค่ารวม 7.7 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 21% YoY โดยเป็นโครงการที่ต่างจังหวัด 5 โครงการ
  • ตั้งเป้ายอด Presales ที่ 5.8 หมื่นล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 15% YoY โดยที่เป็นสัดส่วนจากโครงการแนวราบที่ 4.5 หมื่นล้านบาท
  • ตั้งเป้ารายได้รวมที่ 5.75 หมื่นล้านบาท เป็นสัดส่วนของโครงการแนวราบที่ 73% คอนโดที่ 25% และรายได้จากการบริการที่ 2%
  • เน้นขยายตลาดบ้านเดี่ยวไปกลุ่ม Luxury และ Super Luxury ที่มีราคาขายเฉลี่ย 50-100 ล้านบาท/ยูนิต เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มี Demand สูง
  • โครงการคอนโดยังคงมีแผนรวมทุนกับ Mitsubihi Estate โดยปี 2566 คาดมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการภายใต้การร่วมทุน
  • คาดตลาดคอนโดเริ่มฟื้นตัวแข็งแกร่ง กลับสู่ระดับ Pre-COVID ได้จาก Demand ในประเทศ และยังคงเน้นการเลือกทำเลที่มีการเดินทางสะดวก และหลีกเลี่ยงการจราจรบนท้องถนน และคาดสัดส่วนโอนจากต่างชาติอยู่ที่ 33% ของกลุ่มคอนโดจาก 29% ในปี 2565
  • มองปัจจัยบวกต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ การชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย การเปิดประเทศ และการเติบโตของ GDP ยอด Rejection rate ยังคงอยู่ที่ 15-20% เป็นระดับที่ใกล้เคียงตลาด
  • ยอด Backlog รวมอยู่ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท (เป็นยอด Backlog ที่รวมยอดโอนใน 4Q65) เป็นสัดส่วนของโครงการแนวราบที่ 2.3 หมื่นล้านบาท และคอนโดที่ 1.9 หมื่นล้านบาท (คอนโด JV ที่ 1.66 หมื่นล้านบาท และคอนโด AP ที่ 2.4 พันล้านบาท)

ยังคงคาดการณ์กำไรปี 2566-2567

ยังคงคาดการณ์กำไรปี 2566-2567 ที่ 6.05 พันล้านบาท และ 5.9 พันล้านบาท ตามลำดับ จากยอด Backlog กลุ่มแนวราบที่แข็งแกร่งและแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2566 ที่สูงกว่าปี 2565 และจากการที่ AP มีการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และสามารถเพิ่ม Market Share ไดจาก Developer ที่มีแผน Conservative

ยอด Backlog รอโอนสูง คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 14.40 บาท

เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 14.40 จากการอิงผลประกอบการ 2566F และค่าเฉลี่ย P/E ที่ 7.5X (+0.5SD) โดย AP ยังถือว่าปลอดภัย เนื่องจากมี Backlog ที่แข็งแกร่งทั้งคอนโดและแนวราบ และยังคาดว่ากำไรปี 2565-2566 จะสามารถทำยอด New High ได้ต่อเนื่อง เรายังคงเลือก AP เป็น Top Pick ของกลุ่ม

- Advertisement -