บมจ.เรดดี้แพลนเน็ต (READY) ปลื้ม !! ปิดจองซื้อหุ้น IPO 35 ล้านหุ้น ผลตอบรับล้นหลาม ผู้บริหารขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในธุรกิจที่มีเส้นทางการเติบโตมากว่า 22 ปี เป็นผู้นำ Marketing Technology พัฒนาแพลตฟอร์มของคนไทย ติดอาวุธด้านการขายและการตลาดดิจิทัลให้ธุรกิจไทย พร้อมเติบโตไปพร้อมกับ Digital Economy ปักธงเข้าซื้อขายวันแรกใน mai 22 ก.พ.นี้
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า ในช่วงเปิดจองซื้อหุ้น IPO ของ READY ระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาเต็มจำนวน สะท้อนความเชื่อมั่นบริษัท ในฐานะหนึ่งในผู้นำ Marketing Technology นำทัพโดยทีมผู้บริหารที่คร่ำหวอดในวงการกว่า 22ปี ทำให้แม้ภายใต้สถานการณ์วิกฤตในช่วงโควิด บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์มุ่งสู่การเติบโตด้วยแพลตฟอร์มที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาขึ้นเอง ตอบโจทย์ด้านการขายและการตลาดของธุรกิจไทย และอยู่ในเทรนด์ของอุตสาหกรรมดิจิทัลที่เติบโตในช่วงขาขึ้น
รวมถึงการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ (IPO) จำนวน 35,000,000 หุ้น ไว้ที่ราคาหุ้นละ 7.30 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ประมาณ 31.74 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565) ทั้งนี้ READY พิจารณานำ P/E ของคู่เทียบในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการประเมินราคาหุ้นที่เสนอขาย โดยมี P/E เฉลี่ยกลุ่ม TECH mai ในช่วง 1 ปีย้อนหลังเฉลี่ยที่ 55.70 เท่า จึงมั่นใจว่า READY จะได้รับการตอบรับที่ดีในโอกาสเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ในหมวดธุรกิจ เทคโนโลยี (Technology)
นายทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ READY กล่าวว่า ขอขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพและการเติบโตของREADY ทำให้การจองซื้อหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ และสามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายที่บริษัทฯ วางไว้
โดยหลังจากนี้บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จำนวนประมาณ 100 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) ใช้สำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Readyplanet All-in-One Platform) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและคุณสมบัติในการทำงาน (Functions & Features) ให้สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ จำนวนประมาณ 50 ล้านบาท รวมทั้ง ใช้สำหรับขยายทีมขายและทีมการตลาด ในการหาลูกค้าใหม่ (New Customer Acquisition) เพื่อขยายฐานลูกค้า และนำเสนอบริการเพิ่มจากฐานลูกค้าปัจจุบัน (Up-selling & Cross-selling) จำนวนประมาณ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเตรียมเงินไว้ใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ จำนวนประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับรองรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต และสนับสนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดด
ด้าน นายอมร พิริยะแพทย์สม Executive Vice President บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO ของ READY สะท้อนความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ด้วยคณะผู้บริหารและทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ สามารถตอบสนองลูกค้าองค์กรที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ และการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดออนไลน์ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์และสร้างกำไรที่รวดเร็ว อีกทั้ง มีศักยภาพการเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ได้รับประโยชน์จากความต้องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของลูกค้าองค์กร ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ขณะที่ภาพรวมการดำเนินงานของ READY สะท้อนการฟื้นตัวอย่างชัดเจน งวด 9 เดือนแรกในปี 2565 มีรายได้รวม 119.06 ล้านบาท เป็นรายได้จากการให้บริการ 118.21 ล้านบาท เติบโต 12.03% กำไรสุทธิ 13.59 ล้านบาท เติบโต 189.15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีสัดส่วนรายได้ 95% ของทั้งหมดเป็น Recurring Income ที่จะได้รับค่าบริการเป็นรายเดือนหรือรายปี และยังได้รับชำระค่าใช้บริการล่วงหน้า ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน พร้อมทะยานต่อในปี 2566 รับภาพรวมอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่เข้าสู่ยุคของการขายและการตลาดเต็มกำลัง สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นเทคฯ อนาคตไกล