บล.บัวหลวง:

Thaicom (THCOM TB/THCOM.BK)

THCOM – ต่ำกว่าคาด; วางแผนสร้างดาวเทียมดวงใหม่สามดวงที่วงโคจร 119.5 องศาตะวันออก

ต่ำกว่าที่เราคาดอย่างมีนัยสําคัญ

THCOM รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 439 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 508% YoY และแย่ลง QoQ ถ้าเทียบกับกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ 121 ล้านบาท ถ้าหากไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาส 4/65 ได้แก่ 1) ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 400 ล้านบาท และ 2) ขาดทุนจากการตั้งด้อยค่าหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 8 ล้านบาท ไตรมาสนี้รายงานเป็นขาดทุนหลัก 30 ล้านบาท ขาดทุนหลักลดลง 44% YoY แต่พลิกกลับ QoQ จากกำไรหลักไตรมาส 3/65 ที่ 74 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิสูงกว่าคาดมากถึง 132% เนื่องจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มากกว่าคาด ในขณะที่ผลประกอบการหลักออกมาเป็นขาดทุนหลักเทียบกับประมาณการก่อนหน้าของเราที่คาดเป็นกำไรหลัก 111 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนบริการและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงกว่าคาด ยอดขายต่ำกว่าคาด 3% ในขณะที่ต้นทุนบริการและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงกว่าคาดคิดเป็น 20% และ 36% ตามลำดับ กำไรขั้นต้นและกำไรหลังหักภาษีต่ำกว่าคาดคิดเป็น 21% และ 87% ตามลำดับ

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

ผลขาดทุนหลักที่ลดลง YoY เนื่องจากส่วนแบ่งขาดทุนจากลาวเทเลคอมที่ลดลง (เนื่องจากเงินกีบลาวเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่เริ่มนิ่งมากขึ้นในไตรมาส 4/65 ส่งผลให้ผลขาดทุนของลาวเทเลคอมลดลง) ซึ่งกลบค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด ยอดขายที่ลดลง และต้นทุนบริการที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ยอดขายในไตรมาสนี้ลดลง 7%YoY และ 3%QoQ เนื่องจากอัตราการเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมที่ลดลงของลูกค้าบรอดแบนด์จากต่างประเทศ (เนื่องจากดาวเทียมไอพีสตาร์ที่ใกล้สิ้นสุดอายุการใช้งานดาวเทียมในปี 2567) ถ้าแบ่งแยกรายได้จากภูมิศาสตร์รายได้จากประเทศไทยเพิ่มขึ้น 3%YoY แต่รายได้จากประเทศออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่นกลับลดลง 2%YoY 25%YoY และ 52%YOY ตามลำดับ รายได้จากธุรกิจดาวเทียม อยู่ที่ 736 ล้านบาท ลดลง 7%YoY รายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 8 ล้านบาท ทรงตัว YoY และ ณ สิ้นไตรมาส 4/65 อัตราการเช่าใช้ช่องสัญญาณ ดาวเทียมเฉลี่ยของทั้งดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 อยู่ที่ 53% (เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 52% ณ สิ้นไตรมาส 3/65) และสําหรับในไตรมาส 4/65 ต้นทุนบริการรวมเพิ่มขึ้น 3% YoY ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 40% YoY (สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากต้นทุนค่าบุคลากรที่เพิ่มขึ้น)

แนวโน้ม

เราคาดกําไรหลักไตรมาส 1/66 ที่ 75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นแรง 591% YoY (เนื่องจากฐานกำไรหลักไตรมาส 1/65 ที่อยู่ในระดับที่ต่ำมาก ภาระภาษีจ่ายที่ลดลง และส่วนแบ่งขาดทุนจากลาวเทเลคอมที่ลดลงจากปัจจัยหนุน ได้แก่ ค่าเงินกีบที่เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นถ้าเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ) และเนื่องจากอายุการใช้งานทางวิศวกรรมของดาวเทียมไทยคม 4 มีกำหนดสิ้นสุดลงในปี 2567 THCOM จึงจําเป็นต้องสร้างดาวเทียมดวงใหม่ขึ้นไปประจำที่วงโคจรตำาแหน่ง 119.5 องศาตะวันออกอย่างเร่งด่วน ซึ่งคาดว่าการยิงดาวเทียมดวงใหม่จะเกิดขึ้นในตำแหน่งวงโคจร 119.5 องศาตะวันออกก่อนตำแหน่งวงโคจร 78.5 องศาตะวันออก บริษัทมีแผนที่จะสร้างดาวเทียมดวงใหม่สามดวง ได้แก่ ดาวเทียมขนาดเล็กจำนวนสองดวง และดาวเทียมขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งดวง ที่วงโคจรตำแหน่ง 119.5 องศาตะวันออก และจากงบลงทุนทั้งหมด 370 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.23 หมื่นล้านบาท) (1) 65.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ 2.18 พันล้านบาทต่อดาวเทียม 1 ดวง) จะนำไปลงทุนในการสร้างดาวเทียมขนาดเล็ก (10Gbps) ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมด 2 ปี และคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ในปี 2568 (2) 238 ล้านเหรียญสหรัฐ (7.92 พันล้านบาท) จะนำไปลงทุนในการสร้างดาวเทียมขนาดใหญ่ (100Gbps) ซึ่งจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 3/70 และ (3) 64 ล้านเหรียญสหรัฐ (2.13 พันล้านบาท) จะนำไปลงทุนสำหรับการสร้างเกตเวย์ดาวเทียม หรือการบริหารจัดการแทรฟฟิกดาวเทียม

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

เรายังคงประมาณการกำไรหลักปี 2566 ไว้เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่คาดว่าจะทำการทบทวนประมาณการ และสมมติฐานของเราสำหรับรายได้ ต้นทุน และงบลงทุนของวงโคจรตำแหน่ง 119.5 องศาตะวันออกใหม่อีกครั้งตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป ซึ่งก่อนหน้านี้เราคาดว่าจะมีเพียงแค่การขึ้นดาวเทียมขนาดใหญ่เพียงแค่ดวงเดียว สำหรับวงโคจรตำแหน่ง 119.5 องศาตะวันออก เรามองว่าเป็นอัพไซด์สำหรับมูลค่าเพิ่มที่จะมาจากดาวเทียมดวงใหม่ที่จะสร้างเพิ่มในตำแหน่ง 119.5 องศาตะวันออก

คําแนะนํา

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น THCOM เนื่องจากอัพไซด์จากการสร้างและยิงดาวเทียมดวงใหม่ที่ตำแหน่งวงโคจร 119.5 และ 78.5 องศาตะวันออก

- Advertisement -