บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Upgrade)

TP upside (downside) +14.3%

Close Feb 9, 2023 Price (THB) 59.50

12M Target (THB) 68.00

Previous Target (THB) 56.00

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q65 ที่ 589 ล้านบาท (-30% QoQ, +51% YoY) ชะลอ QoQ ตามปัจจัยด้านฤดูกาล แต่เติบโต YoY จากฐานต่ำ เพราะการรับรู้ผลขาดทุน SiC สูงเป็นไตรมาสแรกใน 4Q64
  • คาดเบื้องต้นกำไรปกติ 1Q66 ลดลง QoQ กดดันจากยอดขายและ GPM ที่ลดลง แต่ยังเติบโต YoY ได้จากฐานต่ำ

Our view

  • เราคงประมาณการปี 2565-66 แต่ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ใหม่ที่ 68.00 บาทต่อหุ้น อิง PER 21x (+0.25 SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)
  • HANA เป็นหนังในหุ้นที่เรามองว่าพื้นฐานดี และมีประเด็นการเติบโตที่น่าสนใจในระยะยาว ดังนั้นจังหวะการอ่อนตัวของราคาหุ้น เรามองเป็นโอกาสในการสะสม ระดับราคา +/- 55.00 บาทต่อหุ้น ถือว่าไม่แพงแล้ว

HANA MICROELECTRONICS สะสมในเวลาที่ตลาดกลัว

คาดกำไรปกติ 4Q65 ลดลง QoQ แต่เติบโตแรง YoY

คาดกำไรปกติ 4Q65 ที่ 589 ล้านบาท (-30.2% QoQ, +50.6% YoY) กำไรปกติชะลอตัว QoQ ตามปัจจัย ด้านฤดูกาลของธุรกิจ แต่เติบโต YoY จากฐานต่ำ เพราะผลขาดทุนธุรกิจ SiC สรุปสาระสำคัญดังนี้

1) คาดรายได้หลักที่ 7.0 พันล้านบาท (-7.9% QoQ, +11.0% YoY) คาดยอดขายสกุลเงิน USD ที่ 192 ล้านเหรียญ (-7.3% QoQ, +2 1% YoY) ลดลง QoQ หลักๆ ในกลุ่มสินค้า IC ที่ชะลอตัวตามความต้องการที่ลดลงของกลุ่มมือถือทั้งตลาดในไทยและจีน ขณะที่ยอดขายกลุ่ม PCBA เราคาดทรงตัว QoQ

2) คาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 13.5% (-196bps QoQ, +274bps YoY) ที่ลดลง QoQ เราคาดกดดัน GPM จากค่าเงินบาท/USD ที่แข็งค่าเร็วช่วงปลาย 4Q65 ส่วนคาด GPM ที่ดีขึ้น YoY เนื่องจากผลขาดทุนธุรกิจ SiC กดดันหนักใน 4Q64 เพราะเป็นการบันทึกผลขาดทุนของปี 2564 ในไตรมาสนี้ครั้งเดียว

3) SG&A คาดที่ 382 ล้านบาท (-6.3% QoQ, +5.5% YoY) คาด SG&A to sales ที่ 5.5% ใกล้เคียง 3Q65 หากประมาณการ 4Q65 ออกมาตามคาด กำไรปกติทั้งปี 2565 จะอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท (+7% YoY) ใกล้เคียงคาดการณ์ทั้งปี 2565 ของเรา เราคาดปันผล 2H65 ที่ 1.0 บาทต่อหุ้น คิดเป็น yield ที่ 1.7%

ภาพรวมปี 2566 คาดกำไรปกติยังทรงตัว YoY ได้

แนวโน้ม 1Q66 เบื้องต้นเราคาดกำไรปกติลดลง QoQ จากทั้งยอดขายชะลอตัวและค่าเงินบาท/USD ที่แข็งค่า กดดัน GPM แต่คาดกำไรปกติเติบโต YoY เนื่องจาก GPM ที่ต่ำผิดปกติใน 1Q65 ภาพรวมทั้งปี 2566 เราคาดกำไรปกติที่ 2.6 พันล้านบาท (+4.4% YoY) แม้ว่าสินค้ากลุ่ม Consumer Electronic, กลุ่มมือถือ และ PC (ราว 40% ของยอดขายรวม) จะมีโอกาสได้รับผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่หน่วยธุรกิจ SiC ภายใต้บริษัทลูก “PMS” ที่ลงทุนหนักไปก่อนหน้า จะเริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้ผลขาดทุนลดลง คาดช่วยหนุนให้กำไรยังประคองตัวได้ YoY แม้เผชิญ Recession

ปรับ PE-Band สะท้อนความเสี่ยง Recession ที่เริ่มลดลง

ในแง่ของการประเมินมูลค่าหุ้น ด้วยความเสี่ยงของ Recession ที่ลดลง ทำให้เราปรับเพิ่ม P/E Multiple จากระดับ -0.25SD ขึ้นเป็น +0.25SD แม้ในระยะสั้นการเก็งกำไรจากผลประกอบการอาจไม่มีสีสันมากนัก แต่แนวโน้มของอุตสาหกรรม เราคาดว่าจะพบจุดต่ำสุดในช่วง 1H66 หลังผ่านรอบ Down Cycle ครบ 12 เดือน ทำให้ใน 2H66 ตลาดมีโอกาสกลับมาซื้อขาย HANA สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวเพื่อกลับไปให้ Premium กับโอกาสสำเร็จในธุรกิจ SiC อีกครั้ง จากการกระจายรายได้ที่ดีขึ้น มีอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้น และที่สำคัญตลาด SiC มีโอกาสเติบโตอีกมากในระยะยาว หากตลาดมองกรอบ PE-Band +0.25SD ถึง +0.5SD ราคาหุ้นมีโอกาสไปได้ในกรอบ +/- 70.00 บาทต่อหุ้น เราเชื่อว่ามีความเป็นไปได้จากการเศรษฐกิจถดถอยไม่ได้รุนแรงและลากยาว

ปรับคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 เป็น 68.00 บาท

เราปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ขึ้นเป็น 68.00 บาทต่อหุ้น จากการปรับ PER ขึ้นเป็น 21x (+0.25SD) ด้วย Dividend Yield และ Upside ที่เปิดกว้างมากขึ้น ทำให้เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” แม้ในระยะสั้นหุ้นอาจจะถูกกดดันจากผลประกอบการที่ไม่เด่น แต่มุมมองในระยะยาว เรามองว่าน่าสนใจ ปี 2566 เป็นปีของการกลับมาสะสมกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานดีที่มีความสามารถจะผ่านวิกฤติไปได้ และมีประเด็นการเติบโตที่น่าสนใจในระยะยาว  ซึ่งเราเลือก HANA เป็นตัวแทนการลงทุนดังกล่าว

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) ค่าเงินบาท/USD 2) ผลขาดทุนของธุรกิจ SiC สูงกว่า หรือยาวนานกว่าคาด และ 3) การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

- Advertisement -