บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Global Power Synergy (GPSC.BK/GPSC TB)*

ผลประกอบการ 4Q65: อย่ายอมแพ้!

Event

ผลประกอบการ 4Q65 และ conference call กับผู้บริหาร

Impact

ผลประกอบการ 4Q65 – ดีกว่าเราคาด 12% แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดอย่างมาก

GPSC ขาดทุนสุทธิ 436 ลบ.ใน 4Q65 (จากกำไรสุทธิ 331 ลบ. ใน 3Q65 และ 1.16 พันลบ. ใน 4Q64) ดีกว่าที่เราคาดจากค่าใช้จ่ายภาษีต่ำเกินคาด ทั้งนี้มีการบันทึกรายการพิเศษดังนี้ i) กำไรจาก FX 372 ลบ. ii) ค่าใช้จ่าย amortization 458 ลบ. จากการซื้อ Glow iii) ค่าสินไหมประกัน 408 ลบ. จากกรณี GE เฟสที่ 5 iv) ค่าใช้จ่าย write off ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Replacement 270 ลบ.และ v) การปรับมูลค่าสต็อกถ่านหินของ Gheco-One 223 ลบ. 4Q22 ทั้งนี้ บริษัทมีผลขาดทุนจากธุรกิจหลัก 267 ลบ. (จากที่มีกำไรจากธุรกิจหลัก 845 ลบ.ใน 3Q65) ในขณะที่กำไรสุทธิและกำไรหลักปี 2565 อยู่ที่ 891 ลบ. (-88% YoY) และ 1.92 พันลบ. (-75% YoY) ห่างจากที่ตลาดคาดอย่างมาก และ ROE ปี 2565 เหลือ 0.8% จาก 0.9% ในปี 2564

ผลการดำเนินการส่วนใหญ่ออกมาแย่ เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้นและปัจจัยฤดูกาล

อัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q65 ลดลงถึง 57% QoQ และ 80% YoY เหลือ 1% (จาก 2.4% ใน 3Q65 และ 7.9% ใน 4Q64) โดยกำไรที่แย่ลง QoQ เป็นเพราะ i) ราคาก๊าซและถ่านหินของ SPP เพิ่มขึ้นเป็น 534 บาท/mmbtu (+4% QoQ, +61% YoY) และ US$423/ตัน (+19% QoQ, +193% YoY) เพราะ lag-time effects ii) อุปสงค์ไฟฟ้าจากกลุ่ม PTT ซบเซา นำโดย IRPC และ PTTGC iii) ค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และโครงการไซยะบุรีแย่ลง ส่วนกำไรขั้นต้นที่แย่ลง YoY เป็นเพราะราคาก๊าซและถ่านหินเพิ่มขึ้น อุปสงค์สาธารนูปโภคจากผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรมลดลง, และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น แต่ยังได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรของบริษัทในเครือ และค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง

ประมาณการ 1Q66F และปี 2566 – คาดว่ากำไรจะดีดตัวแรง

เราคาดว่ากําไรสุทธิใน 1Q66F จะดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง QoQ เนื่องจาก SG&A กลับมาอยู่ระดับปกติ margin เพิ่มขึ้นจากการขึ้นค่า Ft 0.61 บาท/kWh ในขณะที่ราคาถ่านหินและก๊าซลดลง เราคาดว่าราคาก๊าซ blended SPP ซึ่งตามหลังราคาก๊าซของ SPP 1 เดือนจะลดลง ~15-20%QoQ ใน 1Q66 ตามหลัง SPP รายอื่นๆ ขณะเดียวกันเราคาดว่าราคาถ่านหินจะลดลง QoQ โดยจะมีช่วงเหลื่อมเวลา 2-3 เดือน หลังดัชนีราคาถ่านหิน New Castle มองไปข้างหน้าเราคาดว่ากำไรรายไตรมาสจะขยับเพิ่มขึ้น โดยราคาก๊าซน่าจะลดลงตามราคาน้ำมันและการเพิ่มการผลิตที่แหล่งก๊าซเอราวัณ ในขณะที่ราคาถ่านหินน่าจะลดลง เนื่องจากอุปสงค์กลับมาระดับปกติ ดังนั้น เราจึงยังคงคาดกำไรหลักปี 2566F เอาไว้เท่าเดิมที่ 6.1 พันลบ. (+230% YoY) จากอานิสงส์ค่า Ft ที่อยู่ในขาขึ้น และราคาพลังงานที่ลดลง ซึ่งทำให้ margin เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เรายังคาดว่า CFXD และ Avaada น่าจะแข็งแกร่งขึ้นด้วย สำหรับแนวโน้มในเดือน ก.พ. 2566 เรายังคงเห็น forward curve ของ Asia JKM (LNG) และ ICE Newcastle (ถ่านหิน) ยังลดลงต่อ ซึ่งหมายความว่าราคาสัญญา future จะลดลง และต่ำกว่าเมื่อเดือน ม.ค. 2566

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย DCF ที่ 80 บาท เราคิดว่าระยะสั้นราคาหุ้นจะได้รับผลกระทบจากการดีดตัวของราคาพลังงาน, อัตราผลตอบแทนพันธบัตร, และ USS/THB ทั้งนี้เรามองว่าผลการดำเนินงานที่ใน 4Q65 ไม่ได้เปลี่ยนพื้นฐานระยะยาว GPSC เราแนะนำให้นักลงทุนใช้โอกาสเข้าซื้อหุ้น โดยเราชอบ GPSC เพราะแนวโน้มที่ดีของ Avaada และทางลัดในการเติบโตธุรกิจ EV

Risks

ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, ปัญหา cost overruns, และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย

- Advertisement -