บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +13.6%
Close Feb 10, 2023 Price (THB) 13.20
12M Target (THB) 15.00
Previous Target (THB) 15.00
What’s new?
- งานประมูลใหม่จากภาครัฐยังเป็นความหวัง แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งอาจทําให้ความคืบหน้าของงานประมูลล่าช้า คาดภายในปี 2566 อาจเห็นงานใหม่ราว 1-2 โครงการ
- เป้างานในมือระดับแสนล้านบาท ยังมีความเป็นไปได้ จากโครงการสนามบินอู่ตะเภา วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท ช่วยสนับสนุน
Our view
- คาด 4Q65 มีกำไรปกติ 150 ล้านบาท {-43%YoY, +84%QoQ) คาดผลประกอบการค่อยๆ เริ่มฟื้นตัว หลังปัญหาคนงานขาดแคลนได้รับการแก้ไข ส่งผลให้งานระหว่างทำสามารถเดินหน้าได้เต็มที่มากขึ้น
- ปัจจัยเสี่ยง: ผลกระทบจาการประมูลล่าช้ากว่าคาด / การเปลี่ยนแปลงของราคาวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันกดดันความสามารถในการทำกำไร
SINO-THAI ENGINEERING AND CONSTRUCTION 4Q65 รายได้ก่อสร้างต่อเนื่อง..คาดกำไรโต OoQ..
คาด 4Q65 กำไรฟื้นตัว QoQ
ใน 4Q65 เราคาด STEC จะมีกำไรปกติ 150 ล้านบาท (-43%YoY, +8.4%QoQ) คาดจะมีรายได้ 7.8 พันล้านบาท (+12.4%YoY, +5.6%QoQ) การรับรู้รายได้จากโครงการในมือ เช่นงานโรงไฟฟ้าปลวกแดง รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และงานรถไฟฟ้า อัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ 4.4% ลดลงเมื่อเทียบกับ YoY ที่ 5.6% แต่ทรงตัวเมื่อเทียบกับ QoQ ที่ 4.4% ผลประกอบการโดยรวมลดลง YoY จากอัตรากำไรขั้นต้น ส่วนหนึ่งเกิดจากราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบจากเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับ QoQ เห็นการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องหลัง ประเด็นคนงานขาดแคลนได้รับการแก้ปัญหา ทำให้ความคืบหน้าของงานมีมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของ STEC มีกำไรปกติปี 2565 ราว 693 ล้านบาท ใกล้เคียงกับประมาณการของเรา
คงเป้างานในมือระดับแสนล้านบาทภายในปี 2566
แม้ว่าในปี 2566 งานประมูลภาครัฐอาจมีความล่าช้า และไม่แน่นอนจากประเด็นทางการเมือง อย่างไรก็ดี เราคาดว่าภายใต้รัฐบาลใหม่ การผลักดันโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน ยังเป็นงานอันดับต้นๆ ที่ภาครัฐให้ความสนใจ คาดจะเห็นโครงการที่ได้รับการอนุมัติภายในสิ้นปี 1-2 โครงการ อย่างไรก็ดี ความล่าช้าของงานประมูลอาจไม่กระทบกับ STEC มากนัก เนื่องจากบริษัทมีการรับงานต่อเนื่อง โดยในปี 2565 ได้รับงานใหม่มูลค่าโดยรวม 2.3 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ STEC ยังคงมีงานในมือระดับสูง 9.2 หมื่นล้านบาท โดยมีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาที่คาดเกิดขึ้นภายในปี คืองานสนามบินอู่ตะเภามูลค่าโครงการราว 2.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนงานในมือภายในสิ้นปี สูงกว่าระดับแสนล้านบาท
แนะนำ “ซื้อ”
STEC ยังคงเป็น 1 ในผู้รับเหมารายใหญ่ที่มีโอกาสดีต่อการประมูลโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ เราคาดว่าหลังการเมืองมีความชัดเจน และงานประมูลมูลค่าสูงที่เริ่มเห็นกรอบเวลาโครงการที่คาดหมาย เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยายรถไฟทางคู่เฟส 2 และงานสนามบิน จะช่วยเพิ่มงานในมือระหว่างปี 2566-2567 โดยเราคาดผลประกอบการของ STEC จะค่อยๆ เห็นการฟื้นตัว โดยเราประเมินกำไรปกติปี 2566 ที่ 923 ล้านบาท (+33%YoY) ปัจจุบันบริษัทซื้อ ขายในระดับ PBV ที่ 1.1 เท่า น้อยกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ซื้อขาย PBV บนระดับ 1.7 เท่า ราคาเหมาะสมปี 2566 ที่ 15 บาท (อ้างอิง PBV -0.75 SD ที่ 1.35 เท่า) ยังมี Upside gain 13.6%