บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +21.5%
Close Feb 9, 2023 Price (THB) 33.75
12M Target (THB) 41.00
Previous Target (THB) 35.00
What’s new?
- คาด 4Q65 รายงานกำไรปกติ 1.9 พันล้านบาท (-4% QoQ, +17% YoY) กำไรยังทรงตัว QoQ แม้ผ่านช่วง พีคของโรงแรมยุโรปไปแล้ว จากแรงหนุนของตลาดอื่นและธุรกิจอาหารที่เข้าสู่ช่วง High Season
- แนวโน้ม 1Q66 คาดกำไรปกติฟื้นตัวเด่น YoY จากฐานต่ำ ขณะที่ QoQ กำไรปกติอาจชะลอตัวลงเล็กน้อย เพราะการเข้าสู่ช่วง Low Season ของโรงแรมยุโรปเต็มตัว
Our view
- เราปรับประมาณการปี 2565-2566 ขึ้นเป็นคาดกำไรปกติ 1.6 พันด้านบาท และ 5.5 พันล้านบาท ตามลำดับ
- จากแรงกดดันของปัจจัยมหภาคและต้นทุนราคาพลังงานที่ลดลง เราปรับ EV/EBTIDA Multiple ขึ้นเป็นเทียบเท่าค่าเฉลี่ยในอดีต
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสิ้นปี 2566 ที่ 41.00 บาทต่อหุ้น จากพัฒนาการด้านต้นทุนที่ดีขึ้น มีโอกาสทำให้ราคาหุ้นฟื้นตัวต่อไม่ยาก
MINOR INTERNATIONAL คาดผลประกอบการ 4Q65 ยังโดดเด่น
คาดผลประกอบการ 4Q65 ทรงตัว QoQ และเติบโต YoY
คาด 4Q65 รายงานกำไรปกติ 1.9 พันล้านบาท (-4% QoQ, +17% YoY) ทรงตัว QoQ แม้ผ่าน Peak Season ในยุโรปไปแล้ว จากแรงหนุนของตลาดอื่น และธุรกิจอาหารที่เข้าสู่ช่วง High Season สรุปดังนี้
1) ธุรกิจโรงแรมคาดรายได้ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท (-6% QoQ, +50% YoY) คาด Occ. Rate เฉลี่ยทั้งกลุ่มที่ 66% เทียบกับ 67% ใน 3Q65 และ ADR เฉลี่ย -6% QoQ ลดลงเล็กน้อยหลักๆ จากปัจจัยด้านฤดูกาลของโรงแรมในยุโรป แต่ตลาดอื่นๆ เราคาดเติบโตเด่น ขณะที่ RevPar เฉลี่ยเราคาดเติบโตได้ราว 30% เทียบกับ 4Q62 สะท้อนกลยุทธ์การปรับขึ้น ADR ที่ทำได้ดี แม้นักท่องเที่ยวยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว
2) ธุรกิจอาหารคาดรายได้ 7.2 พันล้านบาท (+2% QoQ, +23% YoY) คาด SSSG เฉลี่ยที่ +10% YoY การเติบโตยังหนุนจากตลาดไทย และตลาดออสเตรเลีย ขณะที่ตลาดในจีน SSSG ยังถูกกดดัน -10% YoY
3) คาด SG&A ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท (-3% QoQ, -23% YoY) คาด SG&Asales ที่ 34% ใกล้เคียง 3Q65
แนวโน้ม 1Q66 ยังโตเด่น YoY ต่อ ปรับประมาณการปี 2565-66 ขึ้น
แนวโน้ม 1Q66 เราคาดผลประกอบการจะฟื้นตัวเด่น YoY จากฐานต่ำ เพราะการระบาดโอไมครอน แต่ QoQ เราคาดกำไรปกติจะชะลอตัวลง หลักๆ กดดันจากโรงแรมในยุโรปที่เข้าสู่ช่วง Low Season เต็มตัว หากผลประกอบการ 4Q65 เป็นไปตามคาด จะทำให้ประมาณการปี 2565 ของเรามี Upside Risk หลักๆ จากการฟื้นตัวเด่นกว่าคาดของรายได้ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารในช่วง 2H65 และการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ทำได้ดีกว่าคาด SG&A tossales เริ่มต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วง Pre-COVID- 19 แล้ว ซึ่งเป็นผลจากการปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2565 ขึ้ม 42% เป็นคาด 1.6 พันล้านบาท จากเดิมคาด 1.1 พันล้านบาท และสำหรับประมาณการปี 2566 เราปรับกำไรปกติขึ้น 7% เป็นคาดกำไรปกติ 5.5 พันล้านบาท จากเดิมคาดกำไรปกติ 5.2 พันล้าน บาท หลักๆ จากการปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ขึ้นราว 7% และปรับ SG&A to sales ลดลงเป็น 37.2%
ปรับ EV/EBITDA Band ขึ้นสะท้อนความเสี่ยงในยุโรปที่คลี่คลายลง
เราเริ่มเห็นความผ่อนคลายของแรงกดดันสำคัญต่อพอร์ตโรงแรมในยุโรปของ MINT ที่คิดเป็นสัดส่วนรายได้กว่า 50% ของรายได้รวม จากราคาต้นทุนพลังงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และตัวเลขการคาดการณ์โอกาสของการเกิดเศรษฐกิจถดถอยในยุโรปที่ลดลง เมื่อประกอบกับบริษัททำสัญญาล็อกค่าไฟสำหรับปี 2566 ไว้แล้วกว่า 65%-70% ทำให้การเติบโตของกำไรปกติไปสู่ 5.5 พันล้านบาท (+248% YoY) บนประมาณการของเราคาดยังเป็นไปได้ไม่ยาก จากแรงส่งของการเป็นปีแรกที่ก้าวข้าม COVID-19 เต็มปี เราคาดประเด็นกดดันข้างต้นจะช่วยปลดล็อกความกังวล และตลาดจะให้ความสนใจเก็งกำไรในประเด็นผลประกอบการปี 2566 ที่ฟื้นตัวเด่น ทำให้ในแง่ของการประเมินมูลค่า เราปรับเพิ่ม EV/EBITDA Multiple จากเดิมที่ระดับ -0.25SD ขึ้นเป็นเทียบเท่าของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี
คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 เป็น 41.00 บาทต่อหุ้น
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ผลของการปรับเพิ่มประมาณการและ EV/EBITDA Multiple ทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ปรับขึ้นเป็น 41.00 บาทต่อหุ้น (อิง EV/EBITDA ที่ 10 เท่า) ความผันผวนของราคาหุ้นเริ่มลดลง หลังความเสี่ยงจากราคาต้นทุนพลังงาน และ Recession บรรเทาความรุนแรง พัฒนาการด้านต้นทุนที่ดีขึ้น และผลประกอบการที่ยังทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสทำให้ราคาหุ้นยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อ
ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าคาดการณ์, การระบาด COVID-19 รอบใหม่, เศรษฐกิจถดถอยรุนแรงทั่วโลก และการแข่งขันด้านราคาในระยะถัดไป